Î
µ
จั
งหวั
ดตรั
งเป็
นอี
กจั
งหวั
ดหนึ
่
งที่
มี
การประกอบอาชี
พทํ
าประมงปู
ม้
าจํ
านวนมาก ดั
งนั
้
นการทํ
าประมง
ปู
ม้
าจึ
งเป็
นอาชี
พที่
มี
ความสํ
าคั
ญต่
อวิ
ถี
การดํ
ารงชี
วิ
ตและสภาพทางเศรษฐกิ
จของชาวประมงขนาดเล็
กในพื
้
นที่
ชายฝั่
ง
ทะเลตรั
งเป็
นอย่
างมากเช่
นกั
น แต่
ปั
จจุ
บั
นพบว่
าสถานภาพของปู
ม้
าในหลายพื
้
นที่
ของทะเลตรั
งอยู
่
ในสภาพเสื่
อมโทรม
เนื่
องจากมี
การทํ
าประมงมากเกิ
นศั
กย์
การผลิ
ตของธรรมชาติ
และมี
การใช้
ประโยชน์
ปู
ม้
าขนาดเล็
ก (ยั
งไม่
ถึ
งวั
ยเจริ
ญพั
นธุ
์
และไม่
ได้
ขนาดตลาด) มากเกิ
นไป รวมทั
้
งยั
งพบว่
ามี
การจั
บปู
ม้
าไข่
นอกกระดองมากถึ
งร้
อยละ 9.0 ของปู
ม้
าเพศเมี
ยที่
จั
บ
ได้
(ธงชั
ย และคณะ, 2547) สํ
าหรั
บพื
้
นที่
แนวเขตอนุ
รั
กษ์
พั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
าวั
ยอ่
อนสี่
หมู
่
บ้
าน จั
งหวั
ดตรั
ง ซึ
่
งเป็
นพื
้
นที่
ที่
ชุ
มชน
ประมงชายฝั่
ง 4 หมู
่
บ้
าน จากตํ
าบลบางสั
ก ตํ
าบลเกาะลิ
บง อํ
าเภอกั
นตั
ง และ ตํ
าบลไม้
ฝาด อํ
าเภอสิ
เกา จั
งหวั
ดตรั
ง
ใช้
ประโยชน์
โดยการทํ
าประมงร่
วมกั
นในพื
้
นที่
กว่
า 27,500 ไร่
ครอบคลุ
มตลอดแนวชายฝั่
งแนวหญ้
าทะเลซึ
่
งเป็
นแหล่
งที่
อยู
่
อาศั
ยของปู
ม้
าขนาดเล็
ก บริ
เวณอ่
าวหน้
าเกาะมุ
กด์
หน้
าหาดหยงหลํ
า และเขาแบ-นะ จนประกาศเป็
นเขตอนุ
รั
กษ์
พั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
าวั
ยอ่
อนสี่
หมู
่
บ้
าน(เขตเล-เสบ้
าน) เพื่
อให้
สมาชิ
กในชุ
มชนทั
้
ง 4 หมู
่
บ้
านและส่
วนราชการที่
เกี่
ยวข้
องกํ
าหนด
มาตรการบริ
หารจั
ดการประมงชายฝั่
งร่
วมกั
น เพื่
อแก้
ปั
ญหาการใช้
เครื่
องมื
อประมงที่
ไม่
เหมาะสม เช่
น ลอบปู
ม้
าที่
มี
ขนาดตาอวนตํ
่
ากว่
า 2.0 นิ
้
ว ซึ
่
งส่
งผลให้
ทรั
พยากรปู
ม้
าลดจํ
านวนลง และยั
งควบคุ
มเครื่
องมื
อประมงบางชนิ
ดที่
ทํ
าลาย
ระบบนิ
เวศหญ้
าทะเลและเป็
นอั
นตรายต่
อพะยู
นได้
แก่
อวนชั
ก อวนทั
บตลิ่
ง เบ็
ดราไว และอวนปลากระเบน โดยได้
มี
การ
กํ
าหนดกฎ กติ
กาเพื่
อควบคุ
มการใช้
เครื่
องมื
อประมงที่
ทํ
าลายพั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
า ในบริ
เวณดั
งกล่
าวควบคู่
กั
บการจั
ดกิ
จกรรม
รณรงค์
อนุ
รั
กษ์
ฟื
้
นฟู
ทรั
พยากรประมงมาตั
้
งแต่
