2
บทนํ
า
เนืÉ
องจากบนพื
Ê
นทีÉ
สู
งในภาคเหนื
อของประเทศไทย ครู
และนั
กเรี
ยนประสบปั
ญหาอากาศหนาวเย็
น และนํ
Ê
าใช้
อาบเย็
นมากทํ
าให้
นั
กเรี
ยนไม่
นิ
ยมอาบนํ
Ê
า หากต้
องการอาบนํ
Ê
าต้
องนํ
านํ
Ê
ามาต้
มซึ
É
งถื
อว่
าเป็
นวิ
ธี
การทีÉ
ยุ่
งยากสํ
าหรั
บคนบน
พื
Ê
นทีÉ
สู
ง เนืÉ
องจากต้
องจั
ดเตรี
ยมไม้
ฟื
นเพิÉ
มเติ
มจากการเตรี
ยมเพืÉ
อหุ
งหาอาหาร ดั
งนั
Ê
นการหยิ
บยกประเด็
นการทํ
านํ
Ê
าร้
อน
ด้
วยพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
เพืÉ
อเป็
นพลั
งงานทดแทนไม้
ฟื
นจึ
งเป็
นเรืÉ
องทีÉ
น่
าสนใจ ประเทศไทยตั
Ê
งอยู
่
เขตศู
นย์
สู
ตรซึ
É
งมี
ศั
กยภาพด้
านพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ตกกระทบเป็
นจํ
านวนมาก มี
ค่
าเฉลีÉ
ยรั
งสี
อาทิ
ตย์
ประมาณ 18.2 MJ/m
2
-day (เผชิ
ญ
จั
นทร์
สา, 2549) สํ
าหรั
บเทคโนโลยี
การทํ
านํ
Ê
าร้
อนด้
วยพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ในประเทศไทยนั
Ê
นมี
พั
ฒนาการมายาวนานกว่
า
20 ปี
มี
รายงานการศึ
กษาเกีÉ
ยวกั
บสมรรถนะของเครืÉ
องทํ
านํ
Ê
าร้
อนพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
แบบต่
างๆ ตลอดทั
Ê
งปี
ดั
งนั
Ê
นเครืÉ
อง
ทํ
านํ
Ê
าร้
อนพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
จึ
งเป็
นอี
กทางเลื
อกหนึ
É
งทีÉ
เหมาะสมในการผลิ
ตนํ
Ê
าร้
อนสํ
าหรั
บใช้
งานในครั
วเรื
อน
สํ
าหรั
บเครืÉ
องทํ
านํ
Ê
าร้
อนพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
ส่
วนใหญ่
มี
การแบ่
งแยกตามการไหลเวี
ยนของนํ
Ê
าในระบบทีÉ
แตกต่
างกั
น 2 แบบ (อโศก ศรี
ทองธรรม, 2551) คื
อ การหมุ
นเวี
ยนของนํ
Ê
าตามธรรมชาติ
(Natural circulation) หรื
อ
Passive System บางทีÉ
เรี
ยกว่
า Thermosyphon และ แบบการหมุ
นเวี
ยนของนํ
Ê
าโดยใช้
พลั
งงานจากภายนอก (Forced
circulation) หรื
อ Active System เช่
น การใช้
ปัË
มเพืÉ
อช่
วยในการหมุ
นเวี
ยนของนํ
Ê
าในระบบ เป็
นต้
น เครืÉ
องทํ
านํ
Ê
าร้
อน
พลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
เป็
นอุ
ปกรณ์
ทีÉ
ไม่
ยุ่
งยากซั
บซ้
อน สามารถผลิ
ตใช้
งานตามทีÉ
พั
กอาศั
ยทั
É
วไปได้
ดั
งนั
Ê
นการค้
นคว้
าวิ
จั
ย
เพืÉ
อพั
ฒนาประสิ
ทธิ
ภาพของเครืÉ
องจึ
งเป็
นทีÉ
น่
าสนใจ และนอกจากนี
Ê
ยั
งช่
วยสนั
บสนุ
นนโยบายแผนพลั
งงานหมุ
นเวี
ยน
ของประเทศอี
