6
2. ความสั
มพั
นธ์
ระหว่
างความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมของบริ
ษั
ทและการมี
ส่
วนร่
วมของผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ย
นั
กวิ
ชาการได้
ทํ
าการทดสอบเชิ
งประจั
กษ์
เพืÉ
อศึ
กษาความสั
มพั
นธ์
ของตั
วแปรดั
งกล่
าวในบริ
บททีÉ
แตกต่
างกั
น
Prado-Lorenzo, et al(2009) ศึ
กษาการมี
ส่
วนร่
วมของผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยและการรายงานด้
านความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมของบริ
ษั
ท
ในบริ
ษั
ททีÉ
ไม่
ใช่
กลุ่
มบริ
ษั
ททางการเงิ
นจํ
านวน 99 บริ
ษั
ท ประเทศสเปน พบว่
า ผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยมี
อิ
ทธิ
พลต่
อการรายงานด้
าน
ความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมของบริ
ษั
ท โดยเฉพาะผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยทีÉ
เป็
นภาครั
ฐจะเกีÉ
ยวข้
องกั
บการสร้
างกฎระเบี
ยบเพืÉ
อให้
ธุ
รกิ
จ
แสดงพฤติ
กรรมทางสั
งคมและสิÉ
งแวดล้
อมด้
วยความโปร่
งใส นอกจากนี
Ê
ยั
งมี
ผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยทีÉ
เป็
นผู
้
ถื
อหุ
้
น ซึ
É
งแม้
ในระยะสั
Ê
น
จะสนใจการเปิ
ดเผยข้
อมู
ลประสิ
ทธิ
ภาพทางการเงิ
นของบริ
ษั
ท แต่
ก็
ยั
งคงให้
ความสํ
าคั
ญกั
บการอยู่
รอดของบริ
ษั
ทในระยะ
ยาว จึ
งสนั
บสนุ
นให้
บริ
ษั
ทเปิ
ดเผยการดํ
าเนิ
นงานด้
านสั
งคมและสิÉ
งแวดล้
อม สอดคล้
องกั
บ Manetti(2011) ทีÉ
ศึ
กษาคุ
ณภาพ
ของการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยในการรายงานความยัÉ
งยื
นของบริ
ษั
ท ประเทศอั
งกฤษ สเปน โปรตุ
เกสจํ
านวน 174 ฉบั
บ
พบว่
า การมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยเป็
นองค์
ประกอบทีÉ
สํ
าคั
ญ และถู
กกํ
าหนดให้
เป็
นกลยุ
ทธ์
ของบริ
ษั
ท มี
ลั
กษณะการ
ดํ
าเนิ
นการเป็
นแบบการประชุ
มปรึ
กษาหารื
อ การติ
ดตามและการเก็
บรวบรวมข้
อมู
ล ผ่
านอิ
นเทอร์
เนต อี
เมล โทรศั
พท์
การ
ประชุ
ม สํ
าหรั
บช่
องทางทีÉ
ให้
ผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยแสดงความคิ
ดเห็
นและมี
ส่
วนร่
วมในกระบวนการตั
ดสิ
นใจผ่
านการสํ
ารวจ การ
สนทนากลุ่
ม การอภิ
ปรายผ่
านเวปไซด์
เช่
นเดี
ยวกั
บ Kraisornsuthasinee&Swierczek(2006) ทีÉ
ศึ
กษาความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคม
ของบริ
ษั
ทในประเทศไทย ผ่
านการสั
มภาษณ์
เชิ
งลึ
กบริ
ษั
ททีÉ
เป็
นสมาชิ
กคณะกรรมการนั
กธุ
รกิ
จเพืÉ
อสิÉ
งแวดล้
อมไทย จํ
านวน
7 บริ
ษั
ท จากกลุ่
มอุ
ตสาหกรรมธุ
รกิ
จการเงิ
น สิ
นค้
าอุ
ตสาหกรรม อสั
งหาริ
มทรั
พย์
และก่
