การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 176

ในและต
างประเทศ และจะแปรรู
ปน้ํ
านมดิ
บเป
นผลิ
ตภั
ณฑ
เครื่
องสํ
าอางและผลิ
ตภั
ณฑ
นมอื่
น ๆ เช
น เนย นมผง นม
ผงอั
ดเม็
ด และเนื้
อแพะกระป
อง ส
วนสิ
ทธิ
ชั
ยฟาร
มขณะนี้
อยู
ในระหว
างการปรั
บเปลี่
ยนไปเป
นผลิ
ตภั
ณฑ
เพื่
อความ
งามทั้
งหมด
การจํ
าหน
ายน้ํ
านมแพะทุ
กฟาร
มไม
มี
ป
ญหาการตลาด แต
มี
ป
ญหามี
น้ํ
านมแพะไม
เพี
ยงพอต
อความต
องการ
ของตลาด ยกเว
นอั
ครฟาร
มที่
ระบุ
ว
าผู
บริ
โภคบางส
วนลั
งเลที่
จะบริ
โภคน้ํ
านมแพะ เพราะไม
คุ
นเคยและมี
ความเชื่
อว
น้ํ
านมแพะมี
กลิ่
3. พฤติ
กรรมการซื้
อน้ํ
านมแพะ
ตารางที่
2 แสดงพฤติ
กรรมการซื้
อน้ํ
านมพาของผู
บริ
โภคซึ่
งประกอบด
วยประเด็
นคํ
าถาม 6 ประเด็
น คื
ชนิ
ดของน้ํ
านมแพะที่
ดื่
มมากที่
สุ
ด ความถี่
ของการดื่
ม ขนาดบรรจุ
ภั
ณฑ
ที่
ซื้
อ แหล
งที่
ซื้
อ เหตุ
ผลที่
ดื่
มน้ํ
านมแพะ และ
ประโยชน
ที่
ได
รั
บจากการดื่
มน้ํ
านมแพะ
จากการสํ
ารวจพบว
า ผู
บริ
โภคส
วนใหญ
(92.2 %) ดื่
มน้ํ
านมพาสเจอร
ไรส
รสจื
ด เนื่
องจากเป
นผลิ
ตภั
ณฑ
นม
พาสเจอร
ไรส
ที่
มี
มากที่
สุ
ด รวมทั้
งผู
บริ
โภคส
วนใหญ
เชื่
อว
า นมแพะพาสเจอร
ไรส
รสจื
ดมี
คุ
ณค
าทางอาหารสู
งสุ
ส
วนความถี่
ของการดื่
มนั้
น มี
ผู
บริ
โภคที่
ดื่
มนมแพะทุ
กวั
น 22.0 % ในขณะที่
ผู
บริ
โภคที่
นาน ๆ ครั้
งดื่
มน้ํ
านมแพะมี
38.7 % และดื่
ม 1-2 วั
น/ครั้
ง 3-4 วั
น/ครั
ง และ 5-6 วั
น/ครั้
ง 17.5, 14.2, 7.5 เปอร
เซ็
นต
ตามลํ
าดั
บ ขนาดบรรจุ
ภั
ณฑ
ที่
ผู
บริ
โภคนิ
ยมซื้
อมากที่
สุ
ดคื
อ ขนาด 150-200 มล. (83.2 %) รองลงมาคื
อขวดขนาดกลาง 250-300 มล. เนื่
องจากมี
การ
ผลิ
ตและจํ
าหน
ายในขวดขนาดเล็
กมากที่
สุ
ด และเนื่
องจากผู
บริ
โภคทราบว
าน้ํ
านมพาสเจอร
ไรส
ไม
สามารถเก็
บรั
กษา
ได
นานจึ
งต
องบริ
โภคให
หมดในคราวเดี
ยวจึ
งนิ
ยมซื้
อขวดเล็
ส
วนใหญ
ผู
บริ
โภคได
รั
บนมโดยการบริ
การส
งถึ
งที่
(60.8 %) เนื่
องจากผู
ผลิ
ตทั้
ง 3 ราย ใน จั
งหวั
ดภู
เก็
บริ
การส
งถึ
งที่
ส
วนผู
ผลิ
ตในจั
งหวั
ดสงขลาและสุ
ราษฎร
ธานี
มี
ทั้
งส
งถึ
งที่
และจํ
าหน
ายตามร
านน้ํ
าชา และร
านข
าว
แกง ซึ่
งส
วนใหญ
เป
นร
านข
าวแกงอาหารมุ
สลิ
ม เฉพาะนมแพะศิ
ริ
ชั
ย ของบริ
ษั
ทมาบุ
ญครองแดรี
โกสต
เท
านั้
นที่
วางขายตามร
านสะดวกซื้
อและห
างสรรพสิ
นค
ผู
บริ
โภคส
วนใหญ
ดื่
มน้ํ
านมแพะเพื่
อบํ
ารุ
งร
างกาย (58.3 %) รองลงมาคื
อ ดื่
มเพื่
อรั
กษาโรค ซึ่
งจะเห็
นได
ว
ผู
บริ
โภคเชื่
อว
านมแพะช
วยบํ
ารุ
งร
างกายและมี
สรรพคุ
ณทางยาสํ
าหรั
บรั
กษาโรคบางชนิ
ด นิ
รนาม (2548) เชื่
อว
า การ
ดื่
มน้ํ
านมแพะจะช
วยรั
กษาโรคภู
มิ
แพ
หอบหื
ด โลหิ
ตจาง เป
นแผลในกระเพาะอาหาร และอาการอาหารไม
ย
อย
ผู
บริ
โภค 71.0 % คิ
ดว
าได
รั
บประโยชน
จากการดื่
มน้ํ
านมแพะเป
นอย
างมาก และอี
ก 27.4 % ได
รั
บประโยชน
เล็
กน
อย
ซึ่
งเกิ
ดจากผลการดื่
มน้ํ
านมแพะแล
วทํ
าให
ร
างกายแข็
งแรง และทํ
าให
โรคบางอย
างหายไปหรื
อทุ
เลาลง
1...,166,167,168,169,170,171,172,173,174,175 177,178,179,180,181,182,183,184,185,186,...702
Powered by FlippingBook