ขั
้
นตอนที่
2 การวางแผนแก้
ไขปั
ญหาโดยใช้
เทคนิ
คเอ ไอ ซี
(application-influence-control) ซึ
่
งมี
การ
ดํ
าเนิ
นการ 3 ขั
้
นตอน คื
อ 1) ขั
้
นตอนการสร้
างความรู
้
(application) เป็
นขั
้
นตอนการเรี
ยนรู
้
แลกเปลี่
ยนประสบการณ์
โดยเปิ
ดโอกาสให้
ผู
้
เข้
าร่
วมประชุ
มทุ
กคนแสดงความคิ
ดเห็
น รั
บฟั
งและหาข้
อสรุ
ปร่
วมกั
นอย่
างเป็
นประชาธิ
ปไตย
2) ขั
้
นตอนการสร้
างแนวทางพั
ฒนา (influence) เป็
นการคิ
ดโครงการที่
จะให้
บรรลุ
วั
ตถุ
ประสงค์
และการจั
ดลํ
าดั
บ
ความสํ
าคั
ญของโครงการ 3) ขั
้
นตอนการสร้
างแนวทางปฏิ
บั
ติ
(control) เป็
นการนํ
าเอากิ
จกรรมหรื
อโครงการต่
างๆ มาสู
่
การปฏิ
บั
ติ
และจั
ดกลุ
่
มผู
้
รั
บผิ
ดชอบในการดํ
าเนิ
นงาน
ขั
้
นตอนที่
3 ส่
งเสริ
มให้
มี
การปฏิ
บั
ติ
ตามแนวทางที่
กํ
าหนดเป็
นระยะเวลา 4 สั
ปดาห์
โดยมี
การดํ
าเนิ
นการ
4 แผนงาน คื
อ 1) จั
ดทํ
าเอกสารคู่
มื
อแนวทางการพยาบาลเพื่
อป้
องกั
นการติ
ดเชื
้
อในผู
้
ป่
วยที่
คาสายสวนทางหลอดเลื
อดดํ
า
ส่
วนกลางให้
เป็
นมาตรฐานเดี
ยวกั
น 2) ให้
ความรู
้
โดยใช้
โปสเตอร์
และข้
อมู
ลออนไลน์
3) จั
ดกิ
จกรรมรณรงค์
เรื่
องการ
ล้
างมื
อ 4) จั
ดหาอุ
ปกรณ์
ปิ
ดแผลที่
มี
คุ
ณภาพ
ขั
้
นตอนที่
4 การติ
ดตามและประเมิ
นผล โดยมี
พยาบาลอาสาสมั
ครให้
ข้
อมู
ลเกี่
ยวกั
บปั
ญหาและอุ
ปสรรค
ผู
้
วิ
จั
ยนํ
าแบบสอบถามตรวจสอบความตรงตามเนื
้
อหาโดยผู
้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
3 ท่
านและตรวจสอบความเที่
ยงของ
เครื่
องมื
อ (reliability) ด้
วยการทดลองใช้
กั
บพยาบาลในหอผู
้
ป่
วยศั
ลยกรรมชาย 1 จํ
านวน 20 คน ตอบแบบสอบถาม 2
ครั
้
ง ห่
างกั
น 2 สั
ปดาห์
แล้
วนํ
าข้
อมู
ลที่
วั
ดได้
ในครั
้
งที่
1 และครั
้
งที่
2 มาวิ
เคราะห์
หาค่
าสั
มประสิ
ทธิ
์
สหสั
มพั
นธ์
(correlation coefficient) โดยใช้
สู
ตรสั
มประสิ
ทธิ
์
สหสั
มพั
นธเพี
ยรสั
น (Pearson correlation coefficient) ได้
เท่
ากั
บ 0.88
และผู
้
วิ
จั
ยนํ
าแนวทางการสนทนากลุ
่
มที่
ได้
แก้
ไขตามข้
อเสนอแนะของผู
้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
ไปทดลองใช้
ในการประชุ
มกลุ
่
ม
พั
ฒนาคุ
ณภาพการพยาบาลซึ
