Î
µ
ประเทศไทยมี
การขยายตั
วของอุ
ตสาหกรรมเพาะเลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าอย่
างรวดเร็
ว โดยเฉพาะตามแนวชายฝั่
งทะเล ส่
งผลให้
เกิ
ดปั
ญหาภาวะมลพิ
ษจากนํ
้
าทิ
้
งที่
มี
การปนเปื
้
อนของสารอิ
นทรี
ย์
และสารอนิ
นทรี
ย์
โดยเฉพาะสารประกอบไนโตรเจนทั
้
ง
แอมโมเนี
ย ไนไตรท์
และไนเตรท ซึ
่
งมี
สาเหตุ
มาจากเศษอาหารและสิ่
งขั
บถ่
ายของสั
ตว์
นํ
้
า โดยของเสี
ยจะสะสมอยู
่
บริ
เวณ
พื
้
นบ่
อส่
งผลให้
เกิ
ดนํ
้
าเน่
าเสี
ย อาจส่
งผลให้
เกิ
ดพิ
ษเฉี
ยบพลั
นต่
อสั
ตว์
นํ
้
า เพื่
อป้
องกั
นปั
ญหาที่
เกิ
ดขึ
้
นนั
กวิ
ชาการได้
พั
ฒนา
รู
ปแบบการเพาะเลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าด้
วยระบบนํ
้
าหมุ
นเวี
ยน
(Recirculating aquaculture systems; RAS) ซึ
่
งเป็
นระบบที่
จะนํ
านํ
้
าที่
ผ่
านการบํ
าบั
ดแล้
วกลั
บมาใช้
เลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าอี
กครั
้
ง และเป็
นระบบที่
สามารถควบคุ
มคุ
ณภาพของนํ
้
าได้
อย่
างสมํ
่
าเสมอ ทํ
าให้
สั
ตว์
นํ
้
ามี
อั
ตราการรอดตายสู
ง (ยงยุ
ทธปรี
ดาลั
มพะบุ
ตร. 2553)
โดยนํ
้
าเสี
ยจะผ่
านการบํ
าบั
ดด้
วยกระบวนการทางกายภาพและชี
วภาพ
อาศั
ยการทํ
างานของแบคที
เรี
ย 2 กลุ
่
ม คื
อ แบคที
เรี
ยไนตริ
ไฟอิ
งและแบคที
เรี
ยดี
ไนตริ
ไฟอิ
ง ผ่
านกระบวนการไนตริ
ฟิ
เคชั
น
และกระบวนการดี
ไนตริ
ฟิ
เคชั
นตามลํ
าดั
บ (นุ
กู
ล อิ
นทระสั
งขา. 2553) แต่
ระบบดั
งกล่
าวเมื่
อใช้
ไปนานๆพบว่
าระบบไม่
สามารถบํ
าบั
ดไนเตรทได้
อย่
างสมบู
รณ์
จากผลการศึ
กษาเบื
้
องต้
นพบว่
าระบบ RAS สามารถควบคุ
มการบํ
าบั
ดแอมโมเนี
ยได้
ดี
ไม่
ทํ
าให้
เป็
นพิ
ษต่
อสั
ตว์
นํ
้
า แต่
กลั
บมี
การสะสมไนเตรทในปริ
มาณสู
ง (อาจพบสู
งถึ
ง 300 มิ
ลลิ
กรั
มต่
อลิ
ตร) เนื่
องจากเกิ
ด
กระบวนการดี
ไนตริ
ฟิ
เคชั
นไม่
สามารถทํ
างานได้
จากปั
ญหาดั
งกล่
าวทํ
าให้
มี
การศึ
กษาเพื่
อแก้
ปั
ญหาไนเตรทสะสมในปริ
มาณที่
สู
ง
โดยอาศั
ยเมื
อกชี
วภาพ (biofilm) ซึ
่
งเป็
นสารพอลิ
เมอร์
ที่
แบคที
เรี
ยผลิ
ตออกมาเพื่
อป้
องกั
นตั
วเอง และใช้
ยึ
ดเกาะกั
บพื
้
นผิ
วของ
ตั
วกลาง โดยบริ
เวณเมื
อกด้
านในส่
วนใหญ่
จะพบแบคที
เรี
ยที่
ไม่
ต้
องการออกซิ
เจน ส่
วนชั
้
นด้
านนอกของเมื
อกชี
วภาพส่
วนใหญ่
เป็
นแบคที
เรี
ยที่
ชอบออกซิ
เจน
ซึ
่
งเมื
อกชี
วภาพจะทํ
าหน้
าที่
บํ
าบั
ดสารประกอบไนโตรเจนในรู
ปของแอมโมเนี
ย ไนไตรท์
และไนเตรท ทํ
าให้
นํ
้
าเสี
ยที่
ไหลผ่
านชั
้
นเมื
อกชี
วภาพจะผ่
านการบํ
าบั
ดให้
มี
คุ
ณภาพดี
กว่
าระบบการบํ
