3
ถู
กทาร้
ายร่
างกาย (3) มี
ระดั
บความรู
้
สึ
กตั
วดี
โดยมี
คะแนนกลาสโกว์
โคม่
า เท่
ากั
บ 15 คะแนน (4)ไม่
เมาสุ
ราหรื
อมี
ความ
ผิ
ดปกติ
ทางจิ
ต (5) ไม่
มี
ปั
ญหาด้
านการมองเห็
นและการได้
ยิ
น และ (6)ไม่
ได้
รั
บการเข้
ารั
กษาในโรงพยาบาล การคานวณ
กลุ่
มตั
วอย่
างผู
้
ใช้
บริ
การที่
มี
แผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ใช้
สู
ตรคานวณร้
อยละ 10 ของประชากร (บุ
ญใจ, 2550) ได้
จานวนเท่
ากั
บ 104
คน โดยมี
เครื่
องมื
อที่
ใช้
ในการเก็
บรวบรวมข้
อมู
ล แบ่
งเป็
น 2 ชุ
ด คื
อ ชุ
ดที่
1 แบบสอบถามสาหรั
บพยาบาล และชุ
ดที่
2
แบบสอบถามสาหรั
บผู
้
ใช้
บริ
การที่
มี
แผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ดั
งนี
้
ชุ
ดที่
1 แบบสอบถามสาหรั
บพยาบาล ประกอบด้
วย 3 ส่
วน ได้
แก่
ส่
วนที่
1 แบบสอบถามข้
อมู
ลทั่
วไป ส่
วน
ที่
2 แบบสอบถามกระบวนการจั
ดการความปวดขณะทาแผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ของพยาบาล ซึ
่
งผู
้
วิ
จั
ยสร้
างขึ
้
นจากการทบทวน
แนวปฏิ
บั
ติ
ที่
เป็
นเลิ
ศในการบรรเทาความปวดขณะทาแผลของสมาพั
นธ์
สมาคมการฟื
้
นหายของแผลระดั
บโลก สมาคม
ด้
านการจั
ดการเพื่
อคงสภาพเนื
้
อเยื่
อ และสมาพั
นธ์
การจั
ดการแผลแห่
งสหภาพยุ
โรป และงานวิ
จั
ยต่
าง ๆ ประกอบด้
วย
เกณฑ์
มาตรฐานด้
านกระบวนการ 5 องค์
ประกอบ จานวน 42 ข้
อ เป็
นมาตราส่
วนประมาณค่
า 5 ระดั
บ ตั
้
งแต่
1-5 และ
นาไปตรวจสอบความตรงด้
านเนื
้
อหาจากผู
้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
ห้
าท่
านและทดสอบค่
าความเที่
ยงแบบทดสอบซ
้
า (test-retest
method) ได้
ค่
าความเที่
ยง .93 การแปลผลคะแนนใช้
เกณฑ์
ดั
งนี
้
ค่
าคะแนนช่
วง 1.00 – 2.33 หมายถึ
ง มี
คุ
ณภาพการ
จั
ดการความปวดระดั
บต
่
า ช่
วงคะแนน 2.34 – 3.67 หมายถึ
ง มี
คุ
ณภาพระดั
บปานกลาง และช่
วงคะแนน 3.68 – 5.00
หมายถึ
ง มี
คุ
ณภาพในระดั
บสู
ง และส่
วนที่
3 แบบสอบถามความพึ
งพอใจของพยาบาลต่
อคุ
ณภาพการจั
ดการความปวด
ขณะทาแผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ของโสพิ
ศ (2549) จานวน 3 ข้
อ ใช้
มาตราส่
วนประมาณค่
า 5 ระดั
บคะแนน ทดสอบความเที่
