6
17.15 ชั่
วโมงต
อวั
น ในแต
ละครั้
งทารกจะนอนหลั
บมากกว
า ½ ชั่
วโมง สอดคล
องกั
บการศึ
กษาของการ
ดเนอร
และลั
บ
เชนโค (Gardner & Lubchenco, 1998) ที่
พบว
า การนอนหลั
บของทารกเกิ
ดก
อนกํ
าหนดใช
เวลาประมาณ 30-40 นาที
ต
อ
ครั้
ง ทารกจะใช
ระยะเวลาตั้
งแต
เริ่
มต
นนอนจนเริ่
มหลั
บประมาณ 10 นาที
(พรรณี
, 2545) ส
วนค
าคะแนนเฉลี่
ยคุ
ณภาพ
การนอนหลั
บเชิ
งคุ
ณภาพนั้
นพบว
า อยู
ในระดั
บปานกลาง เมื่
อพิ
จารณาแต
ละข
อคํ
าถามของคุ
ณภาพการนอนหลั
บเชิ
ง
คุ
ณภาพ สามารถอธิ
บายได
ว
า ขณะหลั
บทารกจะหลั
บตาสนิ
ท มี
การเคลื่
อนไหวของใบหน
าและร
างกายน
อยมาก แต
อาจ
มี
การสะดุ
ง ผวาในบางครั้
ง ซึ่
งแสดงถึ
งระยะหลั
บลึ
ก (เพ็
ญจิ
ตร
, 2544) ดั
งนั้
นการที่
ทารกนอนหลั
บในระยะหลั
บลึ
ก เมื่
อ
ตื่
นนอนทารกจึ
งมั
กสดชื่
น ร
าเริ
ง แต
จากการศึ
กษาพบว
า ทารกมั
กตื่
นบ
อยขึ้
นเมื่
อมี
สิ่
งรบกวนการนอนหลั
บซึ่
งสามารถ
อธิ
บายได
ว
า ความหิ
ว การขั
บถ
ายหรื
อความเป
ยกชื้
นเป
นความต
องการภายในร
างกาย จะทํ
าให
ทารกเปลี่
ยนจากระยะ
หลั
บเป
นระยะตื่
น และเมื่
อมี
สิ่
งมารบกวนการนอนหลั
บ ทารกจะตอบสนองต
อสิ่
งที่
รบกวนการนอนหลั
บโดยการที่
ทารก
ตื่
นบ
อยขึ้
น (Blackburn & Kang, 1991) ซึ่
งอาจส
งผลกระทบต
อการทํ
ากิ
จกรรมตามปกติ
แต
จากการศึ
กษาพบว
าขณะที่
ทํ
า
กิ
จวั
ตรประจํ
าวั
นตามปกติ
ทารกจะแสดงท
าทางสดชื่
น ร
าเริ
ง สามารถอธิ
บายได
ว
า เนื่
องจากทารกมี
คุ
ณภาพการนอน
หลั
บเชิ
งปริ
มาณอยู
ในระดั
บสู
งและเมื่
อพิ
จารณาแต
ละข
อคํ
าถามของคุ
ณภาพการนอนหลั
บเชิ
งคุ
ณภาพพบว
า ทารกนอน
หลั
บในระยะหลั
บลึ
กทํ
าให
เมื่
อตื่
นนอนทารกมั
กสดชื่
น ร
าเริ
ง แม
จะมี
สิ่
งรบกวนการนอนหลั
บบ
างก็
ตาม
2. การจั
ดการของผู
ดู
แลในการส
งเสริ
มการนอนหลั
บของทารกเกิ
ดก
อนกํ
าหนด
ค
าคะแนนเฉลี่
ยการจั
ดการของผู
ดู
แลในการส
งเสริ
มการนอนหลั
บของทารกเกิ
ดก
อนกํ
าหนดโดยรวมอยู
ใน
ระดั
บสู
ง เมื่
อพิ
จารณาข
อมู
ลส
วนบุ
คคลของผู
ดู
แลพบว
า ผู
ดู
แลส
วนใหญ
เป
นเพศหญิ
งและเป
นมารดาของทารก ซึ่
งใน
สั
งคมไทย ผู
ทํ
าหน
าที่
ในการดู
แลสมาชิ
กในครอบครั
วมั
กเป
นหน
าที่
ของผู
หญิ
ง (จั
นทนงค
, 2550) และส
วนใหญ
มี
อาชี
พ
เป
นแม
บ
าน ทํ
าให
สามารถดู
แลบุ
ตรได
อย
างเต็
มที่
มี
ระดั
บการศึ
กษาอยู
ในระดั
บมั
ธยมศึ
กษา และไม
มี
ประสบการณ
การ
ในการดู
แลทารก แต
มี
การจั
