full2012.pdf - page 1735

2
บทนํ
ป
จจุ
บั
นด
วยสภาพเศรษฐกิ
จและสั
งคมของประเทศไทยอยู
ในภาวะของการแข
งขั
น ทํ
าให
การดํ
าเนิ
นชี
วิ
ตของ
ประชาชนประสบกั
บความยากลํ
าบากจนก
อให
เกิ
ดภาวะของความเครี
ยดไม
ว
าจะเป
นความเครี
ยดจากการเรี
ยน การ
ทํ
างาน จากครอบครั
วหรื
อจากสิ่
งแวดล
อม อั
นส
งผลให
มนุ
ษย
หาวิ
ธี
ที่
กํ
าจั
ดความเครี
ยดด
วยวิ
ธี
ต
างๆ และวิ
ธี
หนึ่
งที่
สามารถทํ
าได
คื
อการสู
บบุ
หรี่
แต
การสู
บบุ
หรี่
เป
นสาเหตุ
หนึ่
งที่
ก
อให
เกิ
ดป
ญหาเกี่
ยวกั
บสุ
ขภาพอนามั
ย จากรายงานการ
สํ
ารวจของสํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
(2551 ) พบว
าโรคอั
นเนื่
องมาจากการสู
บบุ
หรี่
บั่
นทอนและลดอายุ
ของผู
สู
บบุ
หรี่
โดย
เฉลี่
ย 5 ป
ถึ
ง 10 ป
บุ
หรี่
ยั
งเป
นสาเหตุ
ที่
ทํ
าให
เกิ
ดโรคมากถึ
ง 25 โรค ซึ่
งล
วนแต
เป
นโรคที่
คุ
กคามสุ
ขภาพทั้
งสิ้
น เช
โรคหั
วใจขาดเลื
อด โรคปอดและมะเร็
งปอด โรคหลอดเลื
อดสมอง โรคสมองขาดเลื
อด เป
นต
น ในป
จจุ
บั
นทั่
วโลกมี
ผู
สู
บุ
หรี่
ประมาณ 1,208.21 ล
านคน เป
นชาย 991.24 ล
านคน หญิ
ง 216.90 ล
านคนและจากศู
นย
ข
อมู
ลข
าวสารเวชภั
ณฑ
กระทรวงสาธารณสุ
ข พบว
าประชากรไทยสู
บบุ
หรี่
ป
ละ 11.03 ล
านคน ซึ่
งการสู
บบุ
หรี่
เป
นป
จจั
ยเสี่
ยงของการเสี
ยชี
วิ
ของคนไทยเป
นอั
นดั
บที่
สาม รองจากการมี
เพสสั
มพั
นธ
ที่
ไม
ปลอดภั
ยและการดื่
มสุ
รา คนไทยเสี
ยชี
วิ
ตจากโรคที่
มี
สาเหตุ
จากการสู
บบุ
หรี่
ป
ละ 42,000 คนถึ
ง 52,000 คน รั
ฐบาลต
องเสี
ยค
าใช
จ
ายในการั
กษาป
ละ 51,569 ล
านบาท ผู
ที่
เสี
ยชี
วิ
จากกการสู
บบุ
หรี่
โดยเฉลี่
ยจะอายุ
สั้
นลง 12 ป
และป
วยหนั
กเป
นเวลา 1.7 ป
ก
อนเสี
ยชี
วิ
จากการสํ
ารวจพฤติ
กรรมการสู
บบุ
หรี่
ของประชากรไทย พ.ศ. 2549 โดยสํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
พบว
า โรคถุ
ลมโป
งพอง (Pulmonary Emphysema) เป
นสาเหตุ
การตายของคนไทยเป
นอั
นดั
บที่
1 คิ
ดเป
นร
อยละ 25.31 ของโรคที่
เกิ
จากการสู
บบุ
หรี่
ทั้
งหมด และสามารถเป
นได
กั
บทุ
กคนจะแตกต
างกั
นที่
ช
าหรื
อเร็
วขึ้
นอยู
กั
บระยะเวลาในการสู
บบุ
หรี่
และ
ปริ
มาณการตอบสนองของร
างกายต
อควั
นบุ
หรี่
โรคถุ
งลมโป
