full2012.pdf - page 146

šœÎ
µ
ยางพารา (
Hevea brasiliensis
) เป็
นพื
ชเศรษฐกิ
จที่
สํ
าคั
ญยิ่
งของประเทศไทยและภู
มิ
ภาคอาเซี
ยน จากข้
อมู
ลวิ
ชาการ
ยางพารา 2553 รายงานว่
า นั
บตั
งแต่
ปี
พ.ศ.2444 ที่
ประเทศไทยเริ่
มมี
การปลู
กยางพาราเป็
นครั
งแรก และมี
การขยายพื
นที่
ปลู
อย่
างแพร่
หลาย ปั
จจุ
บั
นไทยเป็
นผู
นํ
าในการผลิ
ตและส่
งออกยางธรรมชาติ
มากที่
สุ
ดของโลกด้
วยปริ
มาณการผลิ
ต 3.16 ล้
าน
ตั
นต่
อปี
คิ
ดเป็
นร้
อยละ 32.91 ของปริ
มาณการผลิ
ตยางธรรมชาติ
ของโลก มี
พื
นที่
ปลู
กยางทั
งสิ
น 16.89 ล้
านไร่
โดยภาคใต้
มี
การปลู
กยางมากที่
สุ
ด รองลงมาคื
อภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ ภาคตะวั
นออกรวมภาคกลาง และภาคเหนื
อตามลํ
าดั
(สถาบั
นวิ
จั
ยยาง, 2553) ยางพาราเจริ
ญเติ
บโตได้
ดี
ที่
มี
ความชื
นอากาศค่
อนข้
างสู
งและมี
ฝนตกชุ
ก จึ
งทํ
าให้
เกษตรกรประสบ
ปั
ญหาจากเชื
อราต่
าง ๆ โดยเฉพาะเชื
อไฟท็
อปทอร่
า โดยจะเข้
าสู
ระบบท่
อลํ
าเลี
ยงภายในลํ
าต้
น ทํ
าให้
เกิ
ดโรคต่
างๆ และส่
งผล
ให้
ผลผลิ
ตลดลงหรื
ออาจทํ
าให้
ยางพาราตายได้
ไฟท็
อปทอร่
าสามารถทํ
าลายพื
ชมากกว่
า 138 ชนิ
ดรวมถึ
งพื
ชที่
สํ
าคั
ญทาง
เศรษฐกิ
จจํ
านวนมากด้
วยเช่
นกั
น (Chee, 1968 อ้
างอิ
งจากอรวรรณ บุ
ณยะแต่
ง, 2552) ตั
วอย่
างเช่
น โกโก้
กล้
วยไม้
ทุ
เรี
ยน
ยางพารา พริ
กไทย มั
นสํ
าปะหลั
ง มะเขื
อเทศและยาสู
ไคโตซาน เป็
นอนุ
พั
นธ์
ของไคติ
นที่
กํ
าจั
ดหมู
อะซิ
ทิ
ลออกจากหน่
วยย่
อยของ
N
-acetyl glucosamine เกิ
ดเป็
นพอลิ
เมอร์
ของ glucosamine ไคโตซานสกั
ดได้
จากไคติ
นที่
เป็
นโครงสร้
างของเปลื
อกกุ
ง กระดองปู
แกนปลาหมึ
กและผนั
งเซลล์
ของเห็
ดราบางชนิ
ด ไคโตซานเป็
นไบโอพอลิ
เมอร์
ธรรมชาติ
ชนิ
ดหนึ
งที่
มี
สมบั
ติ
พื
นฐาน คื
อ สามารถย่
อยสลายง่
าย ไม่
ก่
อให้
เกิ
ดอั
นตรายต่
อสิ่
งแวดล้
อม ทั
งนี
เนื่
องจากไคโตซานมี
หมู่
อะมิ
โนซึ
งแสดงสมบั
ติ
พิ
เศษหลายประการ เช่
น การจั
บกั
ไอออนของโลหะได้
ดี
และการมี
ฤทธิ
ทางชี
วภาพ สามารถนํ
ามาประยุ
กต์
ใช้
ในด้
านการเกษตร โดยนํ
ามาใช้
ในการยั
บยั
งเชื
อรา
บางชนิ
ดที่
เป็
นสาเหตุ
สํ
าคั
ญที่
ทํ
าให้
เกิ
ดโรคพื
ชและเป็
นตั
วกระตุ
นให้
พื
ชงอกราก เกิ
ดใบใหม่
กระตุ
นการเจริ
ญเติ
บโตของพื
หลาย ๆ ชนิ
ด เช่
น ข้
าว (Chandrkachang, 2002) กล้
วยไม้
รองเท้
านารี
ลู
กผสม
Paphiopedilum bellatulum
x PAPH.
