2
บทนํ
า
การสู
บบุ
หรี่
มี
ความสั
มพั
นธ
กั
บโรคต
างๆ เช
น โรคมะเร็
ง โรคระบบหั
วใจและหลอดเลื
อด โรคระบบทางเดิ
น
หายใจต
อทั้
งผู
สู
บและผู
ใกล
ชิ
ด การเสี
ยชี
วิ
ตของประชากรโลกจากการสู
บบุ
หรี่
เพิ่
มจากป
ละ 4 ล
านคนในป
ค.ศ. 1998
เป
น 4.9 ล
านคนในป
ค.ศ. 2003 และมี
แนวโน
มเพิ่
มขึ้
นเป
น 10 ล
านคนในป
ค.ศ. 2020 (World Health Organization,
2006) จากผลสํ
ารวจของสํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
เมื่
อ พ.ศ. 2549 พบว
าคนไทยเสี
ยชี
วิ
ตจากการสู
บบุ
หรี่
ป
ละ 42,000-
52,000 คน (สํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
, 2551)
การบํ
าบั
ดรั
กษาเพื่
อเลิ
กบุ
หรี่
ในประเทศไทยป
จจุ
บั
นยั
งมี
ข
อจํ
ากั
ดในการเข
าถึ
งยาและบริ
การ นิ
โคติ
นทดแทน
bupropion และ varenicline ซึ่
ง องค
การอาหารและยาของประเทศสหรั
ฐอเมริ
การั
บรองเป
นยาช
วยเลิ
กบุ
หรี่
ยั
งจั
ดเป
นยา
นอกบั
ญชี
ยาหลั
กแห
งชาติ
จึ
งพบว
ามี
การนํ
าการแพทย
ทางเลื
อก การฝ
งเข็
มและสมุ
นไพรมาใช
ในการเลิ
กบุ
หรี่
มากขึ้
น
หญ
าดอกขาว (Ash-colored fleabane หรื
อ Little iron weed) เป
นพื
ชที่
อยู
ในวงศ
Asteraceae มี
ชื่
อวิ
ทยาศาสตร
ว
า
Vernonia cinerea
หรื
อ
Vernonia laxiflora
และมี
ชื่
อเรี
ยกตามท
องถิ่
นต
างๆ เช
น หญ
าละออง ก
านธู
ป หมอน
อย หญ
า
สามวั
น หญ
าหนวดแป
ง เป
นต
น (นั
นทวั
นและอรนุ
ช, 2543) การศึ
กษาทางเภสั
ชวิ
ทยาพบว
าสารสกั
ดน้ํ
าของหญ
าดอกขาว
มี
ผลลดอาการขาดนิ
โคติ
นและลดระดั
บ nicotinic receptors ในสมองของหนู
ขาวเล็
ก (ธนศั
กดิ์
และคณะ , 2553)
นอกจากนี้
มี
การศึ
กษาทางคลิ
นิ
กที่
ชี้
ให
เห็
นถึ
งประสิ
ทธิ
ภาพในการช
วยเลิ
กบุ
หรี่
ของชาชงหญ
าดอกขาว (ปรี
ดา, 2549;
มุ
กดา, 2545; Wongwiwatthananukit, et al., 2009) อย
างไรก็
ตามยั
งไม
สามารถสรุ
ปประสิ
ทธิ
ภาพของหญ
าดอกขาวใน
การช
วยเลิ
กบุ
หรี่
ได
ชั
ดเจน เนื่
องจาก ข
อจํ
ากั
ดของการศึ
กษา เช
น ระยะ เวลาใช
ชาเพี
ยง 2 สั
ปดาห
ไม
มี
การวั
ดข
อมู
ลเชิ
ง
คุ
ณลั
กษณะพื้
นฐานและการยื
นยั
นผลการเลิ
กบุ
หรี่
ด
วยวิ
ธี
มาตรฐาน จํ
านวนกลุ
มตั
วอย
างค
อนข
างน
อย หรื
