จากผลการวิ
จั
ยที่
พบนี้
เป
นข
อมู
ลพื้
นฐานที่
ผู
วิ
จั
ยให
ความสํ
าคั
ญเพื่
อนํ
าไปพั
ฒนาผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยนไปพร
อม
กั
บการสร
างเสริ
มคุ
ณค
าในตนเองในการจั
ดการเรี
ยนการสอน เพื่
อพั
ฒนาผู
เรี
ยนทั้
งด
านสติ
ป
ญญาและคุ
ณลั
กษณะอั
นพึ
ง
ประสงค
ซึ่
งการพั
ฒนาคนให
เป
นผู
ที่
มี
ความรู
สึ
กนึ
กคิ
ดทางบวกต
อตนเองมาจากป
จจั
ยหรื
อผลของความรั
ก การสั
มผั
สที่
อบอุ
น อั
นเป
นพื้
นฐานการพั
ฒนาตนเองให
รู
จั
กตนเอง(Self awareness) เห็
นคุ
ณค
าในตนเอง
(
Self-esteem)
และการมี
อั
ต
มโนทั
ศน
(Self concept) การเรี
ยนรู
ตนเองขึ้
นอยู
กั
บกระบวนการในการกระตุ
น การมี
สั
มพั
นธภาพกั
บบุ
คคลที่
มี
ต
อผู
เรี
ยน
และการเสริ
มแรงที่
เหมาะสม
เช
น การเสริ
มแรงด
วยคํ
าชมเชย การยิ้
ม การสั
มผั
ส จะพั
ฒนาผู
เรี
ยนให
สามารถสร
าง
สั
มพั
นธภาพกั
บบุ
คคลอื่
นได
โดยผู
เรี
ยนเห็
นคุ
ณค
าตนเองและผู
อื่
น มี
ความรู
สึ
ก(Sympathy)
เข
าใจ เห็
นใจ เป
นบุ
คคลที่
ไม
เห็
นแก
ตั
ว มี
ศี
ลธรรมรวมถึ
งความซื่
อสั
ตย
(
เฉลิ
มพล สวั
สดิ์
พงษ
. 2551 อ
างอิ
งจาก วิ
ชั
ย วงษ
ใหญ
. 2543 : 85)
ผู
สอนซึ่
งมี
บทบาทในการจั
ดการเรี
ยนการสอนจึ
งควรมี
ความรู
ความเข
าใจในกระบวนการเรี
ยนการสอน และ
ตระหนั
กว
าการสร
างเสริ
มการเห็
นคุ
ณค
าในตนเองถื
อเป
นส
วนหนึ่
งของกิ
จกรรมการเรี
ยนการสอนที่
ควรทํ
าควบคู
ไปกั
บ
การสอนสาระการเรี
ยนรู
ต
างๆ ในชั้
นเรี
ยนปกติ
ทั้
งนี้
การเห็
นคุ
ณค
าในตนเองมี
ความสั
มพั
นธ
เชิ
งบวกกั
บการพั
ฒนา
คุ
ณลั
กษณะอั
นพึ
งประสงค
อื่
นๆ ในตั
วผู
เรี
ยน รวมทั้
งผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยน ส
งผลให
ผู
เรี
ยนได
เรี
ยนรู
อย
างมี
ความสุ
ข
ซึ่
งจะสอดคล
องตามพระราชบั
ญญั
ติ
การศึ
กษาแห
งชาติ
ด
วยประการหนึ่
ง ซึ่
งการเห็
นคุ
ณค
าในตนเองในด
านครอบครั
วมี
คะแนนสู
งสุ
ด ผู
สอนจึ
งควรให
ครอบครั
วได
มี
กิ
จกรรมและมี
ส
วนร
วมในการกระตุ
นการเรี
ยนรู
ของผู
เรี
ยน โดยการจั
ด
กิ
จกรรมที่
ครอบครั
วสามารถเข
ามามี
ส
วนร
วมกั
บสถานศึ
กษาเป
นระยะ และจะเป
นการกระตุ
นผู
เรี
ยนให
เห็
นคุ
ณค
าของ
ตนเองในด
านสั
งคมมากขึ้
นด
วย ส
วนในด
านการเห็
นคุ
ณค
าในตนเองด
านการศึ
กษาการกระตุ
นและเสริ
มแรงให
ผู
เรี
ยนได
มี
กิ
จกรรมต
างๆ ร
วมไปกั
บการเรี
ยนในชั้
นเรี
ยนจะทํ
าให
ผู
เรี
ยนเกิ
ดความภาคภู
มิ
ใจในผลงานกิ
จกรรมนั้
นๆ เป
นการ
ส
งเสริ
มให
ผู
เรี
ยนมองเห็
นคุ
ณค
าในตนเองเพิ่
มขึ้
นได
ในด
านการเห็
นคุ
ณค
าตนเองในด
านภาพลั
กษณ
ที่
มี
คะแนนรายด
าน
น
อยที่
สุ
ดผู
สอนสามารถส
งเสริ
มให
ผู
เรี
ยนเห็
นคุ
ณค
าในตนเองเพิ่
มขึ้
นได
ข
อเสนอแนะ
การให
ความสํ
าคั
ญกั
บการศึ
กษาลั
กษณะผู
เรี
ยนเป
นสิ่
งที่
ผู
สอนต
องดํ
าเนิ
นการอย
างต
อเนื่
อง จากงานวิ
จั
ยนี้
เป
น
เพี
ยงแนวทางหนึ่
งที่
ผู
สนใจสามารถนํ
าผลการวิ
จั
ยไปประยุ
กต
ใช
ในรู
ปแบบต
างๆ ที่
หลากหลาย ได
แก
การศึ
กษา
ความสั
มพั
นธ
ของตั
วแปร การศึ
กษาความสั
มพั
นธ
ของการเห็
นคุ
ณค
าในตนเองกั
บผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยน รวมทั้
งการ
ดํ
าเนิ
นการในลั
กษณะของการพั
ฒนาหลั
กสู
ตรรายวิ
ชาต
างๆ ที่
ส
งเสริ
มการเห็
นคุ
ณค
าในตนเอง โดยอาจจะดํ
าเนิ
นการใน
ลั
กษณะวิ
ชาเดี
ยว หรื
อการบู
รณาการ
กิ
ตติ
กรรมประกาศ
ผู
วิ
จั
ยขอขอบคุ
ณ ดร.ทั
กษิ
ณา เครื
อหงษ
และคุ
ณบั
วทอง ธนาอั
ศวเดช ผู
ให
คํ
าปรึ
กษาทางการวิ
จั
ยและวิ
เคราะห
ข
อมู
ล
เอกสารอ
างอิ
ง
เฉลิ
มพล สวั
สดิ์
พงษ
.
(2547). รายงานการศึ
กษา การวิ
เคราะห
อภิ
มานงานวิ
จั
ยที่
เกี่
ยวกั
บรู
ปแบบการสอนเพื่
อพั
ฒนาการ
เห็
นคุ
ณค
าในตนเองของนั
กเรี
ยน.
ทั
กษิ
ณา เครื
อหงษ
.
(2551). การเห็
นคุ
ณค
าในตนเองและผลสั
มฤทธิ์
ทางการเรี
ยนวิ
ชาคณิ
ตศาสตร
ที่
คาดหวั
งของ
นั
กศึ
กษา มหาวิ
ท ยาลั
ยเทคโนโลยี
ราชมงคลสุ
วรรณภู
มิ
.