full2012.pdf - page 379

โดยเมื่อเปรียบเทียบในด้านประสิ ทธิภาพและเศรษฐศาสตร์ ดังรายละเอียดในตารางที่ 3 ซึ่ งแสดงค่าพลังงานในการ
ให้ความร้ อนและลดอุ ณหภูมิของข่ายงานแลกเปลี่ ยนความร้ อนกรณี พื้นฐานและกรณี ที่ ออกแบบใหม่แล้วพบว่าข่ายงาน
แลกเปลี่ยนความร้ อนที่ได้ออกแบบใหม่นั้ นสามารถลดการใช้พลังงานจากเดิมที่รั บความพลังงานความร้อนโดยตรงจากไอ
นํ้ าแรงดันสูงเพียงอย่างเดียว พร้ อมกับเปรียบเที ยบพื้นที่ของเครื่ องแลกเปลี่ยนความร้อนซึ่ งสามารถนํามาคํานวณหาค่าการ
ลงทุนที่ ต้องทําเพิ่มเติมในส่ วนของข่ ายงานแลกเปลี่ยนความร้ อนที่ได้ออกแบบใหม่โดยคํานวณตามสมการ (5) โดยจะ
สามารถวิเคราะห์ จุดคุ ้ มทุนได้ และค่าดําเนินการผลิตที่ลดลงจากเดิ ม 4.621e-002 $/Sec. เป็ น 3.714e-002 $/Sec.
˜µ¦µŠš¸É 3 ประสิ ทธิภาพ เงิ นลงทุนในการก่อสร้างและค่าใช้จ่ายในการผลิต
ด้านประสิ ทธิภาพ ด้านเศรษฐศาสตร์
รายการ HEATING
(KJ/H )
COOLING
(KJ/H )
AREA
(M2 )
ค่าก่อสร้าง
($)
ค่าดําเนิ นการผลิต
($/SEC .)
กรณีพื้นฐาน (BASE CAES) 1.035e+008 4.376e+008 4148 0 4.621e-002
ออกแบบใหม่ (DESIGN) 7.812e+007 3.714e+008 5969 4.69e+005 3.714e-002
¦»žŸ¨„µ¦ª·‹´¥
ในงานวิจัยนี้ ได้ทําการออกแบบข่ายงานแลกเปลี่ยนความร้อนของกระบวนการผลิ ตคิวมีนโดยการวิเคราะห์ ช่ วง
แคบที่สุดในการส่งถ่ายพลังงาน (Pinch Analysis) พบว่าสามารถปรับปรุ งข่ายงานแลกเปลี่ ยนความร้อนของระบบทําให้ใช้
พลังงานที่รั บจากไอนํ้าแรงดันสูงโดยตรงลดลงโดยการใช้ความร้อนจาก 2 จุดคือหม้อต้มซํ้ าของหอกลั่นเบนซี นและเครื่ องลด
อุณหภูมิของสายออกจากเครื่องปฏิกรณ์อัลคิเลชันนํามาแลกเปลี่ ยนความร้อนกับกระแสเย็นที่เครื่ องให้ความร้อนสายป้ อน
ของเครื่องปฏิ กรณ์ทรานสอัลคิเลชัน และเครื่ องให้ความร้อนสายป้ อนของเครื่องปฏิกรณ์ อัลคิเลชัน ตามลําดับ พบว่าสามารถ
ประหยัดพลังงานทั้ งด้านการให้ความร้ อนและการลดอุณหภูมิ ได้ ประมาณร้ อยละ 4.2 ของพลังงานทั้ งหมดที่ใช้ใน
กระบวนการผลิตคิวมี น โดยเมื่อคิดเปรี ยบเทียบกับค่าการลงทุนแล้วนั้นจะคุ ้ มทุนภายในระยะเวลาไม่ เกิน 2 ปี
‡Îµ °‡»–
งานวิจัยนี้ มีแรงจูงใจและได้รับการสนับสนุ นด้านข้อมูลจากบริษัทพี ทีที ฟี นอล จํากัด โดยมีคุ ณวัชราภรณ์ แสงอรุ ณ
เป็ นผู้ให้คําแนะนําในการทําการออกแบบแบบจําลองกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ใกล้เคียงกับค่าจริงในการดําเนิ นการ
ผลิตมากที่ สุด พร้ อมกับให้สามารถนําข้อมูลที่ เกิดขึ้นจากงานวิจัยนี้ มาใช้ได้จริ งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม
379
การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิ ทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 22 ประจำปี 2555