ปี
พ.ศ. 2550
การศึ
กษาครั
้
งนี
้
มี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อศึ
กษาความหนาแน่
นและการแพร่
กระจายของปู
ม้
า บริ
เวณพื
้
นที่
แนวเขตอนุ
รั
กษ์
พั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
าวั
ยอ่
อนสี่
หมู
่
บ้
าน ในแต่
ละฤดู
กาล ซึ
่
งจะทํ
าให้
ได้
ข้
อมู
ลพื
้
นฐานที่
สามารถนํ
ามาใช้
ในการ
บริ
หารจั
ดการทรั
พยากรปู
ม้
าบริ
เวณพื
้
นที่
แนวเขตอนุ
รั
กษ์
พั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
าวั
ยอ่
อนสี่
หมู
่
บ้
าน จั
งหวั
ดตรั
ง ให้
เกิ
ดประสิ
ทธิ
ภาพ
ยิ่
งขึ
้
น
ª·
¸
µ¦ª·
´
¥
ทํ
าการเก็
บรวบรวมตั
วอย่
างปู
ม้
าเดื
อนละ 1 ครั
้
ง ตั
้
งแต่
เดื
อน กรกฎาคม พ.ศ.2552 ถึ
ง เดื
อนมิ
ถุ
นายน
พ.ศ.2553 รวม 12 ครั
้
ง ครอบคลุ
มระบบนิ
เวศของพื
้
นที่
7 สถานี
ได้
แก่
สถานี
MG1, MG2 คื
อ บริ
เวณป่
าชายเลน
สถานี
P1, P2 คื
อ บริ
เวณปากคลอง สถานี
A1, A2 คื
อบริ
เวณแนวหญ้
าชะเงาใบสั
้
นเขตนํ
้
าตื
้
น สถานี
B1. B2 คื
อ บริ
เวณ
หญ้
าชะเงาใบยาวเขตนํ
้
าตื
้
น สถานี
C1, C2 คื
อ บริ
เวณแนวหญ้
าใบมะกรู
ดเขตนํ
้
าตื
้
น สถานี
D1, D2 คื
อบริ
เวณแนวหญ้
า
ทะเลใบยาวเขตนํ
้
าลึ
ก และสถานี
E1, E2 คื
อบริ
เวณแนวหญ้
าชะเงาใบยาวเขตนํ
้
าลึ
ก วางลอบปู
ม้
าขนาดตาอวน 2 นิ
้
ว
และ 1.7 นิ
้
ว อย่
างละ 3 ลู
ก/สถานี
(ภาพที่
1 )โดยออกวางลอบเวลา 16.00 น. วางทิ
้
งไว้
1 คื
น แล้
วออกไปเก็
บกู
้
ลอบเวลา
06.00 น. ของวั
นรุ
่
งขึ
้
น
จากนั
้
นนํ
าปู
ม้
าที่
ได้
มาทํ
าการวั
ดความกว้
างและความยาวของกระดองทั
้
งเพศผู
้
และเพศเมี
ย
ด้
วย Vernire Caliper มี
หน่
วยเป็
นเซนติ
เมตร และชั่
งนํ
้
าหนั
กตั
วด้
วยเครื่
องชั่
งที่
มี
ความละเอี
ยด 0.1 กรั
ม พร้
อมทั
้
ง
คํ
านวณค่
าเฉลี่
ยของจํ
านวนปู
ม้
า (จํ
านวนตั
ว/ลอบ/เดื
อน) รวมทั
้
งนั
บจํ
านวนปู
ม้
าจํ
าแนกตามขนาดและเพศ รายสถานี
รายเดื
อน และจํ
าแนกตามฤดู
กาลโดยฤดู
ร้
อนหรื
อแล้
งเริ่
มจากเดื
อนมกราคมถึ
งเดื
อนเมษายน เป็
นช่
วงมรสุ
ม
ตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ และฤดู
ฝน เริ่
มตั
้
งแต่
เดื
อนพฤษภาคมถึ
งเดื
อนธั
นวาคม เป็
นช่
วงมรสุ
มตะวั
นตกเฉี
ยงใต้
(สั
มพั
นธ์
,
2539)
36
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555