การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยทักษิณ 2559 - page 209

208
บทนา
จากการทบทวนวรรณกรรมพบว่
ามี
รายงานวิ
จั
ยที่
ได้
ศึ
กษา การศึ
กษาการนาความร้
อนทิ้
งจากแหล่
งต่
างๆเพื่
อมาเป็
แหล่
งพลั
งงานสาหรั
บระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
น ดั
งนี้
Koehler และคณะ [1] ได้
ออกแบบและสร้
างต้
นแบบระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นสาหรั
บรถบรรทุ
กโดยใช้
พลั
งงานความร้
อนจากท่
อไอเสี
ย จากการศึ
กษาของเขาพบว่
า ต้
นแบบการทาความเย็
นสาหรั
บรถบรรทุ
กมี
ค่
าสมรรถนะการทา
ความเย็
นประมาณ 27 % ในขณะที่
ผลจากการจาลองโดยคอมพิ
วเตอร์
มี
ค่
าเป็
นสองเท่
า และเขาได้
สรุ
ปเพิ่
มเติ
มว่
าระบบการทา
ความเย็
นแบบดู
ดกลื
นจากพลั
งงานความร้
อนจากไอเสี
ยเพื่
อใช้
สาหรั
บการปรั
บอากาศรถยนต์
มี
ความเหมาะสมที่
จะนามาใช้
สาหรั
บการขั
บขี่
ในระยะทางไกล และช่
วยในการประหยั
ดพลั
งงาน ต่
อมา Zhao และคณะ [2] ได้
ศึ
กษาระบบการทาความเย็
แบบผสมระหว่
างการทาความเย็
นแบบอั
ดไอและระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
น โดยใช้
กาลั
งของเครื่
องยนต์
การขั
คอมเพรสเซอร์
สาหรั
บการทาความเย็
นแบบอั
ดไอ ในขณะที่
ระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นได้
ใช้
พลั
งงานความร้
อนจากท่
ไอเสี
ย คณะผู้
วิ
จั
ยได้
สรุ
ปว่
าการใช้
ระบบการทาความเย็
นแบบผสมนี้
เป็
นระบบที่
ได้
ที่
สุ
ดและมี
ความเหมาะสมในการใช้
สาหรั
เครื่
องปรั
บอากาศในรถยนต์
จากนั้
น Jiangzhou และคณะ [3] ได้
นาเสนอการใช้
ระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นเพื่
อใช้
เป็
ระบบปรั
บอากาศสาหรั
บหั
วลากรถรางขนาดเท่
ากั
บ 5 kW โดยใช้
สารคู่
ผสมระหว่
างซี
โอไลท์
-น้
า เป็
นสารทางาน โดยใช้
พลั
งงาน
ความร้
อนจากท่
อไอเสี
ย คณะวิ
จั
ยได้
สรุ
ปว่
าระบบการทาความเย็
นแบบอั
ดไอสามารถทางานเพื่
อปรั
บอากาศสาหรั
บห้
องหั
วลาก
รถรางรางได้
โดยที่
อุ
ณหภู
มิ
ของอากาศอยู่
ที่
18 °C
Yaxiu และคณะ [4] ได้
ทาการศึ
กษาทดลองระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นโดยใช้
สารคู่
ผสมระหว่
างลิ
เธี
ยมโบร
ไมด์
-น้
าโดยใช้
แหล่
งพลั
งงานความร้
อนจากพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ให้
ความร้
อนกั
บตั
วให้
ความร้
อนชุ
ดที่
สอง (Second generator)
จากการศึ
กษาของเขาพบว่
าที่
อุ
ณหภู
มิ
ภายในตั
วให้
ความร้
อนเท่
ากั
บ 68 °C จะให้
ประสิ
ทธิ
ภาพในการทาความเย็
นเพิ่
มขึ้
48.5% ขณะที่
สมรรถนะของตั
วดู
ดกลื
นเพิ่
มข้
น 47% และเขายั
งพบอี
กว่
าความแตกต่
างของความดั
นระหว่
างอี
วาปอเรเตอร์
และ
คอนเดนเซอร์
เพิ่
มขึ้
น ส่
งผลทาให้
สมรรถนะโดยรวมของระบบเพิ่
มขึ้
Abdulateef และคณะ [5] ได้
ทาการศึ
กษาระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นโดยใช้
สารคู่
ผสมชนิ
ดใหม่
คื
แอมโมเนี
ย-ลิ
เธี
ยมไนเตรต (NH
3
-LiNO
3
) และแอมโมเนี
ย-โซเดี
ยมธิ
โอไซยาเนต (NH
3
-NaSCN) โดยใช้
แหล่
งพลั
งงานความร้
อน
จากแสงอาทิ
ตย์
เขาได้
พบว่
าสมรรถะการทางานของระบบการทาความเย็
นแบบดู
ดกลื
นโดยใช้
สารทางานแอมโมเนี
ย-ลิ
เธี
ยมไน
เตรต (NH
3
-LiNO
3
) และแอมโมเนี
ย-โซเดี
ยมธิ
โอไซยาเนต (NH
3
-NaSCN) สู
งกว่
าระบบการทาความเย็
นที่
ใช้
แอมโมเนี
ย-น้
(NH
3
-H
2
O) แต่
ระบบการทาความเย็
นที่
ใช้
แอมโมเนี
ย-โซเดี
ยมธิ
โอไซยาเนตไม่
สามารถทางานได้
ที่
อุ
ณหภู
มิ
ต่
ากว่
า -10 °C
เนื่
องจากการเกิ
ดปั
ญหาการเกิ
ดผลึ
Wu และ Schulden [6] นาเสนอการดั
ดแปลงวั
ฏจั
กรคาร์
โนต์
สาหรั
บเครื่
องจั
กรความร้
อนโดยใช้
แหล่
งความร้
อนทิ้
ซึ่
งมี
อุ
ณหภู
มิ
สู
ง เขาได้
ใช้
วิ
ธี
การเพิ่
มพื้
นที่
ผิ
วสั
มผั
สของชุ
ดแลกเปลี่
ยนความร้
อนเพื่
อต้
องการเพิ่
มสมรรถนะให้
กั
บเครื่
องจั
กรความ
ร้
อน เขาได้
ค้
นพบความสาพั
นธ์
ของอุ
ณหภู
มิ
ที่
ให้
กาลั
งสู
งสุ
ดและสามารถใช้
ความร้
อนทิ้
งกั
บระบบได้
Koehler และคณะ [7] ออกแบบและสร้
างระบบการทาความเย็
นชุ
ดต้
นแบบสาหรั
บรถบรรทุ
กโดยใช้
พลั
งงานความ
ร้
อนจากแก๊
สไอเสี
ย เขาได้
ทาการจาลองแบบการทางานของระบบโดยใช้
การจาลองด้
วยคอมพิ
วเตอร์
และทาการทวนสอบกั
บผล
ที่
ได้
กั
บการทดลองจริ
ง ความร้
อนจากแก๊
สไอเสี
ยเขาได้
ใช้
สถานะการณ์
การจราจรของการใช้
รถในเมื
อง การขั
บรถขึ้
นที่
ลาดชั
และกรณี
ใช้
ระในทางราบเรี
ยบ เครื่
องต้
นแบบของเขาได้
สั
มประสิ
ทธิ์
สมรรถนะประมาณ 27 % ในขณะที่
แบบจะลองให้
ค่
1...,199,200,201,202,203,204,205,206,207,208 210,211,212,213,214,215,216,217,218,219,...300
Powered by FlippingBook