อสร้
าง ทรั
พยากร พบว่
า ทุ
กบริ
ษั
ท
ให้
ความสํ
าคั
ญกั
บการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยเป็
นปั
จจั
ยทีÉ
ส่
งผลต่
อการดํ
าเนิ
นการความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคม โดยบริ
ษั
ท
ทีÉ
ให้
ความสํ
าคั
ญในการการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยในระยะยาว ในลั
กษณะเป็
นผู
้
บุ
กเบิ
กโครงการชุ
มชน และการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยตามโอกาสทีÉ
เหมาะสม ผ่
านการร่
วมกั
บตั
วแทนองค์
กรภาครั
ฐและองค์
กรไม่
แสวงหาผลกํ
าไร ใน
เรืÉ
องการพั
ฒนาชุ
มชน การศึ
กษา ศาสนา และกี
ฬา นอกจากนี
Ê
การศึ
กษาของ Greenwood (2007) พบว่
าการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยมี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมของบริ
ษั
ทผ่
านมุ
มมองทีÉ
พิ
จารณาการมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยทีÉ
ซั
บซ้
อนขึ
Ê
นว่
าเป็
นองค์
ประกอบของความมี
คุ
ณธรรม
จากการทบทวนวรรณกรรมสรุ
ปว่
า การมี
ส่
วนร่
วมกั
บผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยมี
ความสั
มพั
นธ์
โดยตรงกั
บความรั
บผิ
ดชอบ
ต่
อสั
งคมของบริ
ษั
ท ดั
งแสดงความสั
มพั
นธ์
ในภาพทีÉ
1 องค์
ประกอบของการมี
ส่
วนร่
วมของผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ย ประกอบด้
วย
รู
ปแบบของการสนทนา ระดั
บของการมี
ส่
วนร่
วมในการตั
ดสิ
นใจ สํ
าหรั
บองค์
ประกอบของความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคมของ
บริ
ษั
ทประกอบด้
วย ความรั
บผิ
ดชอบด้
านเศรษฐกิ
จ ด้
านกฎหมาย ด้
านจริ
ยธรรม และด้
านการกุ
ศล กรอบแนวคิ
ดนี
Ê
พั
ฒนาขึ
Ê
น
สํ
าหรั
บการศึ
กษาในบริ
บทของบริ
ษั
ทจดทะเบี
ยนในตลาดหลั
กทรั
พย์
แห่
งประเทศไทย เนืÉ
องจากการลงทุ
นในบริ
ษั
ทจด
ทะเบี
ยนฯ เป็
นการลงทุ
นทีÉ
มี
ความเสีÉ
ยง ดั
งนั
Ê
นในการตั
ดสิ
นใจเลื
อกลงทุ
นของผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยจึ
งมั
กคํ
านึ
งถึ
งการลงทุ
นใน
ธุ
รกิ
จทีÉ
มี
ความรั
บผิ
ดชอบต่
อสั
งคม เพืÉ
อไม่
ก่
อให้
เกิ
ดปั
ญหาการดํ
าเนิ
นงานทีÉ
กระทบต่
อผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ยและสั
งคม
ภาพทีÉ
1 กรอบแนวคิ
ดในการวิ
จั
ย
การมี
ส่
วนร่
วม
ของผู
้
มี
ส่
วนได้
เสี
ย
ความ
รั
บผิ
ดชอบต่
อ
สั
งคมของ
ระดั
บของการ
มี
ส่
วนร่
วมใน
การตั
ดสิ
นใจ
รู
ปแบบของ
การสนทนา
ความรั
บผิ
ดชอบ
ด้
านเศรษฐกิ
จ
ความรั
บผิ
ดชอบ
ด้
านกฎหมาย
ความรั
บผิ
ดชอบ
ด้
านจริ
ยธรรม
ความรั
บผิ
ดชอบ
ด้
านการกุ
ศล
1001
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555