ประเทศที่
ทํ
าการทดลองระเบิ
ดนิ
วเคลี
ยร
ด
วยเหตุ
นี้
จึ
งได
มี
กลุ
มนั
กวิ
จั
ยต
างๆ ทั่
วโลกให
ความสนใจใน
การตรวจวั
ดค
ากั
มมั
นตภาพรั
งสี
ต
างๆ กลุ
มนั
กวิ
จั
ยได
ทํ
าการตรวจวั
ดค
ากั
มมั
นตรั
งสี
กั
นอยู
หลาย
ประเทศเช
นกั
น อาทิ
เช
น Selvasekarapandian, S. และคณะได
ทํ
าการศึ
กษาความเข
มข
นเฉลี่
ย
กั
มมั
นตรั
งสี
เฉพาะของนิ
วไคลด
กั
มมั
นตรั
งสี
เริ่
มต
นที่
เกิ
ดขึ้
นเองตามธรรมชาติ
(
40
K,
232
Th,
238
U) ในดิ
น
และทํ
าการคํ
านวณอั
ตราปริ
มาณรั
งสี
ที่
ได
รั
บต
อป
ในประเทศอิ
นเดี
ย Veiga,
R.
และคณะได
ทํ
าการศึ
กษาการกระจายของรั
งสี
แกมมาในธรรมชาติ
จากนิ
วไคลด
กั
มมั
นตรั
งสี
เริ่
มต
นในธรรมชาติ
ของ
40
K,
226
Ra และ
232
Th จากทรายริ
มทะเลของประเทศบราซิ
ล พร
อมทั้
งทํ
าการประเมิ
นค
ายั
งผลราย
ป
และคํ
านวณค
าเฉลี่
ยความเป
นอั
นตรายของรั
งสี
แกมมา พบว
ามี
บางพื้
นที่
เป
นบริ
เวณที่
มี
ความเป
น
อั
นตรายทางรั
งสี
(Veiga, R.
et al
, 2000) Singh, S และคณะได
ทํ
าการศึ
กษาความเข
มข
นของสาร
กั
มมั
นตรั
งสี
ในดิ
นและค
าการดู
ดกลื
นรั
งสี
ของดิ
น โดยประเมิ
นค
าต
างๆจากนิ
วไคลด
รั
งสี
เริ่
มต
นใน
ธรรมชาติ
(
40
K,
226
Ra และ
232
Th) ซึ่
งทํ
าการเก็
บตั
วอย
างจาก Punjab และ Himachal Pradesh แล
วทํ
า
การเปรี
ยบเที
ยบค
าที่
ได
กั
บประเทศต
างๆ โดยผลที่
ได
อยู
ในเกณฑ
ปกติ
(Singh, S., Rani, A.,
Mahajan, R.K., 2005) นอกจากนี้
ยั
งมี
Sengupta, D. และคณะได
ทํ
าการศึ
กษาความเป
นอั
นตรายของ
รั
งสี
ที่
Erasana Beach ประเทศอิ
นเดี
ย (Sengupta, D., Mohanty, A.K., Das, S.K., Saha, S.K, 2005)
Freitas, A.C. และคณะได
ทํ
าการศึ
กษาการกระจายและความเข
มข
นของกั
มมั
นตรั
งสี
(
40
K,
232
Th และ
238
U) ในบราซิ
ล (Freitas, A.C., Alencar, A.S., 2004) Oyedele, J. A. ได
ศึ
กษาความเข
มข
น
กั
มมั
นตรั
งสี
ในประเทศแอฟริ
กาใต
โดยศึ
กษาไอโซโทปของ (
40
K,
232
Th และ
238
U) (Oyedele, J.A.,
2006) Seddeek, M.K. และคณะ ได
ทํ
าการศึ
กษาหาค
ากั
มมั
นตรั
งสี
เริ่
มต
นในทรายจากสถานที่
ต
างๆ
ของประเทศอี
ยิ
ปต
ทั้
งนี้
ได
มี
การตรวจพบความผิ
ดปกติ
ของค
ากั
มมั
นตรั
งสี
ในบริ
เวณต
างๆ โดยพบว
า
ค
าความเข
มข
นของสารกั
มมั
นตรั
งสี
จํ
าเพาะของ
232
Th และ
226
Ra ในบางบริ
เวณมี
ค
าสู
งกว
าปกติ
(Seddeek, M.K., Badran, H.M., Sharshar, T., Elnimr, T, 2005) นอกจากนี้
ยั
งมี
ประเทศต
างๆ ใน
เอเชี
ยและกลุ
มนั
กวิ
จั
ยจากทั่
วโลก อาทิ
อี
ยิ
ปต
ญี่
ปุ
น อิ
นเดี
ย เกาหลี
อิ
หร
าน ฮ
องกง บั
งกลาเทศ จี
น
หรื
อแม
แต
ประเทศไทยก็
ได
มี
การตรวจวั
ดค
าความเข
มข
นของสารกั
มมั
นตรั
งสี
เช
นกั
น โดยที่
ใน
ประเทศไทยนั้
นมี
กลุ
มนั
กวิ
จั
ยของสํ
านั
กงานปรมาณู
เพื่
อสั
นติ
(สํ
านั
กงาน ป.ส.) ได
ทํ
าการศึ
กษาวิ
จั
ย
และประเมิ
นค
าปริ
มาณกั
มมั
นตรั
งสี
ในสิ่
งแวดล
อมจากตั
วอย
างสิ่
งแวดล
อมประเภทน้ํ
าจากแหล
งน้ํ
า
ต
างๆ น้ํ
าฝน น้ํ
าทะเล ดิ
น ทราย หญ
า อาหารประเภทต
างๆ จากตั
วอย
างที่
บริ
เวณต
างๆ ทั่
วประเทศไทย
โดยเริ่
มดํ
าเนิ
นการศึ
กษาวิ
จั
ยในป
พ.ศ.2504 มาจนถึ
งป
จจุ
บั
น
จั
งหวั
ดสงขลามี
ขนาดใหญ
เป
นอั
นดั
บที่
27 ของประเทศ มี
จํ
านวนประชากรอยู
ประมาณ 1.3
ล
านคน มี
ที่
ตั้
งอยู
ฝ
งตะวั
นออกของภาคใต
ตอนล
าง ระหว
างละติ
จู
ดที่
6
O
17’ – 7
O
56’ เหนื
อ ลองจิ
จู
ด
100
O
01’ – 101
O
06’ ตะวั
นออก สู
งจากระดั
บน้ํ
าทะเลโดยเฉลี่
ย 4 เมตร และจั
งหวั
ดสงขลาเป
นที่
ตั้
ง
ศู
นย
กลางของการบริ
หารราชการแผ
นดิ
นของภาคใต
อี
กทั้
งเป
นจั
งหวั
ดที่
เป
นแหล
งอารยะธรรมของ
การประชุ
มวิ
ชาการและเสนอผลงานวิ
จั
ยมหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ประจํ
าป
2550
4