เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 552

รังสี (exposure dose rate) ที่ค่อนข้างสู งอยู่แล้วเมื่อเทียบกับจั งหวัดอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ เนื่องมาจากจังหวัด
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีการทาธุรกิ จด้านอุตสาหกรรมเหมื องแร่มาก่อน และได้มีการขุดและร่ อนเอาแร่ธาตุที่ มีคุณค่าทาง
เศรษฐกิจและราคาสูงเพื่อทาการค้าขายต่อไป ทาให้พื้ นที่บริเวณต่างๆเหล่านั้ นเกิดการสะสมของแร่ธาตุหลายอย่างที่ไม่มี
คุณค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิวไคลด์ สารรังสีที่มีการสะสมอยู่แล้วในธรรมชาติ ดังปราก ฏในอนุกรมสาร
กัมมันตรังสีในธรรมชาติที่มีอยู่ด้วยกัน 4 อนุกรม
ด้วยเหตุนี้ ทางคณะผู้วิจัยจึงได้มีความสนใจในการศึกษาและตรวจวัดค่ากัมมันตภาพจาเพาะของนิวไคลด์ สาร
รังสีธรรมชาติ (238U, 232Th, 226Ra และ 40K) และนิวไคลด์สารรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้น (137 Cs) ในตัวอย่ างทรายชายหาดจาก
บริเวณชายหาด 5 แห่ง คือ ชายหาดป่าตอง ชายหาดกมลา ชายหาดกะตะ ชายหาดกะรน และชายหาดในยางของจังหวัด
ภูเก็ตที่ได้รับความเสียหายค่อนข้างมากจากคลื่นยักษ์สึนามิ ทั้งนี้ เพื่อศึกษาและคานวณหาค่าอัตราปริมาณรังสีแกมมา
ดูดกลืน(gamma-absorbed dose rate : D) ค่ ากัมมันตภาพรังสีสมมูลของเรเดี ยม (radium equivalent activity : Raeq) ค่า
ดัชนีวัดความเสี่ยงรังสี ที่ได้ รับจากภายนอกร่างกาย (external hazard index : Hex) และพร้อมกันนี้ได้คานวณค่าปริมาณ
รังสียังผลที่ได้ รับจากภายนอกร่างกายประจาปี (external annual effective dose) เพื่ อเป็นการประเมินค่ าการเพิ่มขึ้นของ
ความเป็นอันตรายจากรังสีในธรรมชาติ (radiation hazard arising) ได้อีกด้วย จากข้ อมูลที่ได้จากการตรวจวัดค่ ากัมมันต
ภาพจาเพาะของนิวไคลด์ สารรังสีธรรมชาติ (238 U, 232 Th, 226Ra และ 40K) และนิวไคลด์ สารรังสีที่มนุษย์ สร้างขึ้น (137 Cs)
ในตั วอย่างทรายชายหาดที่เก็บเป็นตัวอย่างนี้ สามารถนาไปเปรียบเทียบกับค่าที่ ตรวจวัดได้ของสานักงานปรมาณูเพื่อ
สันติและข้อมูลของกลุ่มนั กวิจัยในต่างประเทศทั่ วโลก รวมทั้งการเปรียบเทียบข้อมูลที่ตรวจวัดและคานวณได้ ดังกล่าวนี้
กับค่าที่กาหนดไว้โดยองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐศาสตร์และการพัฒนา (Organization for Economic Coorperation
and Development. (OECD): OECD) และคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ขององค์ กรสหประชาชาติเกี่ยวกับผลของรังสี
ปรมาณู
นอกจากนี้ ข้อมู ลที่ได้ นี้สามารถใช้ เป็นข้อมู ลพื้นฐานของค่ากัมมันตภาพจาเพาะของนิวไคลด์สารรังสี
ธรรมชาติ(238U, 232Th, 226Ra และ 40K) และนิวไคลด์ สารรังสีที่มนุ ษย์สร้างขึ้ น (137Cs) ในบริ เวณชายหาดของจังหวัดภู เก็ต
ต่อไป รวมไปถึงการศึกษาถึงโอกาสและความเป็ นไปได้ในการป้องกันอันตรายจากสารกัมมันตรังสีในบริเวณชายหาด
ของจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่งด้วย
อุปกรณ์ และวิธีการวิจัย
การเก็บตัวอย่างและเตรียมตัวอย่างทรายชายหาดทั้ง 5 แห่ง
การวิ จัยในครั้งนี้ได้ทาการเก็ บตัวอย่างทรายชายหาดจากบริเวณชายหาดป่าตอง ชายหาดกมลา ชายหาดกะตะ
ชายหาดกะรน และชายหาดในยาง จั งหวัดภู เก็ต จานวน 155 ตัวอย่าง ดังแสดงบริเวณเก็บตัวอย่างทรายชายหาดไว้ใน
รูปที่ 1 หลังจากนั้นนาตัวอย่างทรายมาเตรียมให้เหมาะสมตามหลักการที่เป็นมาตรฐาน แล้วนาไปทาการตรวจวัดค่า
กัมมันตภาพรั งสีทั้งในเชิ งคุณภาพและปริมาณในตัวอย่างทรายชายหาดทั้ งหมด โดยใช้หัววัดแบบเจอร์มาเนียมบริสุทธิ์
และระบบการวิเคราะห์แบบแกมมาสเปกโตรเมตรี ที่ ห้องปฏิบั ติการฟิสิกส์นิวเคลี ยร์และฟิสิกส์วัสดุ ห้อง SC 618
อาคารปฏิบั ติการคณะวิ ทยาศาสตร์ (เดิม) สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา
การตรวจวั ดและวิเคราะห์ค่ากัมมันตภาพจาเพาะของนิวไคลด์สารรังสีธรรมชาติ (238 U, 232 Th, 226Ra และ 40K) และนิว
ไคลด์สารรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้ น(137Cs)
ใช้แหล่ งกาเนิดรังสีมาตรฐาน Co-60 Ba-133 และ Cs-137 ในการปรับเทียบพลังงาน (energy calibration)
สาหรับเครื่องมือและระบบตรวจวัดที่ใช้ในการวัดปริมาณค่ากัมมันตภาพจาเพาะของนิวไคลด์กัมมันตรังสีที่ ต้องการ