3
รวมทั้
งตรวจวั
ดประสิ
ทธิ
ภาพการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลาไคธ
กรี
น ของแบคที
เรี
ยที่
คั
ดแยกออกมาได
เพื่
อ
เป
นแนวทางในการศึ
กษาเกี่
ยวกั
บการใช
วิ
ธี
ทางชี
วภาพสํ
าหรั
บฟ
นฟู
สภาพแวดล
อมต
อไป
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
การคั
ดแยกแบคที
เรี
ยที่
มี
ความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลาไคธ
กรี
น
ใช
ไม
พั
นสํ
าลี
ป
ายตะกอนจากอ
างย
อมสี
ในห
องปฏิ
บั
ติ
การจุ
ลชี
ววิ
ทยาฯ ใส
ลงในหลอดทดลองฝาเกลี
ยว ที่
มี
0.85%
NaCl ปริ
มาตร 2 มิ
ลลิ
ลิ
ตร แล
วนํ
าไปเขย
าเพื่
อให
ตะกอนหลุ
ดออกจากไม
พั
นสํ
าลี
จากนั้
นนํ
าสารแขวนลอยไปกระจาย
เชื้
อ บนอาหารเลี้
ยงเชื้
อแข็
ง Luria-Bertani Crystal violet (LCV) ที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลต (500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร) หรื
อ
อาหารเลี้
ยงเชื้
อแข็
ง Luria-Bertani Malachite green (LMG) ที่
มี
สี
มาลาไคธ
กรี
น (500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร) จากนั้
นนํ
าจาน
เพาะเชื้
อไปบ
มที่
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยส เป
นเวลา 24 ชั่
วโมง คั
ดแยกโคโลนี
เดี่
ยวไปเพาะเลี้
ยงในขั้
นตอนต
อไป
ความสามารถของแบคที
เรี
ยในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลาไคธ
กรี
น
นํ
าแบคที
เรี
ยที่
คั
ดแยกได
จากขั้
นตอนก
อนหน
า ไปเพาะเลี้
ยงอี
กครั้
งบนอาหารเลี้
ยงเชื้
อแข็
ง LCV ที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอ-
เลต (500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร) หรื
ออาหารเลี้
ยงเชื้
อแข็
ง LMG ที่
มี
สี
มาลาไคธ
กรี
น (500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร) บ
มที่
37 องศา-
เซลเซี
ยส เป
นเวลา 24 ชั่
วโมง เพื่
อคั
ดเลื
อกแบคที
เรี
ยที่
มี
ความสามารถในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลา-
ไคธ
กรี
น โดยวั
ดขนาดเส
นผ
านศู
นย
กลางของโซน จากนั้
นคั
ดเลื
อกโคโลนี
ที่
ให
ขนาดวงใสสู
งสุ
ดไปทํ
าการศึ
กษาต
อใน
ขั้
นต
อไป
ความสามารถของแบคที
เรี
ยในการทนต
อสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลาไคธ
กรี
น
แยกนํ
าแบคที
เรี
ยที่
คั
ดเลื
อกจากขั้
นตอนก
อนหน
านี้
ไปเลี
ยงในอาหารเลี้
ยงเชื้
อเหลว LB หรื
อ Nutient broth (NB)
ปริ
มาตร 5 มิ
ลลิ
ลิ
ตร โดยใส
1 โคโลนี
ต
อหลอด แล
วนํ
าไปบ
มที่
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยสเป
นเวลา 24 ชั่
วโมงแบบ
สภาวะเขย
า (ความเร็
ว 150 รอบต
อนาที
) จากนั้
นนํ
าห
วงถ
ายเชื้
อถ
ายเชื้
อลงในอาหารเลี้
ยงเชื้
อแข็
ง LCV หรื
ออาหารเลี้
ยง
เชื้
อแข็
ง LMG ที่
มี
ระดั
บความเข
มข
นของสี
ย
อม
500, 1,000, 5,000, 10,000, 15,000 และ 20,000 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร แล
ว
นํ
าไปบ
มเพาะเชื้
อที่
สภาวะเดิ
ม คั
ดแยกโคโลนี
เชื้
อที่
มี
ความสามารถในการทนต
อสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตหรื
อสี
มาลาไคธ
กรี
น
ที่
ความเข
มข
นสู
งสุ
ดไปทํ
าการศึ
กษาขั้
นต
อไป
ประสิ
ทธิ
ภาพในการย
อยสลายสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและมาลาไคธ
กรี
นที่
สภาวะเขย
า
นํ
าแบคที
เรี
ยที่
คั
ดแยกได
จากขั้
นตอนก
อนหน
านี้
ไปปรั
บความขุ
นของเชื้
อเที
ยบเท
า McFarland No. 0.5 มิ
ลลิ
ลิ
ตร
จากนั้
นนํ
าสารแขวนลอยเชื้
อปริ
มาตร 1 มิ
ลลิ
ลิ
ตร ถ
ายใส
ลงในอาหารเลี้
ยงเชื้
อเหลว LCV ที่
มี
สี
คริ
สตั
ลไวโอเลต และ
อาหารเลี้
ยงเชื้
อ LMG ที่
มี
สี
มาลาไคธ
กรี
น เข
มข
น 500 มิ
ลลิ
กรั
มต
อลิ
ตร ปริ
มาตร 100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร ในขวดรู
ปชมพู
ขนาด
บรรจุ
250 มิ
ลลิ
ลิ
ตร บ
มเลี้
ยงเชื้
อที่
สภาวะเขย
า (ความเร็
ว 150 รอบต
อนาที
) ที่
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยส แล
วเก็
บ
ตั
วอย
างทุ
กๆ 24 ชั่
วโมง เป
นเวลา 5 วั
น โดยนํ
าตั
วอย
างไปป
นเหวี่
ยงที่
ความเร็
ว 10,000 รอบต
อนาที
เป
นเวลา 20 นาที
แล
วนํ
าส
วนใสของสารละลายมาวั
ดค
าการดู
ดกลื
นแสงที่
ความยาวคลื่
น 590 นาโนเมตรสํ
าหรั
บ CV และที่
ความยาวคลื่
น
618 นาโนเมตรสํ
าหรั
บ MG โดยใช
อาหารเลี้
ยงเชื้
อที่
ไม
ได
ใส
เชื้
อเป
นชุ
ดควบคุ
มการทดลอง
คํ
านวณความเข
มข
นของสี
คริ
สตั
ลไวโอเลตและสี
มาลาไคธ
กรี
น ที่
เวลาต
างๆ เปรี
ยบเที
ยบกั
บกราฟมาตรฐาน ที่
มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บค
าการดู
ดกลื
นแสงของสี
นั้
นๆ พร
อมทั้
งคํ
านวณเปอร
เซ็
นการลดลงของสี
จากสู
ตร
เปอร
เซ็
นการลดลงของสี
= [(ความเข
มข
นเริ่
มต
น – ความเข
มข
นที่
วั
ดได
) / ความเข
มข
นเริ่
มต
น] × 100
1133
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555