full2012.pdf - page 1135

5
สลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลต และสี
อี
ก 2 ชนิ
ดที่
มี
โครงสร
างใกล
เคี
ยงกั
บสี
คริ
สตั
ลไวโอเลต โดยแบคที
เรี
Bacillus subtilis
IFO 13791 พบว
าที่
อั
ตราการเจริ
ญของเซลล
ต่ํ
าสี
คริ
สตั
ลไวโอเลต จะถู
กย
อยสลายหลั
งจากเวลาผ
านไป 24 ชั่
วโมง และที่
อั
ตราการเจริ
ญของเซลล
สู
งสี
คริ
สตั
ลไวโอเลต จะถู
กย
อยสลายภายในเวลา 8 ชั่
วโมง โดยพบว
าแบคที
เรี
ยดั
งกล
าวเจริ
ได
น
อยมากเมื่
อนํ
าไปเพาะเลี้
ยงในอาหารเลี้
ยงเชื้
อที่
มี
ส
วนผสมของสี
basic auramine O., basic funchsin และ Victoria
blue (Yatome et al., 1991) อี
กทั้
งยั
งสั
งเกตได
ว
าการย
อยสลายสี
ย
อมที่
ความเข
มข
นต่ํ
าจะเกิ
ดขึ้
นได
ดี
กว
าที่
ระดั
บความ
เข
มข
นของสี
ย
อมสู
งอั
นอาจเนื่
องมาจากฟ
นอลที่
ได
มาจากปฏิ
กิ
ริ
ยาดึ
งหมู
เมธิ
ลออกจากโมเลกุ
ลของสี
ย
อม ไปรบกวน
กระบวนการออกซิ
เดชั
นภายในเซลล
ทํ
าให
เซลล
ตาย (Ogawa
et al
., 1988) การที่
แบคที
เรี
ยมี
ความสามารถในการย
อย
สลายและทนต
อสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อมี
ในกลุ
มไตรฟ
นิ
ลมี
เทนได
นั้
นอาจเป
นผลมาจากการมี
โครงสร
างที่
เรี
ยกว
พลาสมิ
ด (plasmid) (ไกรวุ
ฒิ
, 2541) นอกจากนี
ความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตยั
งขึ้
นอยู
กั
บการมี
เอนไซม
บางชนิ
ดที่
สร
างขึ้
นมาภายในเซลล
(intracellular enzyme) ดั
งที่
ได
มี
รายงานว
าเอนไซม
แลคเคสจากเชื้
อรา
Irpex
lacteus
สามารถช
วยในการกํ
าจั
ดสี
ย
อมสั
งเคราะห
reactive orange 16 และ remazol brilliant blue R (Svobodova and
Majcherczyk, 2008)
จากการคั
ดเลื
อกแบคที
เรี
ยจากอ
างย
อมสี
ห
องปฏิ
บั
ติ
การจุ
ลชี
ววิ
ทยาของอาคารเครื่
องมื
อวิ
ทยาศาสตร
และเทคโนโลยี
8 มหาวิ
ทยาลั
ยวลั
ยลั
กษณ
ด
วยอาหารเลื้
ยงเชื
อ Luria-Bertani (LB) หรื
อ Nutient broth (NB) ที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลต (LCV
หรื
อ NCV) หรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
น (LMG หรื
อ NMG) ความเข
มข
น 500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตรเป
นแหล
งคาร
บอนหลั
ก โดยคาด
ว
าแบคที
เรี
ยในสถานที่
ดั
งกล
าวมี
การสั
มผั
สกั
บสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
นจากการย
อมเซลล
แบคที
เรี
ยและมี
ความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
นด
วยการใช
สี
ย
อมทั้
ง 2 ชนิ
ดเป
นแหล
งคาร
บอน
(Jihane, 2009) ซึ่
งจากการศึ
กษาในครั้
งนี้
สามารถคั
ดแยกแบคที
เรี
ยได
2 ไอโซเลต (ตั้
งชื่
อว
า A1 และ A3) ที่
สามารถย
อย
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
นที่
ความเข
มข
น 500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร และแบคที
