การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 103

(
Ceriops tagal
)
ถั่
วขาว
(
Bruguiera cylindrical
)
1.74
10.64
1.42
13.8
ถั่
วดํ
(
Bruguiera parviflora
)
1.63
11.70
1.41
14.74
ตะบู
นขาว
(
Xylocarpus granatum
)
0.35
3.19
0.38
3.92
ตะบู
นดํ
(
Xylocarpus
moluccensis)
0.12
3.19
0.15
3.46
แสมขาว
(
Avicennia alba
)
0.46
2.13
0.80
3.39
แสมดํ
(
Avicennia officinalis
)
0.46
4.26
0.59
5.31
พั
งกาหั
วสุ
มดอกแดง
(
Bruguiera gymnorrhiza
)
0.23
2.13
0.30
2.66
ลํ
าแพน
(
Sonneratia ovata
)
0.69
3.19
0.79
4.67
รวม
100
100
100
300
จากการสํ
ารวจโดยใช
วิ
ธี
วางแปลงตั
วอย
างในพื้
นที่
ศึ
กษา พบว
ามี
พั
นธุ
ไม
ป
าชายเลนจํ
านวน 12 ชนิ
ประกอบด
วยไม
ยื
นต
น 11 ชนิ
ด ได
แก
โกงกางใบเล็
ก โกงกางใบใหญ
โปรงแดง ถั่
วขาว ถั่
วดํ
ตะบู
นขาว
ตะบู
ดํ
า แสมขาว
แสมดํ
พั
งกาหั
วสุ
มดอกแดง ลํ
าแพน และไม
พื้
นล
าง 1 ชนิ
ด คื
อ เหงื
อกปลาหมอดอกม
วง
(
Acanthus ilicifolius
) เมื
อพิ
จารณาค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญ (Important Value Index:IVI) ซึ่
งเป
นผลรวมของ ความ
หนาแน
นสั
มพั
ทธ
ความถี่
สั
มพั
ทธ
และความเด
นสั
มพั
ทธ
ของพั
นธุ
ไม
ชนิ
ดต
าง ๆ ที่
พบในพื้
นที่
ศึ
กษา เพื่
อเป
นตั
บ
งชี้
ว
าการขึ้
นอยู
ของพั
นธุ
ไม
มี
ลั
กษณะอย
างไรในบริ
เวณศึ
กษา จากการศึ
กษาพบว
าพั
นธุ
ไม
ป
าชายเลนที่
มี
ค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญมากที่
สุ
ด คื
อ โกงกางใบเล็
กซึ่
งมี
ค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญเท
ากั
บ 196.02 รองลงมาได
แก
โปรงแดง โกงกาง
ใบใหญ
และถั่
วดํ
า ซึ่
งมี
ค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญเท
ากั
บ 34.78, 17.25 และ 14.74 ตามลํ
าดั
บ และพั
นธุ
ไม
ที่
มี
ค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญน
อยคื
อ พั
งกาหั
วสุ
มดอกแดง แสมขาว ซึ่
งมี
ค
าดั
ชนี
ความสํ
าคั
ญเท
ากั
บ 2.66 และ 3.39 ตามลํ
าดั
บ แสดง
ให
เห็
นว
าพั
นธุ
ไม
เด
นที่
ประกอบเป
นโครงสร
างป
าชายเลนในบริ
เวณนี้
คื
อ โกงกางใบเล็
ก โปรงแดง โกงกางใบใหญ
ถั่
วดํ
า และถั่
วขาว ซึ่
งชนิ
ดพั
นธุ
ไม
ที่
พบในแปลงศึ
กษาครั้
งนี้
แตกต
างจากป
าชายเลนที่
จั
งหวั
ดระนองซึ่
งพบว
ามี
พั
นธุ
ไม
ที่
สํ
าคั
ญ 24 ชนิ
ด ได
แก
โกงกางใบเล็
ก โกงกางใบใหญ
ถั่
วดํ
า ถั่
วขาว โปรงแดง และตะบู
นขาว เป
นต
(โสภณ หะวานนท
และคณะ, 2540) จะเห็
นว
าแม
มี
จํ
านวนชนิ
ดพั
นธุ
ไม
แตกต
างกั
น แต
พบว
ามี
โกงกางใบเล็
กเป
พั
นธุ
ไม
เด
นเหมื
อนกั
น ซึ่
งการที่
จํ
านวนพั
นธุ
ไม
แตกต
างกั
น ทั้
งนี้
อาจเนื่
องมาจากสภาพภู
มิ
ประเทศ ภู
มิ
อากาศ น้ํ
1...,93,94,95,96,97,98,99,100,101,102 104,105,106,107,108,109,110,111,112,113,...702
Powered by FlippingBook