การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 426

สรุ
ปผลการวิ
จั
จากผลดํ
าเนิ
นการสํ
ารวจธรณี
ฟ
สิ
กส
เพื่
อศึ
กษาขอบเขตและลั
กษณะการวางตั
วของชั้
นดิ
น ชั้
นหิ
นของ
บริ
เวณแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อน อํ
าเภอนบพิ
ตํ
า จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช โดยเลื
อกวิ
ธี
การสํ
ารวจแบบวั
ดสภาพต
านทานไฟฟ
ในแนวดิ่
ง ด
วยวิ
ธี
การวางขั้
วไฟฟ
าแบบเวนเนอร
ได
ทํ
าสํ
ารวจรอบ ๆ บริ
เวณแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อน ทั้
งที่
เป
นแนวที่
ราบ
เชิ
งเขา และบริ
เวณใกล
คลองกลาย ได
ดํ
าเนิ
นการสํ
ารวจจํ
านวนทั้
งสิ้
น 10 จุ
ด จากการประมวลผลศึ
กษาหาประเภท
ของหิ
น ดิ
น ความลึ
กของชั้
นดิ
นและหิ
นในบริ
เวณแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อนทํ
าให
สามารถสรุ
ปตามค
าสภาพต
านทานไฟฟ
ของบริ
เวณแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อนออกได
เป
น 3 ชั้
น ดั
งนี้
ชั้
นที่
1
ชั้
นบนสุ
ดเป
นชั้
นผิ
วดิ
นที่
ประกอบด
วยกรวดและทรายหยาบ บางบริ
เวณมี
ค
าสภาพต
านทานไฟฟ
ค
อนข
างต่ํ
าเนื่
องจากอยู
ใกล
บริ
เวณบ
อน้ํ
าพุ
ร
อน ซึ่
งพื้
นดิ
นมี
ความชื้
นมากกว
าบริ
เวณอื่
น มี
ความลึ
กของชั้
นดิ
ประมาณไม
เกิ
น 3 เมตร
ชั้
นที่
2
เป
นชั้
นของดิ
นเหนี
ยวหรื
อเป
นบริ
เวณชั้
นที่
สามารถอุ
มน้ํ
าในระดั
บตื้
นที่
ไหลลงมาจากผิ
วดิ
นได
แต
จะมี
หิ
นทรายแทรกสลั
บอยู
เป
นช
วง ๆ ที่
ความลึ
กประมาณ 6 – 18 เมตร ชั้
นนี้
มี
ความลึ
กประมาณไม
เกิ
น 30
เมตร
ชั้
นที่
3
ชั้
นสุ
ดท
ายเป
นชั้
นของหิ
นแกรนิ
ต ซึ่
งเป
นหิ
นฐานของพื้
นที่
บริ
เวณนี้
จากการสํ
ารวจทั้
ง 10 จุ
ด ของแหล
ง น้ํ
าพุ
ร
อนอํ
าเภอนบพิ
ตํ
า จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช พบว
าชั้
นของ
หิ
นทรายที่
แทรกสลั
บอยู
ในชั้
นของดิ
นเหนี
ยวหรื
อชั้
นที่
อุ
มน้ํ
าได
ป
ดทั
บบนหิ
นแกรนิ
ต ซึ่
งสามารถสั
นนิ
ษฐานได
ว
แหล
งน้ํ
าพุ
ร
อนนี้
น
าจะเป
นแหล
งที่
เกิ
ดจากน้ํ
าฝนหรื
อน้ํ
าผิ
วดิ
นไหลลงสู
ใต
ดิ
นตามรอยเลื่
อน รอยแตก และรู
พรุ
จนถึ
งความลึ
กระดั
บหนึ่
งในหิ
นอั
คนี
แล
วได
รั
บการถ
ายเทความร
อนแล
วไหลกลั
บสู
ผิ
วดิ
นตามรอยเลื่
อนรอยแตกของ
หิ
น เกิ
ดเป
นน้ํ
าพุ
ร
อน หรื
อบ
อน้ํ
าอุ
จากการสํ
ารวจพบว
าไม
สามารถที่
จะบอกขอบเขตบริ
เวณตามแนวราบและแนวดิ่
งเพิ่
มเติ
มของแหล
น้ํ
าพุ
ร
อนนี้
ได
ชั
ดเจนมากกว
าเดิ
ม เนื่
องจากผลที่
ได
ไม
แสดงถึ
งรอยแตก รอยแยกที่
เด
นชั
ด ที่
จะเป
นบริ
เวณทํ
าการ
พั
ฒนาเจาะแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อนเพิ่
มเติ
ม และผลการแปลความหมายจากกราฟอาจเกิ
ดความกํ
ากวมเกิ
ดขึ้
น เนื่
องจากเป
การสํ
ารวจธรณี
ฟ
สิ
กส
ที่
ใช
คุ
ณสมบั
ติ
ทางกายภาพเพี
ยงด
านเดี
ยวเท
านั้
น ดั
งนั้
นจึ
งจํ
าเป
นต
องมี
การสํ
ารวจทางธรณี
ฟ
สิ
กส
ที่
ศึ
กษาคุ
ณสมบั
ติ
ทางกายภาพด
านต
าง ๆ ควบคู
กั
นไปด
วย เช
น ความหนาแน
นของวั
ตถุ
ที่
เรี
ยกการสํ
ารวจ
แบบนี้
ว
า วิ
ธี
สํ
ารวจแรงโน
มถ
วงโลก (Gravitational method ) เพื่
อที่
จะได
ข
อมู
ลที่
แม
นยํ
ามากขึ้
คํ
าขอบคุ
การสํ
ารวจวั
ดสภาพต
านทานไฟฟ
าเพื่
อศึ
กษาหาขอบเขตและลั
กษณะชั้
นดิ
น ชั้
นหิ
นของแหล
งน้ํ
าพุ
ร
อน
พื้
นที่
อํ
าเภอนบพิ
ตํ
า จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช ได
สํ
าเร็
จลงได
ดี
เพราะได
รั
บความร
วมมื
ออย
างดี
จากหน
วยงาน และ
บุ
คคลที่
เกี่
ยวข
อง ดั
งนี้
ขอขอบคุ
ณ ภาควิ
ชาฟ
สิ
กส
คณะวิ
ทยาศาสตร
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณที่
อนุ
ญาตให
ใช
เครื่
องมื
อในการสํ
ารวจ
ขอขอบคุ
ณ เจ
าอาวาสวั
ดบ
อน้ํ
าร
อนวราราม ที่
อนุ
ญาตให
เข
าไปใช
พื้
นที่
ในการสํ
ารวจ
ขอขอบคุ
ณ ผู
ช
วยศาสตรจารย
สุ
วิ
ทย
เพชรห
วยลึ
ก ในการให
คํ
าแนะนํ
าเกี่
ยวกั
บการวิ
เคราะห
ข
อมู
1...,416,417,418,419,420,421,422,423,424,425 427,428,429,430,431,432,433,434,435,436,...702
Powered by FlippingBook