2
Î
µ
ปั
จจุ
บั
นผลิ
ตภั
ณฑ์
เครื่
องสํ
าอางทํ
าให้
ผิ
วขาวกํ
าลั
งได้
รั
บความนิ
ยมใช้
อย่
างแพร่
หลาย เนื่
องจากค่
านิ
ยมที่
ว่
าผิ
ว
สวย คื
อการมี
สี
ผิ
วค่
อนข้
างขาวหรื
อขาวอมชมพู
สารทํ
าให้
ผิ
วขาว (Whitening
agents) ได้
ถู
กนํ
าไปใช้
ในวงการ
เครื่
องสํ
าอาง ซึ
่
งส่
วนใหญ่
มี
ฤทธิ
์
ต้
านออกซิ
เดชั
น ช่
วยป้
องกั
นผิ
วหนั
งจากการทํ
าลายของสารอนุ
มู
ลอิ
สระ ป้
องกั
น
ผิ
วหนั
งจากการทํ
าลายของเอนไซม์
Collagenase และ Tyrosinase จึ
งส่
งผลให้
ลดการสร้
างเมลานิ
น (Melanin) ในผิ
วหนั
ง
ป้
องกั
นริ
้
วรอย (Anti-aging) ช่
วยให้
ผิ
วพรรณขาวสดใสขึ
้
นและกระตุ
้
นการสร้
าง Procollagen ที่
มี
ผลต่
อการสร้
างเนื
้
อเยื
่
อ
ผิ
วหนั
ง (Takashi
et al
. 2008 : 53–57) และนอกจากนี
้
ยั
งพบว่
าสารทํ
าให้
ผิ
วขาวส่
วนใหญ่
เป็
นกรดแอลฟาไฮดรอกซี
(Alpha hydroxy acids, AHA) ซึ
่
งเป็
นกรดอิ
นทรี
ย์
ที่
มี
ฤทธิ
์
ทํ
าให้
ผิ
วลอกเล็
กน้
อย กรดเหล่
านี
้
ส่
วนใหญ่
มาจากผลไม้
จึ
ง
เรี
ยก กรดผลไม้
นอกจากนั
้
นก็
ยั
งพบ AHA ในขิ
ง อ้
อย นม นํ
้
ามะเขื
อเทศ และเหล้
าไวน์
และยั
งสามารถผลิ
ต AHA ใน
ห้
องปฏิ
บั
ติ
การได้
ด้
วยด้
วย (ประวิ
ตร พิ
ศาลบุ
ตร. 2544 : 32)
กรดแอลฟาไฮดรอกซี
เป็
นสารที่
น่
าสนใจ เนื่
องจากมี
คุ
ณสมบั
ติ
ไปละลายเนื
้
อเยื่
อเกี่
ยวพั
นซึ
่
งยึ
ดอยู
่
ระหว่
าง
เซลล์
ที่
ตายแล้
วให้
ลอกออกอย่
างรวดเร็
วและสมํ
่
าเสมอ ทํ
าให้
รู
ขุ
มขนไม่
อุ
ดตั
นช่
วยในการขั
บนํ
้
าคั
ดหลั่
งของต่
อมเหงื่
อ
ลดรอยฝ้
าและจุ
ดด่
างดํ
า และยั
งกระตุ
้
นการสร้
างคอลลาเจนอี
กด้
วย การเร่
งหลุ
ดลอกของเซลล์
ที่
ผิ
วชั
้
นนอกออกได้
เร็
ว
ขึ
้
น ทํ
าให้
รอยแผลเป็
น ริ
้
วรอยเหี่
ยวย่
นต่
างๆ จะค่
อยๆลดน้
อยลงไปเรื่
อยๆ มองดู
ผิ
วมี
ความอ่
อนเยาว์
และขาวขึ
้
น จึ
งมี
หลายบริ
ษั
ทเครื่
องสํ
าอางที่
มี
การผสมกรดแอลฟาไฮดรอกซี
ในเครื่
องสํ
าอาง โดยเฉพาะเครื่
องสํ
าอางที่
เกี่
ยวกั
บใบหน้
า
ได้
แก่
โฟมล้
างหน้
า โลชั่
น ครี
มทามื
อ ครี
มทาหน้
าทั
้
งชนิ
ดทากลางวั
น กลางคื
นและอื่
นๆ กรดที่
นิ
ยมใช้
ในทาง
การแพทย์
และเภสั
ชกรรมได้
แก่
กรดมาลิ
ก กรดซิ
ตริ
ก กรดทาร์
ทาริ
ก กรดไกลโคลิ
ก และกรดแลกติ
ก
สาคู
เป็
นพื
ชจํ
าพวกปาล์
