Î
µ
การปรั
บปรุ
งสมบั
ติ
เชิ
งผิ
วของวั
สดุ
โดยการเคลื
อบด้
วยสารที่
มี
สมบั
ติ
เหมาะสมในลั
กษณะฟิ
ล์
มบางกํ
าลั
งได้
รั
บ
ความสนใจจากกลุ
่
มวิ
จั
ยทั่
วโลก ทั
้
งนี
้
ฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ก็
เป็
นฟิ
ล์
มอี
กชนิ
ดหนึ
่
งที่
ได้
รั
บความสนใจอย่
างมาก
เนื่
องจากฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
มี
สมบั
ติ
น่
าสนใจหลายประการ เช่
น มี
ค่
าการส่
งผ่
านแสงสู
งในช่
วงที่
ตามองเห็
น
ทนการกั
ดกร่
อนของสารเคมี
และการขั
ดสี
ได้
ดี
(Ritter, 1975; Pulker, 1984) มี
ค่
าดั
ชนี
หั
กเหสู
ง (n = 2.5 สํ
าหรั
บอนาเทส
และ n = 2.7 สํ
าหรั
บรู
ไทล์
) มี
แถบพลั
งงานกว้
าง (3.18 eV สํ
าหรั
บอนาเทส และ 3.03 eV สํ
าหรั
บรู
ไทล์
) (Li
et al
., 2000)
ทํ
าให้
มี
การนํ
าไปใช้
ในหลายด้
าน เช่
น การเคลื
อบแสง (optical coating) การเคลื
อบเพื่
อปกป้
องผิ
ว (protective coating)
การเคลื
อบให้
มี
สมบั
ติ
ทํ
าความสะอาดตั
วเอง (self cleaning coating) (Yamakishi
et al
., 2003) ที่
สํ
าคั
ญฟิ
ล์
มบาง
ไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ยั
งมี
ความสามารถเป็
นตั
วเร่
งปฏิ
กิ
ริ
ยาเชิ
งแสง (photocatalysis) (Babelo
n et al.
, 1998) ทํ
าให้
เริ่
ม
มี
การนํ
าไปประยุ
กต์
ใช้
เป็
นชั
้
นเคลื
อบที่
มี
สมบั
ติ
ในการฆ่
าหรื
อยั
งยั
้
งการเติ
บโตของเชื
้
อแบคที
เรี
ย
ไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ที่
พบในธรรมชาติ
มี
3 เฟส คื
อ อนาเทส (anatase) รู
ไทล์
(rutile) และ บรู
ไกท์
(brookite)
โครงสร้
างของไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
แต่
ละเฟสมี
สมบั
ติ
และการใช้
งานที่
แตกต่
างกั
น โดยเฟสอนาเทสนิ
ยมใช้
เป็
นตั
วเร่
ง
ปฏิ
กิ
ริ
ยาเชิ
งแสง ส่
วนเฟสรู
ไทล์
เหมาะสํ
าหรั
บงานด้
านทั
ศนศาสตร์
และใช้
เป็
นชั
้
นเคลื
อบปกป้
อง ทั
้
งนี
้
ปกติ
แล้
วไม่
พบ
เฟสบรู
ไกท์
แต่
พบเพี
ยงโครงสร้
างผลึ
กแบบอสั
ณฐานเท่
านั
้
น (Löbl
et al.
