เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 668

6
อบรมเสร็จสิ้นไปแลวได เปนอยางดี อีกทั้งยังสามารถนํ าหลักสูตรและเนื้อหาดังกลาวไปใชกับกลุมผู ประกอบการ OTOP
รายอื่น ๆ ที่ไมได เขารวมอบรมได
อภิปรายผล
การดําเนินงานวิจัยเรื่อง ศึกษาการนําเทคโนโลยี สารสนเทศดานพาณิชย อิเล็กทรอนิกสไปใชกับการจําหนาย
ผลิตภัณฑชุมชน กรณีศึกษาอําเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถอภิปรายผลการวิจัยดั งนี้
1. จากการศึกษารูปแบบวิธีการประชาสัมพั นธและการจํ าหนายสินคาของกลุมผูประกอบการ OTOP พบวา มี
กลุ มที่ ใชวิธี การประชาสัมพันธสิ นคาของกลุ มโดยใชชองทางอินเทอรเน็ ตแลวจํานวน 1 กลุ มแสดงใหเห็ นวา
ผูประกอบการก็มีความตื่ นตัว ใหความสําคัญ ในการประชาสัมพันธและจําหน ายผลิตภัณฑผานทางระบบ e-commerce
กันอยูบาง แตยังพบปญหาสําคัญของกลุมดังกลาว คือ ไมได ลงมือทําเอง แตใหญาติทํ าให เนื่องจาก ไมมีความรู เกี่ยวกับ
การพัฒนาเว็บไซตและพาณิชย อิเล็กทรอนิกส จึงทําใหเว็บไซตไมมีมีการปรับปรุงขอมูลให เปนปจจุบั นเทาที่ควร ดังนั้น
จึงควรจัดกิ จกรรมการอบรมใหความรูเกี่ยวกับการทําพาณิ ชยอิเล็กทรอนิ กสใหกับกลุมผูประกอบ OTOP ใหมีความรู
ทั กษะ ดานพาณิ ชยอิเล็กทรอนิกส ผลการวิจั ยนี้สอดคล องกับ งานวิจัยของ รุจิรา อาชวานั นทกุล เรื่อง “การประเมิน
ศักยภาพของผูประกอบการสินค า OTOP กับการนําระบบการพาณิชยอิเล็ กทรอนิ กสมาใช กรณี ศึกษาจั งหวัด
อุบลราชธานี” ที่พบวา ควรสงเสริ มใหมีการเขารวมการอบรม สัมมนาหรือประชุมเชิงปฏิบัติการมากยิ่งขึ้น ประกอบ
กับสถานศึกษาหรือหน วยงานที่เกี่ยวของควรจัดเผยแพรความรู ดานพาณิชย อิเล็กทรอนิกสสูภูมิภาคใหมากยิ่ งขึ้น ไมวา
จะเปนการอบรมสัมมนา การจัดทําเอกสารเผยแพร ใหเขาถึงผูประกอบการมากขึ้น เพื่อเปนการใหผูประกอบการได
พั ฒนาความรูและศั กยภาพใหดียิ่งขึ้น
2. เมื่ อมีการศึกษาถึงศั กยภาพความพรอมและความตองการในนําระบบ e-commerce มาใชในการ
ประชาสัมพันธ และจําหนายผลิ ตภัณฑ พบวาส วนใหญ กลุมผูประกอบการ OTOP มีความตองการจะนํ าพาณิชย
อิเล็กทรอนิ กสมาใชเพื่อการประชาสั มพั นธและจําหน ายผลิตภัณฑ แต ยังขาดความรูและทักษะในการใชคอมพิ วเตอร
อินเทอร เน็ตและการทํ าพาณิชย อิเล็กทรอนิ กส และยั งมีความตองการจะให หน วยงานภาครั ฐเปนผู ดําเนินการให
ผลการวิจั ยนี้สอดคลองกั บ งานวิจัยของ มณฑิณี สุขะ เรื่ อง ความต องการระบบพาณิชยอิเล็ กทรอนิกสของกลุ ม
หั ตถกรรมพื้นบานบานหนองครอบ ตํ าบลสองชั้น อํ าเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย ที่ พบวา กลุมหัตถกรรมพื้ นบานบาน
หนองครอบมีความตองการใชระบบพาณิชย อิเล็กทรอนิกสเพื่อตองการเพิ่มชองทางการจําหนาย สินคา โดยใชองคการ
บริหารสวนตําบลเปนผูนําเสนอสินคาให และหนวยงานภาครัฐ สถานศึกษา หรือเอกชนเข ามาสนับสนุ นสงเสริม การนํา
ระบบพาณิชย อิเล็กทรอนิกสเพื่อนําสินคาของชุมชนออกสูตลาด
ผลการวิจัยยังพบวากลุมผูประกอบการที่ มีความพรอมและมีศักยภาพที่จะใชระบบพาณิชยอิเล็กทรอนิกส จะ
เปนกลุมที่มีลักษณะที่ผูนํากลุม มีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอรอินเทอรเน็ตในระดับดี มีความคิดวิสัยทั ศน
กว างไกล และผานการออกแสดงและจําหนายสินคาจากแหลงภายนอกมามาก และมีประสบการณพอสมควร และ
ประการสํ าคัญที่สามารถทําใหกลุมดังกลาวสามารถนําระบบ e-commerce มาใช ได คื อ มีบุตรที่อยูในวัยเรียน ซึ่งมี
ความรูและทักษะในการใชคอมพิวเตอรและอินเทอร เน็ตอยูในระดับดี จึงเปนตัวหลักในการดําเนินการเว็บไซตไดเปน
อยางดี แตอย างไรก็ตามบุตรที่ยังอยูในวัยเรียนก็มีภาระหนาที่ ดานการเรียนเปนหลัก จึงทําใหมีเวลาจํากัดในการปรับปรุง
และพัฒนาเว็บไซต
3. ในการที่ จะนํากระบวนการถ ายทอดความรูเทคโนโลยีสารสนเทศดานพาณิ ชย อิเล็กทรอนิกส เพื่อการปรับ
ใชจริง และขยายผลนําไปใชกับชุมชนอื่น ๆ ตอไปนั้น พบขอคนพบที่จะตองดําเนินการเพิ่มเติมจากที่ทํา คือ ตองเพิ่มเติม