ม เมื่
อเล็
กลํ
าต้
นจะทอดขนานกั
บพื
้
นดิ
น ต่
อมาลํ
าต้
นจะตั
้
งตรง เมื่
อโตเต็
มที่
สู
งประมาณ
15 เมตร มี
เส้
นผ่
าศู
นย์
กลาง 45 – 60 เซนติ
เมตร เจริ
ญเติ
บโตได้
ดี
ในที่
ลุ
่
มมี
นํ
้
าขั
ง ป่
าพรุ
อากาศแบบร้
อนชื
้
น ฝนตกชุ
ก จึ
ง
เหมาะกั
บสภาพพื
้
นที่
ของภาคใต้
สาคู
มี
ทางชื่
อวิ
ทยาศาสตร์
ว่
า
Metroxylon sagus
Rottb. (ชนิ
ดยอดแดง) และ
Metroxylon
rumphii
Mart. (ชนิ
ดยอดขาว) (สุ
ธิ
วงศ์
พงศ์
ไพบู
ลย์
และสมบู
รณ์
ธนะสุ
ข. 2542: 7943) ยางสาคู
มี
สารที่
มี
ฤทธิ
์
ทํ
าให้
ผิ
ว
ขาว ซึ
่
งสมั
ยก่
อนมี
ชาวบ้
านนํ
ายางสาคู
มาพอกหน้
าเพื่
อรั
กษาสิ
วฝ้
าและทํ
าให้
หน้
าขาว
เถาคั
นเป็
นพื
ชท้
องถิ่
นในแทบภาคใต้
คนใต้
นํ
าผลดิ
บและใบอ่
อนซึ
่
งมี
รสเปรี
้
ยวใส่
แกงส้
มจะได้
รสชาติ
ที่
อร่
อย
ส่
วนผลสุ
กจะนํ
าไปหมั
กทํ
าไวน์
ให้
รสชาติ
ดี
มี
รสเปรี
้
ยวคล้
ายองุ
่
น ผลเถาคั
นมี
ลั
กษณะเป็
นผลกลม เล็
กกว่
ามะเขื
อพวง
เล็
กน้
อย ผลดิ
บมี
สี
เขี
ยว ผลสุ
กมี
สี
ดํ
า อยู
่
ในวงศ์
Myrcinaceae มี
ชื่
อทางวิ
ทยาศาสตร์
ว่
า
Embelia subcoriacea
Mez. ชื่
อ
อื่
นๆ ที่
ใช้
เรี
ยกกั
น ได้
แก่
ส้
มเค้
า (คลองหอยโข่
ง-สงขลา) ส้
มนํ
้
าออบ ส้
มอ๊
อบแอ๊
บ (นครศรี
ธรรมราช) ลู
กเถาคั
น (ใต้
)
เถาคั
นเป็
นพื
ชที่
พบขึ
้
นทั่
วไปบริ
เวณที่
ราบ ป่
าเบญจพรรณ ป่
าละเมาะ ที่
รกร้
างทั่
วไป ขยายพั
นธุ
์
โดยใช้
เมล็
ด (ดวงพร
สุ
วรรณกุ
ล และรั
งสิ
ต สุ
วรรณเขตนิ
คม. 2544 : 177)
ดั
งนั
้
นการศึ
กษาสารสกั
ดที่
มี
ฤทธิ
์
ต้
านออกซิ
เดชั
นและกรดแอลฟาไฮดรอกซี
หรื
อ เอเอชเอ (AHA) จากยางสาคู
และผลเถาคั
นที่
พบในพื
ชที่
มี
อยู
่
ทั่
วไปในท้
องถิ่
นภาคใต้
เพื่
อเป็
นข้
อมู
ลในการสนั
บสนุ
นการนํ
าสารสกั
ดไปเป็
น
ส่
วนผสมในเครื่
องสํ
าอาง จึ
งเป็
นงานวิ
จั
ยที่
น่
าสนใจ ซึ
่
งเป็
นการหาวั
ตถุ
ดิ
บใหม่
ๆ จากธรรมชาติ
เพื่
อที่
จะได้
นํ
าไปใช้
ใน
อุ
ตสาหกรรมเครื่
องสํ
าอางต่
อไป
ª·
¸
µ¦ª·
´
¥
งานวิ
จั
ยนี
้
ได้
ศึ
กษาการสกั
ดยางสาคู
และผลเถาคั
นและทดสอบฤทธิ
์
ต้
านออกซิ
เดชั
นและสารองค์
ประกอบ
ประเภทกรดอิ
นทรี
ย์
โดยมี
รายละเอี
ยดของการดํ
าเนิ
นงาน ดั
งต่
อไปนี
้
1352
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555