กทางหนึ
É
งด้
วย ในปั
จจุ
บั
นเครืÉ
องทํ
านํ
Ê
าร้
อนพลั
งงานแสงอาทิ
ตย์
แพร่
หลายในภาคส่
วนของอุ
ตสาหกรรม
โรงแรม โรงพยาบาล แต่
สํ
าหรั
บทีÉ
พั
กอาศั
ยยั
งไม่
แพร่
หลายมากนั
ก เนืÉ
องจากต้
นทุ
นการผลิ
ตของแผงรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
ทีÉ
มี
ราคาสู
งและอุ
ปกรณ์
บางส่
วนยั
งต้
องนํ
าเข้
าจากต่
างประเทศ
ดั
งนั
Ê
นจึ
งมี
การศึ
กษาการลดต้
นทุ
นตั
วรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
(Julio Roberto, 2008)โดยนํ
าวั
สดุ
UPVC ใช้
ผลิ
ตแผงรั
บ
รั
งสี
อาทิ
ตย์
นํ
ามาเปรี
ยบเที
ยบกั
บวั
สดุ
ทองแดงผลิ
ตแผงรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
โดยมี
การเปรี
ยบเที
ยบต้
นทุ
นการผลิ
ตและ
ประสิ
ทธิ
ภาพ พบว่
า UPVC ซึ
É
งมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ 67% และวั
สดุ
ทองแดงมี
ประสิ
ทธิ
ภาพ 74% ซึ
É
งกล่
าวได้
ว่
าวั
สดุ
ทั
Ê
งสอง
ชนิ
ดมี
ประสิ
ทธิ
ภาพใกล้
เคี
ยงกั
นแต่
ราคา UPVC ตํ
É
ากว่
า อย่
างไรก็
ตามในพื
Ê
นทีÉ
ห่
างไกลหรื
อบนพื
Ê
นทีÉ
สู
ง วั
สดุ
UPVC ก็
ยั
ง
ถื
อว่
ามี
ราคาสู
งและหาได้
ยาก ดั
งนั
Ê
นบนพื
Ê
นทีÉ
สู
ง เพืÉ
อให้
เกิ
ดการใช้
งานจริ
งและสามารถขยายผลได้
การผลิ
ตแผงรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
จึ
งควรหาวั
สดุ
ทีÉ
มี
ราคาถู
กและสามารถหาได้
โดยทัÉ
วไป แนวทางการดํ
าเนิ
นงานจึ
งตั
Ê
งสมมุ
ติ
ฐานว่
า ควรนํ
าวั
สดุ
ทีÉ
ทํ
าจากพลาสติ
กทีÉ
ใช้
อยู
่
ในงานเกษตรกรรม มี
ราคาถู
กและหาได้
ง่
ายตามท้
องตลาดมาเป็
นวั
สดุ
ในการผลิ
ตแผงรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
เมืÉ
อพิ
จารณาคุ
ณสมบั
ติ
ทางกลและคุ
ณสมบั
ติ
ทางกายภาพของท่
อทางการเกษตรทีÉ
ใช้
กั
นอยู
่
ทัÉ
วไป จึ
งทดลองนํ
าท่
อ
PE (Polyethylene pipe) มาเป็
นวั
สดุ
ทีÉ
ใช้
ทํ
าแผงรั
บรั
งสี
อาทิ
ตย์
เนืÉ
องจากท่
อ PE มี
คุ
ณสมบั
ติ
(บริ
ษั
ท เอสซี
จี
เคมิ
คอล
จํ
ากั
ด, 2550) คื
อ มี
อายุ
การใช้
งานประมาณ 50 ปี
ยื
ดหยุ่
นทนต่
อแรงกระแทกได้
ดี
(ค่
า Flexural modulas 120,000 psi –
1,200 Mpa) โดยทัÉ
วไปใช้
งานทีÉ
อุ
ณหภู
มิ
-18°C - 60°C ขึ
Ê
นอยู
่
กั
บระยะเวลาและแรงทีÉ
มากระทํ
า และเมืÉ
อไม่
มี
แรงดั
น PE
สามารถใช้
งานทีÉ
อุ
ณหภู
มิ
80°C การนํ
า PE มาใช้
งานอุ
ณหภู
มิ
ทีÉ
สู
งควรลดแรงดั
นลง