´
´
¥
R-square
R
Beta
95% CI
p-value
อาชี
พ
ว่
างงาน/ งานบ้
าน
0.031
0.175
-0.175
-14.743, -1.538 0.016
เกษตรกรรม
0.052
0.229
0.229
2.468, 10.265
0.002
รั
บจ้
าง
0.024
0.154
-0.154
-7.215, -0.290
0.034
อื่
นๆ
Ref.
รายได้
เฉลี่
ยต่
อเดื
อน (บาท)
0.015
0.123
0.123
-0.257, 3.447
0.091
ความเพี
ยงพอของรายได้
เพี
ยงพอ
0.011
0.106
1.106
-0.953, 6.364
0.146
ไม่
เพี
ยงพอ
Ref.
o
µ£µª³»
£µ¡
ระยะเวลาที่
ทราบว่
าติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
(ปี
)
0.047
0.218
0.218
0.257, 1.192
0.003
ระดั
บ CD
4
ครั
้
งหลั
งสุ
ด (เซลล์
ต่
อ ลบ.มม.)
0.043
0.207
0.207
0.004, 0.021
0.004
ระยะเวลาที่
ได้
รั
บยาต้
านไวรั
สเอชไอวี
(ปี
)
0.048
0.220
0.220
0.392, 1.777
0.002
o
µµ¦´
»
µ´
¤
ด้
านอารมณ์
0.343
0.585
0.585
7.796, 11.677
<0.001
ด้
านข้
อมู
ลข่
าวสาร
0.425
0.652
0.652
10.393, 14.566 <0.001
ด้
านทรั
พยากร
0.302
0.550
0.550
9.065, 14.134
<0.001
ด้
านการยอมรั
บ
0.371
0.609
0.609
8.001, 11.688
<0.001
°£·
¦µ¥¨µ¦ª·
´
¥
ผลการศึ
กษาครั
้
งนี
้
พบว่
า คุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
้
ติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
และผู
้
ป่
วยเอดส์
ทั
้
งโดยรวมและรายองค์
ประกอบ
แต่
ละด้
านอยู
่
ในระดั
บปานกลาง สอดคล้
องกั
บการศึ
กษาของ ธงชั
ย เลิ
ศวิ
ไลรั
ตนพงศ์
และวั
นเพ็
ญ แก้
วปาน(2550 : 47)
ที่
ทํ
าการศึ
กษาผู
้
ติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
และผู
้
ป่
วยเอดส์
ที่
รั
บบริ
การในคลิ
นิ
กเอดส์
ของโรงพยาบาลสุ
ไหงโกลก จั
งหวั
ดนราธิ
วาส
พบว่
าส่
วนใหญ่
มี
คุ
ณภาพชี
วิ
ตอยู
่
ในระดั
บปานกลาง อย่
างไรก็
ตามแตกต่
างจากการศึ
กษาของสุ
เทพ รั
กเมื
อง, นริ
นทร์
หิ
รั
ญสุ
ทธิ
กุ
ล และพรชั
ย สิ
ทธิ
ศรั
ณย์
กุ
ล (2551 : 46) ที่
ศึ
กษาคุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
้
ป่
วยโรคเอดส์
ที่
ได้
รั
บยาต้
านไวรั
สเอชไอวี
ในเขต 11 พบว่
าคุ
ณภาพชี
วิ
ตอยู
่
ระดั
บดี
ผู
้
ติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
และผู
้
ป่
วยเอดส์
ส่
วนใหญ่
มี
ระดั
บคุ
ณภาพชี
วิ
ตตามองค์
ประกอบด้
านร่
างกาย จิ
ตใจ
ความสั
มพั
นธ์
ทางสั
งคม และด้
านสิ่
งแวดล้
อม ในระดั
บปานกลาง จะเห็
นได้
ว่
ากลุ
่
มตั
วอย่
างทั
้
งหมดได้
รั
บการรั
กษาด้
วยยา
ต้
านไวรั
สเอชไอวี
ตามโครงการรั
กษาด้
วยยาต้
านไวรั
สเอชไอวี
ของโรงพยาบาลชุ
มชน ในจั
งหวั
ดตรั
ง ซึ
่
งการรั
กษาด้
วยยา
ต้
านไวรั
สสามารถยั
บยั
้
งกระบวนการเพิ่
มเชื
้
อเอชไอวี
ในร่
างกาย และช่
วยควบคุ
มจํ
านวนเชื
้
อไวรั
สเอชไอวี
ไม่
ให้
ทํ
าลาย
ภู
มิ
คุ
้
มกั
นโรค ทํ
าให้
มี
ระดั
บภู
มิ
คุ
้
มกั
น (CD
4
) สู
งขึ
้
น และระดั
บเชื
้
อไวรั
ส (viral load) ในกระแสเลื
อดลดลง ทํ
าให้
กลุ
่
ม
ตั
วอย่
างมี
ภู
มิ
คุ
้
มกั
นโรคเพิ่
มขึ
้
น ลดการติ
ดเชื
้
อฉวยโอกาส และมี
สุ
ขภาพแข็
งแรงขึ
้
น
(สุ
รางค์
รั
ตน์
สุ
รงคบพิ
ตร, วารุ
ณี
ฟองแก้
ว และพิ
กุ
ล นั
นทชั
ยพั
นธ์
. 2549 : 122-134) จากการศึ
กษายั
งพบว่
าบุ
คคลในครอบครั
วให้
ความรั
กความห่
วงใย อยู
่
ในระดั
บมาก ซึ
่
งมี
ส่
วนส่
งเสริ
มกํ
าลั
งใจแก่
ผู
้
ติ
ดเชื
้
อและผู
้
ป่
วยเอดส์
ได้
ดี
รวมทั
้
งจากระยะเวลาที่
ผ่
านมา มี
การให้
ความรู
้
เรื่
องเอดส์
แก่
ประชาชนอย่
างต่
อเนื่
อง ทํ
าให้
บุ
คคลทั่
วไปมี
ความเข้
าใจต่
อโรคและผู
้
ติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
และผู
้
ป่
วยเอดส์
มากขึ
้
น
ทํ
าให้
ผู
้
ติ
ดเชื
้
อเอชไอวี
และผู
้
ป่
วยเอดส์
มี
กํ
าลั
งใจและมี
สั
มพั
นธภาพกั
บผู
้
อื่
นได้
มากขึ
้
น ตลอดจนการอยู
่
ในสภาพแวดล้
อม
556
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555