คํ
านํ
า
จากการที่
จํ
านวนสถานี
ตรวจอากาศที่
มี
การติ
ดตั้
งเครื่
องมื
อวั
ดรั
งสี
อาทิ
ตย
มี
ความหนาแน
นในเชิ
งพื้
นที่
น
อย
ดั
งนั้
นการใช
ระเบี
ยบวิ
ธี
เชิ
งตั
วเลขสํ
าหรั
บการศึ
กษาเกี่
ยวกั
บปริ
มาณรั
งสี
อาทิ
ตย
จึ
งเป
นทางเลื
อกหนึ่
งที่
มี
ประโยชน
การศึ
กษาเกี่
ยวกั
บพลั
งงานแสงอาทิ
ตย
ที่
ตกกระทบบนพื้
นโลกในช
วงเวลาหนึ่
งๆ การอาศั
ยการตรวจวั
ดโดยใช
ไพรา
นอมิ
เตอร
แสดงดั
งรู
ปที่
1 ในช
วงเวลาดั
งกล
าวยั
งไม
เพี
ยงพอเนื่
องจากในบรรยากาศที่
ไม
มี
เมฆปกคลุ
มนั้
นการกระเจิ
ง
และการดู
ดกลื
นจะเป
นสาเหตุ
หลั
กทํ
าให
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงของสเปคตรั
มและการกระจายเชิ
งพื้
นที่
ของฟลั
กซ
รั
งสี
อาทิ
ตย
น้ํ
าหนั
กของอิ
ทธิ
พลของปรากฏการณ
ทั้
งสองสั
มพั
นธ
กั
บอย
างใกล
ชิ
ดกั
บทางเดิ
นของแนวรั
งสี
และ
องค
ประกอบของบรรยากาศ และจากการที่
มวลอากาศสามารถคํ
านวณได
จากฟ
งก
ชั
นของพิ
กั
ดทางภู
มิ
ศาสตร
ดั
งนั้
น
จึ
งสามารถจํ
าแนกรู
ปแบบของแบบจํ
าลองรั
งสี
อาทิ
ตย
รวมออกเป
น 2 รู
ปแบบ กล
าวคื
อ แบบจํ
าลองเอมพิ
ริ
คั
ลและ
แบบจํ
าลองพารามิ
เตอร
แบบจํ
าลองเอมพิ
ริ
คั
ลเป
นผลมาจากการสร
างสมการตั
วแทนของชุ
ดข
อมู
ลระยะยาวและ
มั
กจะใช
กั
บสถานที่
ใดสถานที่
หนึ่
งเท
านั้
นทํ
าให
เป
นข
อจํ
ากั
ดสํ
าหรั
บการประยุ
กต
ใช
กั
บสถานที่
อื่
นๆ และเป
นข
อด
อย
เมื่
อเปรี
ยบเที
ยบกั
บแบบจํ
าลองพารามิ
เตอร
ซึ่
งมี
พื้
นฐานทางกายภาพที่
สมเหตุ
สมผลกั
บการใช
ข
อมู
ลทางอุ
ตุ
นิ
ยมวิ
ทยา
เป
นตั
วแปรอิ
นพุ
ทให
กั
บแบบจํ
าลอง ถึ
งแม
กระนั้
นเนื่
องจากความง
ายต
อการใช
งานแบบจํ
าลองเอมพิ
ริ
คั
ลยั
งคลมี
การ
ใช
งานกั
นอย
างกว
างขวาง
การสู
ญเสี
ยความเข
มเนื่
องจากเมฆที่
ปกคลุ
มท
องฟ
ามี
ความสํ
าคั
ญมากกว
าส
วนประกอบอื่
นๆ ของ
บรรยากาศ อย
างไรก็
ตามมั
กจะไม
พิ
จารณาตั
วแปรดั
งกล
าวเนื่
องจากการที่
เมฆปกคลุ
มท
องฟ
ามี
การกระจายตั
วอย
าง
สุ
มนั่
นเอง นอกจากนี้
การส
องผ
านเชิ
งแสงมี
ความสั
มพั
นธ
กั
บชนิ
ด ความสู
ง ความลึ
กและการขยายตั
วของชั้
นเมฆ
และส
วนใหญ
พารามิ
เตอร
เพี
ยงสองตั
วแรกเท
านั้
นที่
มั
กจะทราบค
า แบบจํ
าลองหลั
กที่
เกี่
ยวข
องกั
บการสู
ญเสี
ยความ
เข
มของรั
งสี
อาทิ
ตย
เนื่
องจากเมฆถู
กศึ
กษาโดย
mo Angstr
&&
1924 ต
อมา Kasten และ Czeplack 1979 ได
นํ
าเสนอ
แบบจํ
าลองที่
สั
มพั
นธ
กั
บปริ
มาณเมฆที่
ปกคลุ
มท
องฟ
าซึ่
งมั
กจะแสดงอยู
ในรู
ปของจํ
านวนชั่
วโมงที่
มี
แดด โดย
ที
พารามิ
เตอร
ดั
งกล
าวสามารถตรวจวั
ดได
โดยอาศั
ยอุ
ปกรณ
แสดงดั
งรู
ปที่
2
อุ
ณหภู
มิ
อากาศเป
นตั
วแปรทางอุ
ตุ
นิ
ยมวิ
ทยาพื้
นฐานที่
มี
การตรวจวั
ดทั่
วโลกแต
มั
กจะไม
ถู
กใช
สํ
าหรั
บการ
คํ
านวณค
าความเข
มรั
งสี
อาทิ
ตย
อย
างไรก็
ตามยั
งคงมี
บางแบบจํ
าลองที่
ใช
อุ
ณหภู
มิ
อากาศเป
นตั
วแปรอิ
นพุ
ท เช
น
แบบจํ
าลองของ Supit และ Van Kappel 1998 และได
มี
การนํ
าเสนอแบบจํ
าลองสํ
าหรั
บการประมาณค
ารั
งสี
อาทิ
ตย
โดยใช
ข
อมู
ลปริ
มาณเมฆที่
ปกคุ
ลมท
องฟ
า (Munner and Gul 2000) ถึ
งแม
กระนั้
นหลั
งจากที่
ได
มี
การศึ
กษา
เปรี
ยบเที
ยบระหว
างแบบจํ
าลองดั
งกล
าวกั
บแบบจํ
าลองของ
mo Angstr
&&
ผลแสดงให
เห็
นว
าแบบจํ
าลองของ
mo Angstr
&&
มี
ความถู
กต
องแม
นยํ
ามากกว
า (Paulescu et al. 2006)
รู
ปที่
1 Kipp & Zonen CM21 ไพรานอมิ
เตอร