ภาพที่
5 แสดงรู
ปแบบการเลี
้
ยวเบนรั
งสี
เอกซ์
ของฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ที่
เคลื
อบได้
พบว่
าเมื่
ออั
ตราไหล
แก๊
สออกซิ
เจนตํ
่
าเท่
ากั
บ 2 sccm ได้
รู
ปแบบการเลี
้
ยวเบนรั
งสี
เอกซ์
ที่
มุ
ม 27.30
o
ตรงกั
บไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
เฟสรู
ไทล์
ระนาบ (110) เมื่
ออั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนเพิ่
มขึ
้
นเป็
น 4 sccm ได้
รู
ปแบบการเลี
้
ยวเบนรั
งสี
เอกซ์
ที่
มุ
ม 25.28
o
และ 27.34
o
ตรงกั
บไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
เฟสอนาเทสระนาบ (101) และเฟสรู
ไทล์
ระนาบ (110) และสุ
ดท้
ายเมื่
ออั
ตราไหลแก๊
ส
ออกซิ
เจนเพิ่
มเป็
น 6 sccm ได้
รู
ปแบบการเลี
้
ยวเบนรั
งสี
เอกซ์
ที่
มุ
ม 25.26
o
ตรงกั
บไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
เฟสอนาเทส
ระนาบ (101) โดยที่
มุ
ม 56.50
o
เป็
นรู
ปแบบการเลี
้
ยวเบนรั
งสี
เอกซ์
ของซิ
ลิ
กอนซึ
่
งเป็
นวั
สดุ
รองรั
บ การเกิ
ดเฟสของ
ฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ที่
ได้
ในงานวิ
จั
ยนี
้
พบว่
าเปลี่
ยนไปตามอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนในกระบวนการเคลื
อบ
ซึ
่
ง Zeman and Takabayashi (2002) ได้
อธิ
บายการเกิ
ดเฟสของไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ว่
าเกี่
ยวข้
องกั
บพลั
งงานสารเคลื
อบ
โดยเฟสรู
ไทล์
เกิ
ดขึ
้
นเมื่
ออะตอมสารเคลื
อบมี
พลั
งงานสู
ง ซึ
่
งในงานวิ
จั
ยนี
้
พบว่
าเมื่
อใช้
อั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนตํ
่
าทํ
าให้
ระยะปลอดการชนเฉลี่
ย (mean free path) ในห้
องเคลื
อบมี
ค่
าสู
ง อะตอมสารเคลื
อบสามารถเคลื่
อนที่
โดยไม่
มี
การสู
ญเสี
ย
พลั
งงานจากการชนกั
นเองภายในห้
องเคลื
อบอะตอมสารเคลื
อบจึ
งมี
พลั
งงานสู
งทํ
าให้
ฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบได้
มี
เฟสรู
ไทล์
ส่
วนเฟสอนาเทสเกิ
ดขึ
้
นเมื่
อพลั
งงานของอะตอมสารเคลื
อบมี
ค่
าตํ
่
า เมื่
ออั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนเพิ่
มสู
งขึ
้
นระยะปลอด
การชนเฉลี่
ยมี
ค่
าลดลง ทํ
าให้
อะตอมสารเคลื
อบมี
โอกาสชนกั
นเองมากขึ
้
นพลั
งงานของอะตอมสารเคลื
อบมี
ค่
าลดลง
ฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบได้
เมื่
อใช้
อั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนสู
งจึ
งมี
เฟสอนาเทส
ªµ¤®µÂ¨³¨´
¬³¡º
Ê
·
ª
°¢·
¨r
¤µÅÁÁ¸
¥¤Å°°År
ความหนาและความหยาบผิ
วของฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบได้
จากเทคนิ
ค AFM สรุ
ปได้
ดั
งตารางที่
1 พบว่
า เมื่
ออั
ตราไหล
แก๊
สออกซิ
เจนเพิ่
มขึ
้
นความหนาฟิ
ล์
มมี
ค่
าลดลง จาก 171 nm เป็
น 136 nm เนื่
องจากเมื่
ออั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนเพิ่
มขึ
้
น
อะตอมของออกซิ
เจนมี
โอกาสเข้
าไปรวมตั
วกั
บอะตอมไทเทเนี
ยมที่
หน้
าเป้
าสารเคลื
อบทํ
าให้
เกิ
ดเป็
นชั
้
นบางๆ ของ
ไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ซึ
่
งไม่
นํ
าไฟฟ้
าบริ
เวณผิ
วหน้
าเป้
าสารเคลื
อบ ทํ
าให้
อั
ตราเคลื
อบลดลงซึ
่
งส่
งผลต่
อความหนาฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบได้
ลดลงด้
วย ขณะที่
ความหยาบผิ
วเฉลี่
ยของฟิ
ล์
มเพิ่
มขึ
้
นจาก 2.0 nm เป็
น 5.4 nm เนื่
องจากเมื่
ออั
ตราไหล
แก๊
สออกซิ
เจนเพิ่
มขึ
้
น พลั
งงานของสารเคลื
อบมี
ค่
าลดลงเนื่
องจากสู
ญเสี
ยพลั
งงานจากการชนกั
นทํ
าให้
เมื่
ออะตอม
สารเคลื
อบเคลื่
อนที่
ถึ
งผิ
วหน้
าของวั
สดุ
รองรั
บแล้
วเกิ
ดการฟอร์
มตั
วเป็
นชั
้
นของฟิ
ล์
มบางทั
นที
ลั
กษณะผิ
วหน้
าของ
ฟิ
ล์
มที่
ได้
จึ
งมี
ลั
กษณะขรุ
ขระความหยาบผิ
วจึ
งมี
ค่
าสู
ง
ภาพที่
6 แสดงลั
กษณะพื
้
นผิ
วของฟิ
ล์
มบางไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
ที่
เคลื
อบได้
จากเทคนิ
ค AFM พบว่
าฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบด้
วยอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนเท่
ากั
บ 2 sccm พื
้
นผิ
วของฟิ
ล์
มมี
เกรนขนาดเล็
กกระจายอยู
่
ทั่
วบริ
เวณบนผิ
วหน้
าฟิ
ล์
ม
ดั
งแสดงในภาพที่
6 (a) สํ
าหรั
บฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบด้
วยอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนเท่
ากั
บ 4 sccm พื
้
นผิ
วมี
เกรนขนาดเล็
กใหญ่
ปะปนกั
นกระจายอยู
่
บางบริ
เวณบนผิ
วหน้
าฟิ
ล์
ม ดั
งแสดงในภาพที่
6 (b) ส่
วนฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบด้
วยอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจน
เท่
ากั
บ 6 sccm พื
้
นผิ
วมี
ลั
กษณะขรุ
ขระ มี
ความหยาบผิ
วสู
ง ดั
งแสดงในภาพที่
6 (c) ทํ
าให้
ฟิ
ล์
มที่
ได้
มี
พื
้
นที่
ผิ
วมากที่
สุ
ด
เมื่
อเที
ยบกั
บฟิ
ล์
มที่
เคลื
อบได้
เมื่
อใช้
อั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจนตํ
่
า
ตารางที่
1 ความหนาและความหยาบผิ
วเฉลี่
ยของฟิ
ล์
มไทเทเนี
ยมไดออกไซด์
เคลื
อบเมื่
อแปรค่
าอั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจน
อั
ตราไหลแก๊
สออกซิ
เจน (sccm)
ความหนา (nm)
ความหยาบผิ
วเฉลี่
ย (nm)
2
171
2.0
4
155
4.7
6
136
5.4
410
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555