การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ 2559 - page 57

56
ภาพที่ 4 เปรี ยบเทียบปริมาณตะกอนตามความลาดชั นของพื้นที่แปลงทดลอง
สรุปผลการวิจัย
แปลงทดลองที่ระดับความลาดชัน 20 เปอร์เซ็ นต์ แปลงที่ ไม่ปลูกสัปปะรดและไม่ทาขั้นบันไดนั้นเมื่อมี ปัจจัยที่
เกี่ยวข้ องกับการเกิดการชะล้ างพังทลายของดิ นเกิดขึ้ น เช่น ฝน และแปลงทดลองนี้ ไร้ ซึ่งสิ่งปกคลุ มหน้าดิ นและไม่ มี
ขั้นบันไดที่จะคอยช่วยชะลอการไหลบ่าของน้าและตะกอน ดังนั้นปริมาณตะกอนที่เกิดจึงค่อนข้างสูงคือ มีปริมาณน้าไหล
บ่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8.93 ลิตร และมี ปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ ยที่ 2,010.3 ตัน ต่อ ตารางกิโลเมตร ส่วนแปลงที่ ปลูกสัปปะรด
และทาขั้นบั นไดนั้นเมื่ อเกิ ดการชะล้างพังทลายของดิ น ก็ยั งมีสิ่ งปกคลุมผิ วดินจากปั จจัยด้ าน ฝนคือ ต้นและใบของ
สับปะรดที่คอยป้องกันหน้าดินจากการตกกระทบของเม็ดฝน และมีขั้นบั นไดที่คอยชะลอการไหลบ่าของน้าและตะกอนได้
จึงสามารถช่ วยลดปริมาณตะกอนที่จะถูกพัดพาออกไปจากพื้ นที่ได้ ปริมาณตะกอนที่เกิดขึ้ นจึงต่ากว่ าแปลงที่ไม่ ปลูก
สับปะรดและไม่ทาขั้นบันได และมี ปริมาณน้าไหลบ่าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.04 ลิตร และมี ปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ยอยู่ ที่ 1,328.8
ตัน ต่อ ตารางกิ โลเมตร แปลงทดลองที่ระดับความลาดชัน 40 เปอร์เซ็นต์ แปลงที่ไม่ ปลูกสั ปปะรดและไม่ทาขั้นบันได มี
ปริมาณน้าไหลบ่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8.07 ลิตร และมีปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ยที่ 2,219.25 ตัน ต่อ ตารางกิโลเมตร ส่วนแปลง
ที่ปลูกสัปปะรดและทาขั้นบันไดมี ปริมาณน้าไหลบ่าเฉลี่ ยอยู่ที่ 9.84 ลิตร และมี ปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ยที่ 1,574.4 ตัน
ต่อ ตารางกิโลเมตร และแปลงทดลองที่ระดั บความลาดชัน 60 เปอร์เซ็นต์ แปลงที่ไม่ ปลูกสัปปะรดและไม่ทาขั้นบันได มี
ปริมาณน้าไหลบ่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9.17 ลิ ตร และมีปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ ยที่ 5,685.4 ตัน ต่ อ ตารางกิโลเมตร ส่วนแปลงที่
ปลูกสัปปะรดและทาขั้นบันไดมี มีปริ มาณน้าไหลบ่าเฉลี่ยอยู่ที่ 10.98 ลิตร และมีปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ยที่ 2,360.64
ตัน ต่อ ตารางกิโลเมตร
0
1000
2000
3000
4000
5000
6000
ปลูกสับปะรดและทาขั้นบันได ไม่ปลู กสับปะรดและไม่ทาขั้นบันได
ความลาดชัน 20 เปอร์เซ็นต์
ความลาดชัน 40 เปอร์เซ็นต์
ความลาดชัน 60 เปอร์เซ็นต์
ปริ มาณฝน 19.3 มิลลิเมตร