µ¦°£·
¦µ¥¨
การนวดแผนไทยในระยะคลอดทํ
าให้
มารดามี
ความปวดทางกายและความตึ
งเครี
ยดจากความปวดทางกายน้
อย
กว่
ากลุ
่
มควบคุ
ม ซึ
่
งสามารถอธิ
บายได้
ว่
า การนวดแผนไทยโดยใช้
วิ
ธี
การนวด กด บี
บ คลึ
งไปกระตุ
้
นผิ
วหนั
งและ
กล้
ามเนื
้
อบริ
เวณตํ
าแหน่
งหลั
งส่
วนล่
าง ก้
นกบ สะโพก และต้
นขาทั
้
งสองข้
าง ซึ
่
งเป็
นตํ
าแหน่
งที่
ผู
้
คลอดมี
ความปวดและมี
การเกร็
งของกล้
ามเนื
้
อเมื่
อเข้
าสู
่
ระยะปากมดลู
กเปิ
ดเร็
ว โดยใช้
ระยะเวลาในการนวดเป็
นเวลา 30 นาที
สามารถอธิ
บาย
ด้
วยด้
วยทฤษฎี
ควบคุ
มประตู
ได้
ว่
า การนวดไทย ส่
งผลให้
กระตุ
้
นเส้
นประสาทขนาดใหญ่
ทํ
าให้
ปิ
ดประตู
ในระดั
บไขสั
น
หลั
ง เมื่
อสั
ดส่
วนของการกระตุ
้
นปลายเส้
นประสาทขนาดใหญ่
มากกว่
าการกระตุ
้
นปลายเส้
นประสาทขนาดเล็
ก ทํ
าให้
ประตู
ควบคุ
มความปวดยั
บยั
้
งการส่
งข้
อมู
ลความปวดจากไขสั
นหลั
งที่
จะส่
งไปยั
งส่
วนควบคุ
มประสาทส่
วนกลาง (central
nerve system) ยั
บยั
้
งการส่
งกระแสประสาทที่
ส่
งผ่
านมิ
เดี
ย คอร์
ซิ่
ง ไฟเบอร์
(medialy coursing fiber) ไปยั
งเรติ
คู
ลา ฟอร์
เมชั่
น (reticular formation) และมี
เดี
ย อิ
นตราทาลามี
นา ทาลามั
ส (medial intralamina thalamus) และระบบลิ
มบิ
ค
(limbic system) (Melzack & Wall, 1996) นอกจากนี
้
ยั
งสามารถอธิ
บายด้
วยทฤษฎี
ควบคุ
มความปวดภายในได้
ว่
า การ
นวดเป็
นการกระตุ
้
นทํ
าให้
กล้
ามเนื
้
อผ่
อนคลาย อารมณ์
ผ่
อนคลายมี
การหลั่
งของสารเอนดอร์
ฟิ
น (endorphin) และสารเอน
เคฟาลิ
น ซึ
่
งมี
ผลทํ
าให้
ยั
บยั
้
งการทํ
างานของสารพี
ที่
จะไปกระตุ
้
นที
เซลโดยยั
บยั
้
งผ่
านทางเดสเซนดิ
้
ง (descending
pathway) (Hamilton, 2003) อี
กทั
้
งยั
งยั
บยั
้
งโดยสมองไปยั
งไขสั
นหลั
งโดยตรง (projection) จึ
งทํ
าให้
ความตึ
งเครี
ยดลดลง
การนวดแผนไทยเป็
นการสั
มผั
ส ทํ
าให้
ระบบลิ
มบิ
ค (limbic system) ซึ
่
งทํ
าหน้
าที่
ตอบสนองทางด้
านอารมณ์
ถู
กกระตุ
้
น
น้
อยลง ร่
างกายมี
การผ่
อนคลายระดั
บลึ
ก รั
บรู
้
ถึ
งความรู
้
สึ
กเป็
นสุ
ข เนื่
องจากการนวดด้
วยวิ
ธี
การกด การบี
บ การคลึ
ง เป็
น
การเบี่
ยงเบนความสนใจไปจากความตึ
งเครี
ยดหรื
อความไม่
สุ
ขสบาย ทํ
าให้
ผู
้
คลอดเกิ
ดความพึ
งพอใจ มี
การผ่
อนคลาย
ทั
้
งทางด้
านร่
างกายและจิ
ตใจ (Stephenson, Weinrich, & Tavakoli, 2000) จึ
งมี
ผลให้
ความปวดและความตึ
งเครี
ยดลดลง
การศึ
กษานี
้
สอดคล้
องกั
บการศึ
กษาของ ชาง, หวาง และ เชน (Chang, Wang, & Chen, 2002) และการศึ
กษาของ ชาง,
เชน และ หวง (Chang, Chen, & Huang, 2006) พบว่
าการนวดช่
วยลดปวดในระยะคลอดได้
นอกจากนี
้
ยั
งมี
การศึ
กษา
ของคิ
มเบอร์
, แมคแนบ, แมคคอร์
ท, ไฮเนส และบรอคเคิ
ลเฮิ
ร์
ส (Kimber, McNabb, Mc Court, Haines, & Brocklehurst,
2008) ได้
ทํ
าการศึ
กษาการลดปวดโดยใช้
การนวด การฟั
งดนตรี
และมี
กลุ
่
มควบคุ
ม พบว่
า การนวดและการฟั
งดนตรี
นั
้
น
ช่
วยลดปวดในระยะคลอดได้
สํ
าหรั
บด้
านของความตึ
งเครี
ยดนั
้
น มี
การศึ
กษาในผู
้
ป่
วยมะเร็
ง พบว่
าการนวดช่
วยลด
ความเครี
ยด ความวิ
ตกกั
งวลได้
อย่
างนั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
(Jane, Wilkie, Gallucci, Beaton, & Huang, 2009; Cowen et al.,
2006) อี
กทั
้
งการนวดช่
วยให้
ผู
้
ป่
วยรู
้
สึ
กสุ
ขสบาย ไม่
ทุ
กข์
ทรมานจากภาวะโรคและความปวดที่
ผู
้
ป่
วยเป็
นอยู
่
(วั
นเพ็
ญ
2549; อมรรั
ตน์
2549, Jane, Wilkie, Gallucci, Beaton, & Huang, 2009)
¦»
¨µ¦ª·
´
¥
ผลการศึ
กษาของงานวิ
จั
ยฉบั
บนี
้
แสดงให้
เห็
นว่
าผลของการนวดแผนไทยในผู
้
คลอดสามารถลดปวดและลด
ความตึ
งเครี
ยดในระยะคลอดได้
ดั
งนั
้
นจึ
งควรนํ
าการนวดแผนไทยไปใช้
เป็
นวิ
ธี
การลดปวดโดยไม่
ใช้
ยา จากผลการวิ
จั
ยนี
้
ผู
้
วิ
จั
ยขอเสนอแนะในการนํ
าผลการวิ
จั
ยไปใช้
ดั
งนี
้
1. ผู
้
บริ
หารทั
้
งในระดั
บหน่
วยงานหรื
อโรงพยาบาลควรส่
งเสริ
มการนวดแผนไทยมาใช้
ในการลดปวดใน
ระยะคลอดแก่
ผู
้
คลอด
2. พยาบาลห้
องคลอดสามารถนํ
าการนวดแผนไทยมาใช้
ในการลดปวดโดยไม่
ใช้
ยาในระยะคลอด รวมทั
้
ง
548
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555