อการสู
ญหาย
ของกลุ
มตั
วอย
างค
อนข
างสู
ง นอกจากนี้
การใช
ในรู
ปแบบชามั
กไม
สะดวกและไม
สามารถควบคุ
มปริ
มาณสารสํ
าคั
ญให
คงที่
ได
ดั
งนั้
นหากเตรี
ยมผลิ
ตภั
ณฑ
หญ
าดอกขาวในรู
ปแบบที่
มี
สารสํ
าคั
ญคงที่
เพิ่
มระยะเวลาในการใช
ผลิ
ตภั
ณฑ
เป
น 4
สั
ปดาห
โดยมี
การเฝ
าระวั
งและติ
ดตามเหตุ
การณ
ไม
พึ
งประสงค
ที่
อาจเกิ
ดขึ้
น และ ทํ
าการศึ
กษาแบบ randomized double
blind placebo controlled โดยมี
การยื
นยั
นผลการเลิ
กบุ
หรี่
ด
วยสารชี
วเคมี
ที่
เหมาะสม น
าจะได
ข
อสรุ
ปเกี่
ยวกั
บ
ประสิ
ทธิ
ภาพของหญ
าดอกขาวต
ออั
ตราการเลิ
กบุ
หรี่
ที่
ชั
ดเจนมากขึ้
นเพื่
อประโยชน
ในพิ
จารณาเลื
อกใช
ผลิ
ตภั
ณฑ
จาก
หญ
าดอกขาวในการช
วยเลิ
กบุ
หรี่
ในอนาคต
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
การศึ
กษาครั้
งนี้
ทํ
าการศึ
กษาแบบ randomized double blind placebo controlled โดยคั
ดเลื
อกอาสาสมั
คร
สุ
ขภาพดี
ที่
มี
อายุ
15 ป
ขึ้
นไป สู
บบุ
หรี่
อย
างน
อยในช
วง 6 เดื
อนก
อนเข
าร
วมการศึ
กษา และ มี
ความต
องการเลิ
กบุ
หรี่
ใน
ระดั
บ preparation และ action (เลิ
กบุ
หรี่
ได
ไม
เกิ
น 7 วั
นก
อนเข
าร
วมวิ
จั
ย) ตามแบบจํ
าลอง Transtheoretical Model
Stages of Change (TTM) หากอาสาสมั
ครรายใดอยู
ในระหว
างการใช
สารเสพติ
ดชนิ
ดอื่
นๆ กํ
าลั
งตั้
งครรภ
วางแผน
ตั้
งครรภ
ให
นมบุ
ตร หรื
อ กํ
าลั
งได
รั
บการบํ
าบั
ดรั
กษาเพื่
อเลิ
กบุ
หรี่
ด
วยยา สมุ
นไพรหรื
อวิ
ธี
อื่
น หรื
อสิ้
นสุ
ดการรั
กษาด
วย
วิ
ธี
นั้
นๆ เป
นเวลาไม
เกิ
น 2 สั
ปดาห
จะถู
กคั
ดออกจากการศึ
กษา ทํ
าการศึ
กษาที่
แผนกผู
ป
วยนอก โรงพยาบาลสิ
ชล
จั
งหวั
ด
นครศรี
ธรรมราช และเก็
บข
อมู
ลตั้
งแต
วั
นที่
1 มี
นาคม พ.ศ. 2554 ถึ
ง 31 ตุ
ลาคม พ.ศ. 2554
ขั้
นตอนการดํ
าเนิ
นการวิ
จั
ย
อาสาสมั
ครที่
ผ
านเกณฑ
การคั
ดเลื
อกและยิ
นยอมเข
าร
วมการศึ
กษาจะถู
กแบ
งเป
น 2 กลุ
มย
อย ได
แก
กลุ
มที่
สู
บ
บุ
หรี่
เ
กิ
นและไม
เกิ
น 10 มวน/วั
น เพื่
อกระจายอาสาสมั
ครที่
มี
ความแตกต
างของระดั
บการติ
ดนิ
โคติ
นให
อยู
ในกลุ
มศึ
กษา
1515
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555