เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 600

2
1. บทนา
พลั
งงานลมเป็
นพลั
งงานทางเลื
อกชนิ
ดหนึ
งที่
มี
ศั
กยภาพค่
อนข้
างสู
งในประเทศไทย และได้
มี
การศึ
กษาเพื่
อหา
พื
นที่
ที่
เหมาะสมทั
งด้
านศั
กยภาพพลั
งงาน ความเหมาะสมของสภาพพื
นที่
รวมถึ
งความคุ
มค่
าในการลงทุ
น ทั
งนี
พบว่
พื
นที่
ที่
มี
ความเหมาะสมจะอยู่
ในบริ
เวณชายฝั่
งอ่
าวไทยและฝั่
งอั
นดามั
นทางภาคใต้
ของประเทศไทย รวมถึ
งในพื
นที่
สู
และหุ
บเขาของภาคเหนื
อของประเทศไทย โดยพบว่
าในเขตชายฝั่
งทะเลจั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช มี
ศั
กยภาพในการผลิ
ไฟฟ้
าจากพลั
งงานลมอยู่
ในช่
วง 4.5 – 86 GWh/year มี
ต้
นทุ
นในการผลิ
ตไฟฟ้
าเท่
ากั
บ 1 – 11 Bath/kWh [1] และในพื
นที่
ฝั่
งอั
นดามั
นพบว่
ามี
ต้
นทุ
นในการผลิ
ตไฟฟ้
าจากพลั
งงานลมเท่
ากั
บ 1.33 - 4.22 Bath/kWh [2] ส่
วนในพื
นที่
ภาคเหนื
เช่
น จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
มี
ค่
าพลั
งงานลมเฉลี่
ยเท่
ากั
บ 128.95 W/m
2
[3]
รู
ปที่
1 กั
งหั
นลมผลิ
ตไฟฟ้
า ณ อ่
างพั
กน
าตอนบนโรงไฟฟ้
าลาตะคองชลภาวั
ฒนา [4]
การใช้
ประโยชน์
จากพลั
งงานในรู
ปของพลั
งงานไฟฟ้
าของประเทศไทย เริ่
มโดย
การไฟฟ้
าฝ่
ายผลิ
ตแห่
ประเทศไทย ณ แหลมพรหมเทพ
จั
งหวั
ดภู
เก็
ในปี
พ.ศ.
2526 ซึ
งเป็
นบริ
เวณที่
มี
ความเร็
วลมเฉลี่
ยตลอดปี
ประมาณ 5
m/s โดยใช้
ชื่
อว่
าสถานี
พลั
งงานทดแทนพรหมเทพ โดยตั
งอยู่
ทางทิ
ศเหนื
อของแหลมพรหมเทพ ประมาณ 1 km โดยมี
การพั
ฒนาอย่
างต่
อเนื่
อง ซึ
งในปั
จจุ
บั
นสามารถผลิ
ตไฟฟ้
าเข้
าสู่
ระบบสายส่
งไฟฟ้
าได้
รวมทั
งสิ
170 kW
[4] ส่
วนกั
งหั
ลมที่
มี
กาลั
งการผลิ
ตสู
งที่
สุ
ดของประเทศไทย คื
อกั
งหั
นลมที่
ติ
ดตั
ง ณ อ่
างพั
กน
าตอนบนโรงไฟฟ้
า ลาตะคองชลภาวั
ฒนา
ตาบลคลองไผ่
อาเภอสี
คิ
ว จั
งหวั
ดนครราชสี
มา โดยมี
กาลั
งการผลิ
ตรวม 2,500 กิ
โลวั
ตต์
ดั
งแสดงในรู
ปที่
1 [4]
เกื
อบ 100% ของกั
งหั
นลมที่
ใช้
ในการผลิ
ตไฟฟ้
าในประเทศไทยเป็
นกั
งหั
นลมที่
ต้
องนาเข้
ามาจากต่
างประเทศ
ซึ
งโดยทั่
วไปกั
งหั
นลมสามารถแบ่
งตามลั
กษณะของแกนได้
2 ชนิ
ด คื
อ กั
งหั
นลมแบบแกนนอน (Horizontal Axis Wind
Turbine) และแบบแกนตั
ง (Vertical Axis Wind Turbine) สาหรั
บการพั
ฒนากั
งหั
นลมในประเทศ ที่
เป็
นการออกแบบ
สร้
าง และพั
ฒนาได้
มี
การดาเนิ
นงานภายในประเทศอย่
างต่
อเนื่
องนั
นพบว่
ายั
งมี
ปริ
มาณน้
อย ซึ
งพบว่
าในปี
2520 [5] ได้
มี
การทดสอบกั
งหั
นแกนตั
งแบบ Savonious แบบ Hybrid และแบบ Savonious ดั
ดแปลง โดยพบว่
าแบบ Savonious เป็
กั
งหั
นลมที่
สร้
างง่
าย มี
ประสิ
ทธิ
ภาพสู
ง แต่
ไม่
สามารถควบคุ
มความเร็
วรอบได้
ส่
วนแบบ Savonious ดั
ดแปลงสามารถ
ควบคุ
มความเร็
วรอบได้
แต่
มี
ความยุ่
งยากในการสร้
าง ในปี
2525 ได้
มี
การออกแบบ สร้
าง พั
ฒนากั
งหั
นลมสาหรั
บผลิ
ไฟฟ้
าขนาดเล็
ก โดยมหาวิ
ทยาลั
ยสงขลานคริ
นทร์
[6] ซึ
งมี
ทั
งกั
งหั
นแบบแกนตั
งและกั
งหั
นแบบแกนนอน โดยพบว่
กั
งหั
นสามารถทางานได้
เหมาะสาหรั
บการใช้
งานที่
ความเร็
วลมค่
อนข้
างสู
ง และสามารถใช้
งานในการผลิ
ตไฟฟ้
าได้
การศึ
กษาปั
จจั
ยต่
างๆ ของกั
งหั
นลมต่
อประสิ
ทธิ
ภาพการทางานนั
นมี
ความสาคั
ญในการพั
ฒนากั
งหั
นลมของ
ประเทศไทย ดั
งนั
นงานวิ
จั
ยนี
จึ
งมี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อทาการศึ
กษาอิ
ทธิ
พลของตาแหน่
งหนาสุ
ดของส่
วนโค้
งของใบพั
1...,590,591,592,593,594,595,596,597,598,599 601,602,603,604,605,606,607,608,609,610,...1102
Powered by FlippingBook