**
วิ
ตามิ
นรวม
(mg/kg diet): thiamine HCL 15; riboflavin 30; nicotinic acid 80; calcium pantothenate 75; pyridoxine HCL 15; vitamin
B
12
0.005; inositol 25; biotin 2; folic acid 2; choline chloride 500; ascorbic acid 250; vitamin E 125; vitamin K
3
15; vitamin A
12,000 IU; vitamin D
3
1200 IU; cellulose 3,795.
µ¦µ¸É
2
สู
ตรอาหารทดลองสํ
าหรั
บปลาดุ
กลํ
าพั
นที่
มี
ระดั
บไขมั
น 9-21 % ในการทดลองที่
2
สู
ตรที่
1
9 %
สู
ตรที่
2
12 %
สู
ตรที่
3
15%
สู
ตรที่
4
18 %
สู
ตรที่
5
21 %
ปลาป่
น
55
55
55
55
55
กากถั่
วเหลื
อง
20
20
20
20
20
แป้
งมั
นสํ
าปะหลั
ง
8
8
8
8
8
แป้
งข้
าวเจ้
า
14
12
9
6
3
แร่
ธาตุ
รวม
*
1.5
1.5
1.5
1.5
1.5
วิ
ตามิ
นรวม
**
1.5
1.5
1.5
1.5
1.5
นํ
้
ามั
นถั่
วเหลื
อง
-
2
5
8
11
องค์
ประกอบทางเคมี
(% as fed basis)
Protein
42.64
42.26
41.67
41.75
41.77
Lipid
8.32
11.95
14.20
16.53
21.46
Ash
13.52
13.39
13.34
13.60
13.33
Moisture
3.72
3.81
3.65
3.89
3.92
*
แร่
ธาตุ
รวม
(mg/kg diet) CoCl
2
.6H
2
O 0.5; CuSO
4
.5H
2
O 10; FeSO
4
.H
2
O 50; KCl 2; KI 1.6;
MgSO
4
.7H
2
O 1,200; ZnSO
4
100; MnSO
4
.H
2
O60; NaCl 1,000; cellulose 2,576.
**
วิ
ตามิ
นรวม
(mg/kg diet): thiamine HCL 15; riboflavin 30; nicotinic acid 80; calcium pantothenate 75; pyridoxine HCL 15; vitamin
B
12
0.005; inositol 25; biotin 2; folic acid 2; choline chloride 500; ascorbic acid 250; vitamin E 125; vitamin K
3
15; vitamin A
12,000 IU; vitamin D
3
1200 IU; cellulose 3,795.
¨µ¦ª·
´
¥
¨µ¦¨°¸É
1 : ¨
°Å
¤´
¦³Á£n
µ Ç n
°µ¦Á¦·
Á·
à ¨³µ¦¦°µ¥
°¨¼
¨µ»
¨Î
µ¡´
นํ
้
าหนั
กสุ
ดท้
าย นํ
้
าหนั
กที่
เพิ่
ม อั
ตราการเจริ
ญเติ
บโตจํ
าเพาะ อั
ตราแลกเนื
้
อ
(FCR)
และการรอดตายของปลาดุ
กลํ
า
พั
นที่
ได้
รั
บอาหารทดลองซึ
่
งใช้
ไขมั
นจากแหล่
งต่
างๆ ไม่
มี
ความแตกต่
างกั
นทางสถิ
ติ
(P>0.05)
ตลอดระยะเวลา 8 สั
ปดาห์
ของการทดลอง (ตารางที่
3)
เช่
นเดี
ยวกั
นกั
บค่
า ประสิ
ทธิ
ภาพการใช้
โปรตี
น (PER) การสะสมโปรตี
นในตั
วปลา (protein
retention) condition factor (CF) และ hepatosomatic index
(HSI)
ซึ
่
งพบว่
าไม่
มี
ความแตกต่
างกั
นทางสถิ
ติ
ในปลาดุ
กลํ
า
พั
นที่
ได้
รั
บอาหารทดลองซึ
่
งใช้
ไขมั
นจากแหล่
งต่
างๆ ขณะที่
การสะสมไขมั
นในตั
วปลา (lipid retention) มี
ค่
าสู
งในชุ
ด
การทดลองที่
ใช้
นํ
้
ามั
นถั่
วเหลื
องเป็
นแหล่
งไขมั
น และแตกต่
างอย่
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
กั
บปลาที่
ได้
รั
บอาหารผสมนํ
้
ามั
น
ปลา (P<0.05) แต่
ไม่
แตกต่
างกั
บปลาที่
ได้
รั
บอาหารซึ
่
งใช้
นํ
้
ามั
นรํ
าข้
าว และนํ
้
ามั
นปาล์
มเป็
นแหล่
งไขมั
น
46
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555