ดการเพื่
อส
งเสริ
มการนอนหลั
บอยู
ในระดั
บสู
ง ทั้
งนี้
อาจเนื่
องมาจากโดยทั่
วไปทุ
ก
โรงพยาบาลมี
นโยบายที่
จะต
องมี
การสอนหรื
อวางแผนจํ
าหน
ายทารกก
อนกลั
บบ
านอยู
แล
ว (วริ
ศรา, 2553) ดั
งนั้
นผู
ดู
แล
จึ
งอาจได
รั
บการสอนเกี่
ยวกั
บการดู
แลบุ
ตรเมื่
อกลั
บไปอยู
บ
าน นอกจากนี้
ลั
กษณะครอบครั
วส
วนใหญ
เป
นครอบครั
ว
ขยาย และมี
ญาติ
เป
นผู
ช
วยเหลื
อในการดู
แลทารก ซึ่
งครอบครั
วและญาติ
พี่
น
องเป
นแหล
งสนั
บสนุ
นทางสั
งคมที่
มี
ความสํ
าคั
ญ ทํ
าให
มี
โอกาสแลกเปลี่
ยนข
อมู
ลข
าวสารซึ่
งกั
นและกั
น (จั
นทนงค
, 2550) นอกจากนี้
สมาชิ
กในครอบครั
ว
หรื
อญาติ
อาจมี
ความรู
หรื
อประสบการณ
ในการดู
แลทารกมาก
อน จึ
งส
งผลในผู
ดู
แลมี
การจั
ดการเพื่
อส
งเสริ
มการนอน
หลั
บในระดั
บสู
ง ผู
ดู
แลส
วนใหญ
มี
รายได
5,001 ถึ
ง 10,000 บาท และไม
มี
ภาระหนี้
สิ
น แสดงให
เห็
นว
ามี
รายได
เพี
ยงพอ
จึ
งนํ
าไปสู
การจั
ดการที่
ดี
สอดคล
องกั
บการศึ
กษาของเพ็
ญแข (2545) พบว
า ผู
ดู
แลที่
มี
รายได
เพี
ยงพอและเหลื
อเก็
บมี
ค
าเฉลี่
ยคุ
ณภาพการดู
แลสู
งสุ
ด ลั
กษณะที่
ตั้
งของบ
านส
วนใหญ
อยู
ในชุ
มชนชนบท เป
นป
จจั
ยส
งเสริ
มทํ
าให
ผู
ดู
แลจั
ดการ
ส
งเสริ
มการนอนหลั
บของทารกอยู
ในระดั
บสู
ง นอกจากนี้
การที่
ผู
ดู
แลส
วนใหญ
ไม
มี
โรคประจํ
าตั
ว และมี
ญาติ
เป
นผู
ช
วยเหลื
อในการดู
แลทารกทํ
าให
ผู
ดู
แลมี
เวลาพั
กผ
อนนอนหลั
บได
เพี
ยงพอ ส
งผลให
มี
สุ
ขภาพกายและจิ
ตที่
ดี
การจั
ดการ
จึ
งอยู
ในระดั
บสู
ง
เมื่
อพิ
จารณารายด
านพบว
า ผู
ดู
แลมี
ค
าคะแนนเฉลี่
ยการจั
ดการต
อทารกอยู
ในระดั
บสู
ง เนื่
องจากผู
ดู
แลมี
วิ
ธี
การ
จั
ดการต
อทารกโดยส
วนใหญ
ทํ
าเป
นประจํ
าทุ
กครั้
งหรื
อเกื
อบทุ
กครั้
ง ยกเว
นเรื่
องการดู
แลแบบเนื้
อแนบเนื้
อที่
ผู
ดู
แลส
วน
ใหญ
ไม
เคยให
การดู
แลแบบเนื้
อแนบเนื้
อ ร
อยละ53 ทั้
งนี้
อาจเนื่
องมาจากการดู
แลแบบเนื้
อแนบเนื้
อในประเทศไทยนั้
น มี
การศึ
กษาในเรื่
องนี้
น
อยและส
วนใหญ
เป
นการศึ
กษากั
บทารกขณะที่
อยู
ในโรงพยาบาล จึ
งยั
งไม
เป
นที่
แพร
หลายนั
ก การที่
ประเทศไทยตั้
งอยู
ในเขตร
อน ผู
ดู
แลจึ
งไม
ค
อยให
การดู
แลแบบเนื้
อแนบเนื้
อ และจากวั
ฒนธรรมไทยที่
ผู
หญิ
งไทยนั้
นถู
ก
สอนให
มี
ความสุ
ภาพ ขี้
อาย ซึ่
งการดู
แลแบบเนื้
อแนบเนื้
อนั้
น ผู
ดู
แลต
องให
ทารกนอนบนอกเปลื
อย จึ
งทํ
าให
มี
การดู
แล