การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ 2559 - page 62

61
อนุ
ภาคของ USDA พบว่
า ดิ
นส่
วนใหญ่
จั
ดอยู่
ในประเภทดิ
นร่
วนปนทราย (sandy loam) ไม่
เปลี่
ยนแปลง ส้
าหรั
ฟอสฟอรั
สที่
เป็
นประโยชน์
(available-phosphorus) ค่
าสู
งสุ
ดมี
ค่
าลดลง โดยมี
ค่
าเฉลี่
ยเพิ่
มขึ้
นจาก 19.3±41.4 เป็
36.1±41.6 mg-P/kg แต่
จากการทดสอบทางสถิ
ติ
Independent T-test พบว่
าไม่
มี
ความแตกต่
างอย่
างมี
นั
ยส้
าคั
(P=0.054) แอมโมเนี
ย-ไนโตรเจน (ammonium-nitrogen) ลดลงอย่
างมี
นั
ยส้
าคั
ญ (P=0.0007) จาก 15.2±17.5 เป็
4.87±2.56 mg-N/kg และค่
าสู
งสุ
ดลดลง ซึ่
งแตกต่
างจากไนเตรท-ไนโตรเจน (nitrate-nitrogen) ที่
มี
ค่
าสู
งสุ
ดที่
เพิ่
มขึ้
และมี
ค่
าเฉลี่
ยเพิ่
มขึ้
นอย่
างมี
นั
ยส้
าคั
ญ (P=0.001) จาก 1.61±2.52 เป็
น 5.18±6.11 mg-N/kg และปริ
มาณอนิ
นทรี
ย์
ไนโตรเจนทั้
งหมด (total inorganic nitrogen) มี
ค่
าสู
งสุ
ดลดลง และมี
ค่
าเฉลี่
ยลดลงอย่
างมี
นั
ยส้
าคั
ญ (P=0.02) จาก
16.9±17.8 เป็
น 10.1±6.76 mg-N/kg (ตารางที่
2)
ตารางที่
3 แสดงค่
าความเข้
มข้
นเฉลี่
ยของตั
วแปรทางเคมี
ของดิ
นทั้
งลุ่
มน้้
าในปี
พ.ศ. 2547 และปี
พ.ศ. 2558
แจกแจงตามการใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
น แอมโมเนี
ย-ไนโตรเจนและอนิ
นทรี
ย์
ไนโตรเจนทั้
งหมด มี
ค่
าเฉลี่
ยลดลง ในพื้
นที่
นาข้
าว
และยางพารา ส่
วนไนเตรท-ไนโตรเจนและฟอสฟอรั
สที่
เป็
นประโยชน์
มี
ค่
าเพิ่
มขึ้
นในพื้
นที่
สวนยางพารา ในการใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
น นาข้
าว และสวนปาล์
ม มี
การเปลี่
ยนแปลงของเนื้
อดิ
นจากดิ
นร่
วนปนทรายเป็
นดิ
นร่
วนซึ่
งแตกต่
างจากเนื้
ดิ
นในการใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
นสวนยางพาราที่
เป็
นดิ
นร่
วนปนทราย ไม่
เปลี่
ยนแปลง แม้
ว่
าร้
อยละของขนาดอนุ
ภาคตะกอน
ทราย มี
ค่
าเพิ่
มขึ้
นและดิ
นเหนี
ยวมี
ค่
าลดลง
เมื่
อพิ
จารณาการแพร่
กระจายเชิ
งพื้
นที่
ในพื้
นที่
ลุ่
มน้้
าคลองอู่
ตะเภาตอนบน จากแผนที่
การใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
น [9]
ตามภาพที่
2 พบว่
า ฟอสฟอรั
สที่
เป็
นประโยชน์
ทั้
งสองปี
มี
การแพร่
กระจายความเข้
มข้
นสู
งในพื้
นที่
การใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
สวนปาล์
ม และรองลงมา คื
อ สวนไม้
ผลผสม โดยที่
ในปี
พ.ศ. 2558 ส่
วนใหญ่
ของพื้
นที่
การศึ
กษามี
การแพร่
กระจายความ
เข้
มข้
นเพิ่
มสู
งขึ้
นกว่
าปี
พ.ศ. 2547 (ภาพที่
3) ปริ
มาณฟอสฟอรั
สในพื้
นที่
นี้
อาจมาจากปุ๋
ยที่
ใช้
เพื่
อปรั
บปรุ
งดิ
นในการท้
เกษตรกรรม ส่
วนแอมโมเนี
ย-ไนโตรเจน (ภาพที่
4) ในบริ
เวณพื้
นที่
สวนยางพารา มี
การแพร่
กระจายความเข้
มข้
นสู
งกว่
บริ
เวณอื่
น และในปี
พ.ศ. 2547 มี
การแพร่
กระจายความเข้
มข้
นสู
งกว่
าในปี
พ.ศ. 2558 ซึ่
งแตกต่
างจากไนเตรท-ไนโตรเจน
ที่
ในปี
พ.ศ. 2547 มี
การแพร่
กระจายความเข้
มข้
นน้
อยกว่
า ปี
พ.ศ. 2558 (ภาพที่
5) ซึ่
งการแพร่
กระจายความเข้
มข้
นสู
พบในพื้
นที่
การใช้
ประโยชน์
ที่
ดิ
นประเภทสวนยางพารา แต่
เมื่
อมองโดยรวมอนิ
นทรี
ย์
ไนโตรเจนทั้
งหมด (ภาพที่
6) มี
การ
แพร่
กระจายความเข้
มข้
นสู
งในบริ
เวณสวนยางพารา แต่
ในปี
พ.ศ. 2558 มี
การแพร่
กระจายความเข้
มข้
นลดลงจากปี
พ.ศ.
2547 เนื่
องจากในการท้
าสวนยางพารานั้
นเพื่
อที่
จะให้
น้้
ายาง 1 ตั
น ต้
องสู
ญเสี
ยปริ
มาณไนโตรเจนถึ
ง 20 กิ
โลกรั
ม [10] อี
ทั้
งการใช้
ที่
ดิ
นประเภทเดี
ยวเป็
นระยะเวลานานท้
าให้
ดิ
นเสื่
อมโทรมลง ซึ่
งสอดคล้
องกั
บการศึ
กษาในประเทศอิ
นเดี
ยที่
มี
การ
ปลู
กยางพาราติ
ดต่
อกั
น 3 รอบ ท้
าให้
ปริ
มาณอิ
นทรี
ย์
คาร์
บอน และไนโตรเจนทั้
งหมดในดิ
นลดลง [11]
สรุ
ปผลการวิ
จั
ในลุ่
มน้้
าคลองอู่
ตะเภาตอนบนปริ
มาณฟอสฟอรั
สที่
เป็
นประโยชน์
มี
ค่
าเฉลี่
ยลดลง แต่
ปี
พ.ศ. 2558 มี
การ
แพร่
กระจายตลอดพื้
นที่
เข้
มข้
นสู
งกว่
าปี
พ.ศ. 2547 โดยที่
พบมี
ค่
าสู
งในพื้
นที่
สวนปาล์
มทั้
งในปี
พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2558
ส่
วนแอมโมเนี
ย-ไนโตรเจน และอนิ
นทรี
ย์
ไนโตรเจนมี
ค่
าสู
งในพื้
นที่
สวนยางพารา โดยมี
ค่
าเฉลี่
ยลดลงอย่
างมี
นั
ยส้
าคั
ญ มี
การ
1...,52,53,54,55,56,57,58,59,60,61 63,64,65,66,67,68,69,70,71,72,...300
Powered by FlippingBook