งพองเป
นโรคที่
มี
ภาวะอุ
ดกั้
นอย
างเรื้
อรั
งของหลอดลมที่
ปอดทั้
งสองข
าง โดยมี
พยาธิ
สภาพเกิ
ดที่
หลอดลมขนาดเล็
กและที่
ถุ
งลม โดยสารมลพิ
ษในควั
นบุ
หรี่
จะก
อการระคายเคื
อง
ต
อหลอดลมและทํ
าลายผนั
งถุ
งลม ทํ
าให
เนื้
อเยื่
อหลอดลมและถุ
งลมเสื่
อมลง ส
งผลให
ผู
ป
วยเกิ
ดอาการเหนื่
อยหอบและ
เป
นอั
นตรายต
อชี
วิ
ต ถ
าหากมี
ภาวะแทรกซ
อน เช
น ปอดติ
ดเชื้
อหรื
อมี
ลมรั่
วในช
องปอด นั่
นหมายถึ
งค
าใช
จ
ายในการ
รั
กษาพยาบาลที่
สู
งและยั
งเป
นโรคเรื้
อรั
งที่
มี
ผลกระทบต
อการดํ
าเนิ
นชี
วิ
ต ทํ
าให
ต
องปรั
บเปลี่
ยนกิ
จวั
ตรเพื่
อให
เหมาะสม
กั
บสภาพร
างการที่
อ
อนแอลง ควบคุ
มป
จจั
ยเสี่
ยงของโรค ลดความรุ
นแรงของโรค รวมทั้
งต
องเข
ารั
บการรั
กษาอย
าง
สม่ํ
าเสมอตามแผนการรั
กษาของแพทย
จากป
ญหาดั
งกล
าวผู
วิ
จั
ยจึ
งสนใจที่
จะศึ
กษาต
นทุ
นทางเศรษฐศาสตร
ของผู
ป
วย
นอก (OPD) ที่
เข
ารั
บการรั
กษาพยาบาลโรคถุ
งลมโป
งพอง สาเหตุ
จากการสู
บบุ
หรี่
ณ โรงพยาบาลสงขลานคริ
นทร
จั
งหวั
ดสงขลา เพื่
อเป
นข
อมู
ลให
กั
บบุ
คคลที่
คิ
ดจะสู
บบุ
หรี่
และกลุ
มเยาวชนได
ตระหนั
กถึ
งภั
ยร
ายแรงจากการสู
บบุ
หรี่
สมมติ
ฐานของการวิ
จั
ผู
ป
วยนอกที่
เข
ารั
บการรั
กษาพยาบาลโรคถุ
งลมโป
งพอง สาเหตุ
จากการสู
บบุ
หรี่
ณ โรงพยาบาลสงขลา
นคริ
นทร
จั
งหวั
ดสงขลา มี
สั
ดส
วนของต
นทุ
นค
าเสี
ยโอกาสมากที่
สุ
ดจากต
นทุ
นทางเศรษฐศาสตร
ทั้
งหมด
อุ
ปกรณ
และวิ
ธี
การ
1.งานวิ
จั
ยนี้
จั
ดเป
นการวิ
จั
ยเชิ
งสํ
ารวจ (Survey Research) โดยอาศั
ยข
อมู
ลปฐมภู
มิ
จากแบบสอบถาม
(Questionnaires) ที่
ผ
านกระบวนการพิ
จารณารั
บรองจากคณะอนุ
กรรมการพิ
จารณาจริ
ยธรรมด
านวิ
จั
ย เกี่
ยวกั
บบริ
บาล
ผู
ป
วย คณะแพทยศาสตร
มหาวิ
ทยาลั
ยสงขลานคริ
นทร
กลุ
มตั
วอย
างที่
ใช
ในการวิ
จั
ย คื
อ ผู
ป
วยนอก (OPD) ที่
เข
ารั
บการ
รั
กษาพยาบาลโรคถุ
งลมโป
งพอง สาเหตุ
จากการสู
บบุ
หรี่
ณ โรงพยาบาลสงขลานคริ
นทร
จั
งหวั
ดสงขลา โดยเก็
1735
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,1725,1726,1727,1728,1729,1730,1731,1732,1733,1734 1736,1737,1738,1739,1740,1741,1742,1743,1744,1745,...1917
Powered by FlippingBook