, 1994) ปั
จจุ
บั
นมี
การศึ
กษาความเป็
นไปได้
ใน
การนํ
าฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
มาใช้
เป็
นชั
้
นเคลื
อบเฉพาะด้
านที่
มี
ความสามารถฆ่
าหรื
อยั
งยั
้
งการเติ
บโตของเชื
้
อ
แบคที
เรี
ยเพิ่
มมากขึ
้
น (Sunada
et al
., 2003) สํ
าหรั
บการเตรี
ยมฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ทํ
าได้
หลายวิ
ธี
เช่
น โซลเจล
ระเหยสาร หรื
อ สปั
ตเตอริ
ง อย่
างไรก็
ดี
เทคนิ
คสปั
ตเตอริ
งมี
ข้
อได้
เปรี
ยบที่
สามารถควบคุ
มอั
ตราเคลื
อบและสมบั
ติ
ของ
ฟิ
ล์
มได้
ง่
ายกว่
า ฟิ
ล์
มบางที่
ได้
มี
คุ
ณภาพและมี
การยึ
ดเกาะดี
(Wu
et al
., 2006) อี
กทั
้
งยั
งสามารถประยุ
กต์
ไปสู
่
การเคลื
อบ
ชิ
้
นงานขนาดใหญ่
ในระดั
บอุ
ตสาหกรรมได้
ง่
ายอี
กด้
วย
ทั
้
งนี
้
เป็
นที่
ทราบดี
ในกลุ
่
มนั
กวิ
จั
ยด้
านฟิ
ล์
มบางว่
าโครงสร้
างของฟิ
ล์
มขึ
้
นกั
บเงื่
อนไขการเคลื
อบเป็
นสํ
าคั
ญ
สํ
าหรั
บการเคลื
อบฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ให้
มี
เฟสอนาเทสสํ
าหรั
บใช้
ฆ่
าเชื
้
อแบคที
เรี
ยนั
้
น ตั
วแปรหนึ
่
งที่
สํ
าคั
ญ
คื
ออั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจน เนื่
องจากโครงสร้
างผลึ
กของฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
จะเปลี่
ยนไปตามความดั
นและ
ปริ
มาณแก๊
สออกซิ
เจนในกระบวนการเคลื
อบ (Zeman and Takabayashi, 2002) บทความวิ
จั
ยนี
้
เป็
นรายงานผลการเตรี
ยม
ฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ด้
วยเทคนิ
ครี
แอคตี
ฟดี
ซี
แมกนี
ตรอนสปั
ตเตอริ
ง เมื่
อแปรค่
าอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจน และ
ทดสอบความเป็
นไปได้
ในการฆ่
าเชื
้
อแบคที
เรี
ย
Escherichia coli (E. coli)
ของฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
เฟสอนาเทส
ที่
เคลื
อบได้
เมื่
อได้
รั
บการฉายแสงยู
วี
เพื่
อเป็
นข้
อมู
ลพื
้
นฐานสํ
าหรั
บการวิ
จั
ยต่
อไป
ª·
¸
µ¦ª·
´
¥
µ¦Á¦¸
¥¤Â¨³«¹
¬µ¨´
¬³Á¡µ³
°¢·
¨r
¤µÅÁÁ¸
¥¤Å°°År
ฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ในงานวิ
จั
ยนี
้
เตรี
ยมจากเครื่
องเคลื
อบระบบรี
แอคตี
ฟดี
ซี
แมกนี
ตรอนสปั
ตเตอริ
ง
(ภาพที่
1) ห้
องเคลื
อบทรงกระบอก เส้
นผ่
านศู
นย์
กลาง 310.0 mm ความสู
ง 370.0 mm ติ
ดตั
้
งเป้
าไทเทเนี
ยม (99.97%)
เส้
นผ่
านศู
นย์
กลาง 54.0 mm ที่
คาโทด พร้
อมภาคจ่
ายไฟฟ้
าแรงสู
งกระแสตรงขนาด 500 mA ความต่
างศั
กย์
เท่
ากั
บ 440 V
ใช้
แก๊
สอาร์
กอน (99.999%) เป็
นแก๊
สสปั
ตเตอร์
แก๊
สออกซิ
เจน (99.999%) เป็
นแก๊
สไวปฏิ
กิ
ริ
ยา เครื่
องสู
บสุ
ญญากาศ
ประกอบด้
วยเครื่
องสู
บแบบแพร่
ไอมี
เครื่
องสู
บกลโรตารี
เป็
นเครื่
องสู
บท้
าย การวั
ดความดั
นในห้
องเคลื
อบใช้
มาตรวั
ด
ความดั
นของ balzers รุ
่
น TPG300 โดยใช้
หั
ววั
ดแบบพิ
รานี
รุ
่
น TPR010 และ หั
ววั
ดแบบเพนนิ
งรุ
่
น IKR050 การจ่
ายแก๊
ส
ในกระบวนการเคลื
อบควบคุ
มด้
วยเครื่
องควบคุ
มอั
ตราไหลมวลแก๊
ส ของ MKS type247D
407
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555