3. สภาวะที่
เหมาะสมของกระบวนการไฟฟ
าเคมี
ในการบํ
าบั
ดน้ํ
าเสี
ยเบื้
องต
นของโรงงานสกั
ด
น้ํ
ามั
นปาล
ม
ผลการทดลองการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบอนุ
กรม ที่
เวลาในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยา 60 นาที
พลั
งงานไฟฟ
า 16
วั
ตต
พบว
า จํ
านวนอิ
เล็
กโตรด 6 แผ
น มี
%Removal COD, TSS และ Color เท
ากั
บ 28, 82.78 และ 54.46 %
ตามลํ
าดั
บ (รู
ปที่
5 a -c) และจํ
านวนอิ
เล็
กโตรด 8 แผ
น มี
%Removal COD, TSS และ Color เท
ากั
บ
34.15, 86.44
และ 55.02 % ตามลํ
าดั
บ (รู
ปที่
5 d -f) ซึ่
งเมื่
อเปรี
ยบเที
ยบ %Removal ในกรณี
ที่
จํ
านวนอิ
เล็
กโตรดและระยะห
างระ
หว
างแผ
นอิ
เล็
กโตรดแตกต
างกั
น พบว
า %Removal สํ
าหรั
บจํ
านวนอิ
เล็
กโตรด 8 แผ
น ระยะห
างระหว
างแผ
น 2.5
เซนติ
เมตร สู
งกว
าจํ
านวนอิ
เล็
กโตรด 6 แผ
น ระยะห
างระหว
างแผ
น 3.0 เซนติ
เมตร ทั้
งนี้
อาจมี
สาเหตุ
เนื่
องจากการ
ถ
ายและรั
บอิ
เล็
กตรอนขึ้
นอยู
กั
บพื้
นที่
สั
มผั
สของขั้
วไฟฟ
า หากมี
พื้
นที่
สั
มผั
สหรื
อทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยามากทํ
าให
จํ
านวนประจุ
อิ
ออนมี
มากขึ้
น
(Kongsricharoern, 1994)
ซึ่
งสามารถลดค
า pollutants โดยกลไกการดู
ดซั
บและการตกตะกอนได
ดี
กว
า ประกอบกั
บระยะห
างระหว
างแผ
นอิ
เล็
กโตรดที่
น
อยกว
า อิ
ออนสามารถเคลื่
อนที่
เพื่
อทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยากั
บสารอิ
นทรี
ย
ได
เร็
วกว
าการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดที่
มี
ระยะห
างระหว
างแผ
นอิ
เล็
กโตรดมาก สอดคล
องกั
บผลการทดลองการกํ
าจั
ดสาร-
อิ
นทรี
ย
และสี
จากน้ํ
ากากส
า พบว
า การกํ
าจั
ดสี
และสารอิ
นทรี
ย
เพิ่
มขึ้
น เมื่
อลดระยะห
างระหว
างแผ
นอิ
เล็
กโตรดและ
เพิ
่
มพลั
งงานไฟฟ
าที่
ให
แก
ระบบ
(
กั
ณฑมาศ สุ
ทธิ
เรื
องวงศ
, 2539)
ค
าการย
อยสลายทางชี
วภาพ สามารถอธิ
บายได
จากความสั
มพั
นธ
ระหว
างค
า BOD
5
/COD โดยทั่
วไปสํ
าหรั
บ
การบํ
าบั
ดน้ํ
าเสี
ยทางชี
วภาพ ค
า BOD
5
/COD ไม
ควรน
อยกว
า 0.5 (Khoufi
et al
., 2006) จากการศึ
กษาพบว
าหลั
งจาก
น้ํ
าเสี
ยผ
านระบบไฟฟ
าเคมี
ที่
สภาวะต
าง ๆ แล
วพบว
า
-
ค
า COD ลดลง 18.75% ส
วนค
า BOD
5
เพิ่
มขึ้
นจาก 13,968 mg/l เป
น 15,499 mg/l (รู
ปที่
6 a) ทํ
าให
ค
า
BOD
5
/COD เพิ่
มขึ้
นจาก 0.58 เป
น 0.79 สํ
าหรั
บการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบอนุ
กรม จํ
านวน 6 แผ
น ที่
เวลาในการทํ
า
ปฏิ
กิ
ริ
ยา 60 นาที
พลั
งงานไฟฟ
า 10 วั
ตต
-
ค
า COD ลดลง 27% ค
า BOD
5
เพิ่
มขึ้
นจาก 12,126 mg/l เป
น 13,652 mg/l (รู
ปที่
6 b) ทํ
าให
ค
า
BOD
5
/COD เพิ่
มขึ้
นจาก 0.41 เป
น 0.63 สํ
าหรั
บการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบอนุ
กรม จํ
านวน 8 แผ
น ที่
เวลาในการทํ
า
ปฏิ
กิ
ริ
ยา 30 นาที
พลั
งงานไฟฟ
า 10 วั
ตต
และ
-
ค
า COD ลดลง 32.35% ค
า BOD
5
เพิ่
มขึ้
นจาก 16,459 mg/l เป
น 17,207 mg/l (รู
ปที่
6 c) ทํ
าให
ค
า
BOD
5
/COD เพิ่
มขึ้
นจาก 0.60 เป
น 0.93 สํ
าหรั
บการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบขนานจํ
านวน 8 แผ
น ที่
เวลาในการทํ
า
ปฏิ
กิ
ริ
ยา 60 นาที
พลั
งงานไฟฟ
า 10 วั
ตต
สรุ
ปผลการวิ
จั
ย
จากการทดลองศึ
กษาประสิ
ทธิ
ภาพ และ optimum conditions ของกระบวนการไฟฟ
าเคมี
ในการบํ
าบั
ด
น้ํ
าเสี
ยเบื้
องต
นของโรงงานสกั
ดน้ํ
ามั
นปาล
ม พบว
า ประสิ
ทธิ
ภาพการบํ
าบั
ดน้ํ
าเสี
ยในเทอมของ COD, TSS และ
Color ขึ้
นอยู
กั
บระยะเวลาในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยา และค
าพลั
งงานไฟฟ
าที่
ให
แก
ระบบ โดยประสิ
ทธิ
ภาพการบํ
าบั
ดสู
งขึ้
น
เมื่
อระยะเวลาในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยาและค
าพลั
งงานไฟฟ
าที่
ให
แก
ระบบมากขึ้
น นอกจากนี้
ระยะห
างระหว
างแผ
นอิ
เล็
ก
โตรดและพื้
นที่
สั
มผั
สในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยาก็
มี
ผลต
อประสิ
ทธิ
ภาพการบํ
าบั
ดน้ํ
าเสี
ยกล
าวคื
อ %Removal ของ COD,
TSS และ Color เพิ่
มขึ้
นเมื่
อระยะห
างระหว
างแผ
นอิ
เล็
กโตรดลดลง และพื้
นที่
สั
มผั
สในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยาเพิ่
มขึ้
น
จากการศึ
กษาพบว
าการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบขนานมี
ประสิ
ทธิ
ภาพในการเพิ่
มค
าการย
อยสลายทางชี
วภาพหรื
อ
ค
า BOD
5
/COD ratio ได
มากกว
าการจั
ดเรี
ยงอิ
เล็
กโตรดแบบอนุ
กรมที่
สภาวะเดี
ยวกั
น