วารสารเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร ปีที่ 2 ฉบับที่ 2

เคล.....พืชอีกชนิดที่น่าสนใจของตลาดไทย 4. เคลหรือผักเคลเป็นหนึ่งในพืชที่มีวิตามินเคสูง โดยมีรายงานว่าเคลสด 1 ถ้วยมีวิตามินเค เกือบ 7 เท่าของปริมาณที่แนะนำ ให้บริโภคต่อวัน ซึ่งวิตามินเคเป็นสารอาหารที่สำ คัญมากต่อร่างกาย เพราะ ช่วยให้เลือดแข็งตัว เป็นการป้องกันอาการเลือดไหลไม่หยุด โดยอาศัยหลักการกระตุ้นโปรตีนบางชนิด ให้สามารถจับแคลเซียมได้ โดยวิตามินเค ที่พบในเคลเป็นวิตามินเค ประเภทเค 1 หรือฟิลโลควิโนน (Phylloquinone) ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและโรคกระดูดพรุน 5. เคลหรือผักเคลช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล โดยอาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ ซึ่ง คอเรสเตอรอลแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ Low Density Lipoprotein (LDL) และ High Density Lipoprotein (HDL) โดย LDL คือไขมันเลวที่จะไปสะสมอยู่บนผนังหลอดเลือดทำ ให้หลอดเลือด ของเราอุดตัน ในขณะที่ HDL คือไขมันดีที่มีหน้าที่ไล่เก็บของเสียหรือไขมันส่วนเกินให้กลับคืนสู่ กระแสเลือด เพื่อให้ตับนำ ไขมัน คอเลสเตอรอลเหล่านั้นไปสร้างเป็นกรดน้ำ ดี (Bile acids) ซึ่งเป็นสาร ที่ช่วยให้ร่างกายย่อยไขมันทั้งหมดในร่างกายต่อไป อีกทั้งยังพบว่า ผักเคลมีฤทธ์เป็นคอเลสไทรามีน (Cholestyramine) หรือยาในกลุ่มที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดถึง 43 เปอร์เซ็นต์ จึงจัดได้ว่าผักเคล เข้าหลักการการบริโภคอาหารให้เป็นยาอย่างแท้จริง 6. เคลหรือผักเคลมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดมะเร็งได้ เนื่องจากมีซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งเป็น สารที่ช่วยต่อต้านการก่อตัวของมะเร็งในระดับโมเลกุล และ Indole-3-carbinol (I3C) ซึ่งเป็นสารที่เมื่อ ร่างกายได้รับเข้าไปแล้ว จะไปเปลี่ยนเป็นสารอีกตัวหนึ่ง เรียกว่า Diindolylmethane (DIM) ซึ่งให้ผลใน การต่อต้านมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งจากการศึกษาพบว่า สารเหล่านี้ นอกจากจะพบในเคลแล้วยังสามารถพบได้ในพืชตระกูลกะหล่ำ บางชนิดอีกด้วย (Šamec and Salopek-Sondi, 2018) 7. ผักเคลมีปริมาณเบต้าแคโรทีนที่สูง ซึ่งทำ ให้ใครหลายคนเข้าใจผิดคิดว่า ผักเคลเป็นผักที่มี วิตามินเอสูงตามไปด้วย อาจเป็นเพราะเบต้าแคโรทีนเป็นสารตั้งต้นหลักของวิตามินเอ ที่สามารถ รูปเป็นเรตินอล (Retinol) ได้ที่เยื่อบุผนังลำ ไส้เล็กและตับ อย่างไรก็ตามเบต้าแคโรทีนยังมีส่วนช่วยใน การต้านอนุมูลอิสระ บำ รุงสุขภาพดวงตา ช่วยชะลอวัย และกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อ ที-เฮลเปอร์(T-helper) ให้ทำ งานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ต่างๆ เปลี่ยน 8. ผักเคลเป็นแหล่งรวมแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม (Calcium) แมกนีเซียม (Magnesium) และ โพแทสเซียม (Potassium) เป็นต้น เคลเป็นพืชที่มีออกซาเลต (Oxalate) ต่ำ มาก ซึ่งพืชหรือผักบาง ประเภท เช่น ผักโขม จะมีสารตัวนี้ในปริมาณที่สูง โดยฤทธิ์ของออกซาเลต คือ ยับยั้งการดูดซึมของ แคลเซียมและแร่ธาตุสำ คัญหลายชนิดในกระแสเลือด ส่งผลต่อร่างกาย เมื่อบริโภคแคลเซียมหรือแร่ ธาตุเสริมเข้าไปมากเท่าใด ร่างกายของเราก็จะไม่ดูดซึมแร่ธาตุเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ 9. เคลหรือผักเคลมีสารที่ช่วยในการปกป้องดวงตา คือลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ซึ่งมีมากในผักเคล นอกจากนี้พบว่าผู้ที่รับประทานอาหารที่มีลูทีนและซีแซนทีนเพียงพอมีความเสี่ยง ต่อการเสื่อมสภาพของจอประสาทตาและต้อกระจกน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับสารเหล่านี้ในปริมาณที่เพียงพอ 10. เคลหรือผักเคล มีคุณสมบัติและประโยชน์หลายประการที่เป็นมิตรต่อการลดน้ำ หนักของเรา ประการแรก คือผักเคลมีแคลอรี่ที่ไม่สูง ให้พลังงานต่ำ ถัดมาคือ ผักเคลมีโปรตีนและไฟเบอร์ ซึ่งเป็น สารอาหารที่สำ คัญที่สุดสองอย่างในการควบคุมน้ำ หนัก ดังนั้นการบริโภคเคลนอกจะได้รับสารอาหาร ในปริมาณสูงแล้ว ยังมีโอกาสช่วยในการควบคุมน้ำ หนักได้อีกด้วย 4 Journal of Technology and Agricultural Innovation Vol. 2 No. 2 ( July - December 2024 )

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3