เรี
ย A3 สามารถทนทานต
อสี
ย
อม
ที่
ความเข
มข
นสู
งสุ
ดถึ
ง 10,000 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร แสดงว
าแบคที
เรี
ยใช
สี
ย
อมเป
นแหล
งคาร
บอนสํ
าหรั
บการเจริ
ญได
ด
วย
ปฏิ
กิ
ริ
ยาการดึ
งหมู
เมทิ
ล (demethylation) ออกจากโครงสร
างหลั
กของสี
ย
อมทํ
าให
ทนทานต
อการถู
กทํ
าลายด
วยสี
ย
อม
(Yatome
et al
., 1991; Sarnaik and Kanekar, 1999) อย
างไรก็
ตามกระบวนการดึ
งหมู
เมธิ
ลออกจากสี
ย
อมจะได
ฟ
นอลออกมาก
อนที่
จะถู
กเปลี่
ยนไปเป
นคาร
บอนไดออกไซด
ทํ
าให
แบคที
เรี
ยบางชนิ
ดไม
สามารถเจริ
ญในอาหารเลี้
ยง
เชื้
อที่
มี
ความเข
มข
นของสี
ย
อมสู
ง (Ogawa
et al
., 1988)
การศึ
กษาความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
น ซึ่
งจะใช
สี
เป
นสั
บสเตรทแล
ติ
ดตามผลการเปลี่
ยนแปลงค
าการดู
ดกลื
นแสงที่
ความยาวคลื่
น 590 และ 618 นาโนเมตร ตามลํ
าดั
บ โดยคํ
านวณเปอร
เซ็
การลดลงของสี
ที่
ค
าการดู
ดกลื
นแสงดั
งกล
าว จากการเลี้
ยงแบคที
เรี
ย A1 และ A3 ในอาหารเลี้
ยงเชื้
อ LCV หรื
อ NCV ที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลต หรื
ออาหารเลี้
ยงเชื้
อ LMG หรื
อ NMG ที่
มี
สี
มาลาไคธ
กรี
น เข
มข
น 500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร ปริ
มาตร 100
มิ
ลลิ
ลิ
ตร ที่
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยส ในสภาวะเขย
า เมื่
อเลี้
ยงแบคที
เรี
ยเป
นเวลา 5 วั
น พบว
าแบคที
เรี
ย A3 จะมี
ความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตได
สู
งถึ
ง 98.95% (ในอาหารเลี้
ยงเชื้
อ LCV) และ 96.06% (ในอาหาร
เลี้
ยงเชื้
อ NCV) ส
วนการย
อยสลายสี
มาลาไคธ
กรี
นนั้
น สามารถย
อยสลายได
สู
ถึ
ง 98.59% (ในอาหารเลี้
ยงเชื้
อ NMG) และ
86.66% (ในอาหารเลี้
ยงเชื้
อ LMG) ซึ่
งสอดคล
องกั
บรายงานเกี่
ยวกั
บจุ
ลิ
นทรี
ย
ที่
แยกจากดิ
นบริ
เวณโรงงานสามารถย
อย
สลายสี
ย
อมได
สู
งถึ
ง 90-100 % เมื่
อใช
สี
ย
อมเป
นสั
บสเตรท (Azmi
et al
., 1988) ซี่
งอาจเนื่
องมาจากแบคที
เรี
ยสามารถดู
ซั
บสี
ย
อมเข
าสู
ตั
วเซลล
แล
วจึ
งเริ่
มย
อยสลายเพื่
อใช
เป
นแหล
งคาร
บอนสํ
าหรั
บการเจริ
ญ (ป
ยวรรณ, 2544) แต
ถ
าหากศึ
กษา
การดู
ดซั
บสี
ย
อมด
วยเซลล
แบคที
เรี
ยตายเมื่
อเลี้
ยงไว
ในอาหารเลี้
ยงเชื้
อที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลต (LCV หรื
อ NCV) หรื
อาหารเลี้
ยงเชื้
อที่
มี
สี
มาลาไคธ
กรี
น (LMG หรื
อ NMG) ในสภาวะการบ
มเลี้
ยงเช
นเดี
ยวกั
บที่
เลี้
ยงเซลล
มี
ชี
วิ
ต พบว
1135
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,1125,1126,1127,1128,1129,1130,1131,1132,1133,1134 1136,1137,1138,1139,1140,1141,1142,1143,1144,1145,...1917
Powered by FlippingBook