่
งประกอบด้
วยพยาบาล 5 คน เพื่
อดู
ความเหมาะสมและเพิ่
มความชํ
านาญในการดํ
าเนิ
นการ
ตลอดจนนํ
าปั
ญหาและอุ
ปสรรคมาปรั
บปรุ
ง
การวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลใช้
โปรแกรมคอมพิ
วเตอร์
สํ
าเร็
จรู
ป โดยใช้
สถิ
ติ
การแจกแจงความถี่
ค่
าร้
อยละ ค่
าเฉลี่
ย ส่
วน
เบี่
ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที
การทดสอบไคสแควร์
หรื
อการทดสอบฟิ
ชเชอร์
และทดสอบสมมติ
ฐานการวิ
จั
ยด้
วย
สถิ
ติ
ที
คู่
(pair t-test) และสถิ
ติ
ที
อิ
สระ (independent t-test)
¨µ¦ª·
´
¥Â¨³°£·
¦µ¥¨
การศึ
กษาผลของโปรแกรมการมี
ส่
วนร่
วมของพยาบาลต่
อการปฏิ
บั
ติ
การพยาบาลเพื่
อป้
องกั
นการติ
ดเชื
้
อจากการคา
สายสวนทางหลอดเลื
อดดํ
ากลาง มี
ผลการวิ
เคราะห์
ข้
อมู
ลนํ
าเสนอด้
วยตารางประกอบคํ
าบรรยาย ดั
งนี
้
1.
o
°¤¼
¨´É
ªÅ
°¨»
n
¤´
ª°¥n
µ
ข้
อมู
ลทั่
วไปของกลุ
่
มตั
วอย่
าง มี
จํ
านวน 60 คน แบ่
งเป็
นกลุ
่
มควบคุ
มและกลุ
่
มทดลองกลุ
่
มละ 30 คน กลุ
่
ม
ควบคุ
มส่
วนใหญ่
เป็
นผู
้
หญิ
งร้
อยละ 96.67 จบการศึ
กษาระดั
บปริ
ญญาตรี
ร้
อยละ 93.33 และส่
วนใหญ่
ไม่
ได้
รั
บการอบรม
เกี่
ยวกั
บการดู
แลผู
้
ป่
วยที่
สายสวนหลอดเลื
อดดํ
าส่
วนกลาง ร้
อยละ 83.33 มี
อายุ
เฉลี่
ย 32.83 ปี
(SD=6.89) ระยะเวลาเฉลี่
ย
ในการปฏิ
บั
ติ
งานที่
หอผู
้
ป่
วยสามั
ญ 10.20 ปี
(SD=7.00) และประสบการณ์
เฉลี่
ยในการดู
แลผู
้
ป่
วยที่
คาสายสวนทางหลอด
เลื
อดดํ
าส่
วนกลาง 8.67 ปี
(SD=5.96) ส่
วนกลุ
่
มทดลองส่
วนใหญ่
เป็
นผู
้
หญิ
งร้
อยละ 96.67 จบการศึ
กษาระดั
บปริ
ญญาตรี
ร้
อยละ 96.67 และส่
วนใหญ่
ไม่
ได้
รั
บการอบรมเกี่
ยวกั
บการดู
แลผู
้
ป่
วยที่
สายสวนหลอดเลื
อดดํ
าส่
วนกลางร้
อยละ 70.00 มี
อายุ
เฉลี่
ย 32.43 ปี
(SD=6.91) ระยะเวลาเฉลี่
ยในการปฏิ
บั
ติ
งานที่
หอผู
้
ป่
วยสามั
ญ 9.30 ปี
(SD=6.27) และประสบการณ์
เฉลี่
ยในการดู
แลผู
้
ป่
วยที่
คาสายสวนทางหลอดเลื
อดดํ
าส่
วนกลาง 8.30 ปี
(SD=5.19) ซึ
่
งพบว่
า ลั
กษณะข้
อมู
ลทั่
วไปของ
กลุ
่
มตั
วอย่
างทั
้
งสองกลุ
่
มไม่
แตกต่
างกั
น ดั
งแสดงในตารางที่
1 และ 2
530
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555