าบั
ดแบบจุ
ลิ
นทรี
ย์
ที่
แขวนลอย เนื่
องจากจุ
ลิ
นทรี
ย์
อาจหลุ
ดไปพร้
อมนํ
้
าที่
ไหลออกหรื
อถู
กโปรโตซั
วจั
บกิ
นได้
(นุ
กู
ล อิ
นทระสั
งขา. 2553)
งานวิ
จั
ยนี
้
มี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อศึ
กษาความเป็
นไปได้
ในการบํ
าบั
ดไนเตรทสะสม โดยเปรี
ยบเที
ยบตั
วกลางที่
เหมาะสมให้
จุ
ลิ
นทรี
ย์
ยึ
ดเกาะจากตั
วกลางที่
มี
การใช้
ทั่
วไปในการบํ
าบั
ดนํ
้
าเสี
ย จํ
านวน 4 ชนิ
ด คื
อ 1) ไบโอบอล 2) หิ
นภู
เขาไฟ 3) เปลื
อกหอยนางรม
และ 4) แผ่
นอวนไนลอนชนิ
ดทอไม่
มี
ปมตั
ดเป็
นชิ
้
นสี่
เหลี่
ยม ขนาด1×1นิ
้
ว เปรี
ยบเที
ยบกั
บระบบที่
ไม่
มี
ตั
วกลางเป็
นชุ
ดควบคุ
ม
ทํ
าการทดลองในระดั
บห้
องปฏิ
บั
ติ
การ โดยศึ
กษาความสั
มพั
นธ์
ของการเปลี่
ยนแปลงโครงสร้
างชุ
มชนแบคที
เรี
ยดี
ไนตริ
อิ
ง
ต่
อประสิ
ทธิ
ภาพการบํ
าบั
ดไนเตรทในระยะเวลาการบํ
าบั
ดที่
แตกต่
างกั
น โดยใช้
เทคนิ
คFluorescence
In Situ
Hybridization (FISH)
และการนั
บปริ
มาณแบคที
เรี
ยดี
ไนตริ
ไฟอิ
งด้
วยเทคนิ
ค MPN แบบไมโครเทคนิ
ค ร่
วมกั
บทํ
าการตรวจสอบลั
กษณะ
พื
้
นผิ
วของเมื
อกชี
วภาพที
่
ยึ
ดเกาะบนผิ
วตั
วกลางด้
วยกล้
องจุ
ลทรรศน์
แบบฉากสว่
างและแบบส่
องกราด (Scanning
Electron Microscope, SEM) โดยทํ
าการตรวจวิ
เคราะห์
คุ
ณภาพนํ
้
าทางเคมี
เพื่
อศึ
กษาบทบาทและหน้
าที่
ของกลุ
่
มจุ
ลิ
นทรี
ย์
ที่
เกี่
ยวข้
อง ผลการศึ
กษาที่
ได้
จะนํ
าไปประยุ
กต์
ใช้
ในการทดลองขั
้
นนํ
าร่
องของ RAS ที่
มี
การเลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าชายฝั่
งจริ
งเพื่
อทํ
าการ
แก้
ปั
ญหาปริ
มาณไนเตรทสะสมในระบบต่
อไป
°»
¦r
¨³ª·
¸
µ¦
แบ่
งการศึ
กษาออกเป็
น 2 ช่
วงการทดลอง คื
อ ช่
วงแรกเป็
นการเพาะขยายกล้
าเชื
้
อแบคที
เรี
ยดี
ไนตริ
ไฟอิ
งด้
วยระบบ
การเพาะเลี
้
ยงแบบกึ
่
งกะ ( Semi- batch culture ) และช่
วงที่
2 เป็
นการเปรี
ยบเที
ยบชนิ
ดของตั
วกลางที่
เหมาะสมต่
อการบํ
าบั
ดไนเตรท
จากตั
วกลางทั
้
ง 4 ชนิ
ดกั
บชุ
ดควบคุ
ม
ดั
งมี
รายละเอี
ยดต่
อไปนี
้
µ¦Á¡µ³Á¨¸
Ê
¥¨o
µÁº
Ê
°Â¸
Á¦¸
¥¸
Ŧ·
Å¢°·
นํ
ากล้
าเชื
้
อแบคที
เรี
ยดี
ไนตริ
ไฟอิ
งเริ่
มต้
นจากงานที่
เกี่
ยวข้
องกั
บการเพาะเลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าชายฝั่
ง ได้
แก่
งานวิ
จั
ยของสุ
ภฏา
คี
รี
รั
ฐนิ
คม สถาบั
นวิ
จั
ยการเพาะเลี
้
ยงสั
ตว์
นํ
้
าชายฝั่
ง ( NICA ) สถานแสดงพั
นธุ
์
สั
ตว์
นํ
้
าสงขลา และจากงานวิ
จั
ยของนุ
กู
ล
52
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555