Angthong (ชนั
สพร เกลี
ยงแก้
ว และคณะ, 2546) เนื่
องจากไคโตซานสามารถออกฤทธิ
เป็
นตั
วกระตุ
นระบบป้
องกั
นตั
วเองของ
พื
ช (Taiz and Zeiger, 2002) และกระตุ
นให้
พื
ชสร้
างภู
มิ
คุ
มกั
นตนเอง (Albersheim and Anderson, 1975) ทํ
าให้
พื
ชผลิ
เอนไซม์
และสารเคมี
เพื่
อป้
องกั
นตั
วเองหลายชนิ
ด เช่
น สร้
างสารโมเลกุ
ลขนาดเล็
ก พวกฟี
นอลิ
ก ไฟโตอเล็
กซิ
น (phytoalexin)
และสร้
าง pathogenesis related proteins (PR protein) ซึ
งประกอบด้
วยเอนไซม์
หลายชนิ
ดที่
สํ
าคั
ญ ๆ เช่
น เอนไซม์
E
-1,3-
glucanase, peroxidase, chitinase และ superoxide dismutase ส่
งผลให้
ช่
วยลดโอกาสที่
จะถู
กคุ
กคามจากศั
ตรู
พื
ชชนิ
ดต่
าง ๆ
ได้
อี
กทั
งยั
งเป็
นอี
กทางเลื
อกหนึ
งที่
ช่
วยลดการใช้
สารเคมี
ที่
เป็
นอั
นตรายในการกํ
าจั
ดศั
ตรู
พื
ชได้
อี
กด้
วย
โอลิ
โกไคโตซาน ซึ
งเป็
นอนุ
พั
นธ์
ของไคติ
นที่
มี
ขนาดโมเลกุ
ลเล็
กกว่
าไคโตซานมี
ผลในการยั
บยั
งการเจริ
ญของเชื
ไฟท็
อปทอร่
าได้
ดี
กว่
าไคโตซาน แต่
มี
การยั
บยั
งในบริ
เวณที่
ต่
างกั
น (Junguang
et al
., 2007) สารสร้
างปฏิ
ชี
วนะซึ
งสามารถ
ยั
บยั
งการเจริ
ญเติ
บโตของเชื
อโรคได้
เรี
ยกว่
า ไฟโตอเล็
กซิ
น โดยจะผลิ
ตโปรตี
นขึ
นมาทํ
าลายเชื
อโรค เรี
ยกว่
า พาโทเจเนซิ
รี
เลทเต็
ด โปรตี
น (PR-protein) ได้
แก่
เอนไซม์
ไคติ
เนส เอนไซม์
E
-1, 3-กลู
คาเนส โปรติ
เอสอิ
นฮิ
บิ
เตอร์
และเกิ
ดกระบวนการ
ลิ
กนิ
ฟิ
เคชั
น เพื่
อกั
กบริ
เวณเชื
อโรคไม่
ให้
ลุ
กลามต่
อไปยั
งเซลล์
ข้
างเคี
ยง (Guest and Brown, 1997 อ้
างอิ
งจากอรวรรณ บุ
ณยะ
แต่
ง, 2552)
เอนไซม์
peroxidase เป็
นเอนไซม์
ที่
ออกซิ
ไดซ์
สั
บสเตรทได้
ในสภาวะที่
มี
H
2
O
2
และสามารถใช้
สั
บสเตรทหลาย
ชนิ
ด เช่
น สารประกอบฟี
นอลิ
ก สารประกอบในกลุ่
มอะโรมาติ
กเอมี
นและสารประกอบอนิ
นทรี
ย์
เอนไซม์
peroxidase
สามารถพบได้
ในส่
วนต่
าง ๆ ของพื
ช เช่
น เมล็
ด ราก ลํ
าต้
น และใบ เป็
นต้
น พื
ชจะมี
การสร้
างเอนไซม์
peroxidase หลาย
146
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,136,137,138,139,140,141,142,143,144,145 147,148,149,150,151,152,153,154,155,156,...1917
Powered by FlippingBook