ยงโดย
ใช้
สู
ตรสั
มประสิ
ทธิ
์
แอลฟาของครอนบาค ได้
ค่
าเท่
ากั
บ .81 การแปลผลคะแนนโดยใช้
เกณฑ์
ดั
งนี
้
ค่
าช่
วงคะแนน 1.00 –
2.33 หมายถึ
ง พึ
งพอใจน้
อย ค่
าช่
วงคะแนน 2.34 – 3.66 หมายถึ
ง พึ
งพอใจปานกลาง และค่
าช่
วงคะแนน 3.67 – 5.00
หมายถึ
ง พึ
งพอใจมาก
ชุ
ดที่
2 แบบสอบถามสาหรั
บผู
้
ใช้
บริ
การที่
มี
แผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ประกอบด้
วย 3
ส่
วน ได้
แก่
ส่
วนที่
1
แบบสอบถามข้
อมู
ลทั่
วไปและแผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ส่
วนที่
2 แบบสอบถามความพึ
งพอใจของผู
้
ใช้
บริ
การต่
อการจั
ดการความ
ปวดขณะทาแผลอุ
บั
ติ
เหตุ
มี
เนื
้
อหาและการแปลผลคะแนนเช่
นเดี
ยวกั
บแบบสอบถามของพยาบาลในส่
วนที่
3 ซึ
่
ง
ทดสอบความเที่
ยงโดยใช้
สู
ตรสั
มประสิ
ทธิ
์
แอลฟาของครอนบาค ได้
ค่
าเท่
ากั
บ .81 ส่
วนที่
3 คาถามปลายเปิ
ดเกี่
ยวกั
บ
ปั
ญหาและข้
อเสนอแนะของผู
้
ใช้
บริ
การ
ภายหลั
งจากผ่
านการพิ
จารณารั
บรองจากคณะกรรมการจริ
ยธรรมการวิ
จั
ยในคนของคณะพยาบาลศาสตร์
มหาวิ
ทยาลั
ยสงขลานคริ
นทร์
และได้
รั
บอนุ
ญาตให้
เก็
บข้
อมู
ลการวิ
จั
ยจากผู
้
อานวยการโรงพยาบาลแล้
ว ผู
้
วิ
จั
ยดาเนิ
นการ
แนะนาตั
วชี
้
แจงวั
ตถุ
ประสงค์
ขั
้
นตอนและระยะเวลาการวิ
จั
ย พร้
อมทั
้
งชี
้
แจงสิ
ทธิ
ของการตอบรั
บหรื
อปฎิ
เสธการเข้
าร่
วม
วิ
จั
ยของผู
้
ใช้
บริ
การและพยาบาล เมื่
อกลุ่
มตั
วอย่
างยิ
นดี
เข้
าร่
วมวิ
จั
ยและลงนามแล้
ว ผู
้
วิ
จั
ยจึ
งดาเนิ
นการเก็
บข้
อมู
ล
หลั
งจากนั
้
นนาข้
อมู
ลมาวิ
เคราะห์
โดยใช้
สถิ
ติ
เชิ
งบรรยาย แจกแจงค่
าความถี่
ร้
อยละ ค่
าเฉลี่
ย และส่
วนเบี่
ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิ
จั
ย
ข้
อมู
ลทั่
วไปของกลุ
่
มตั
วอย่
าง
พยาบาลวิ
ชาชี
พ
ในการศึ
กษาครั
้
งนี
้
มี
จานวน
19 คน ส่
วนใหญ่
เป็
นเพศหญิ
ง (18 คน) อายุ
เฉลี่
ย 36 ปี
(
SD
= 7.19)
ระยะเวลาในการปฏิ
บั
ติ
งานในแผนกอุ
บั
ติ
เหตุ
และฉุ
กเฉิ
นเฉลี่
ย 10 ปี
และจบการศึ
กษาปริ
ญญาตรี
หรื
อเที
ยบเท่
า (16 คน)
ไม่
เคยอบรมเรื่
อง การจั
ดการความปวด (11 คน) และไม่
เคยอบรมเรื่
องการดู
แลแผล (13 คน) พยาบาลทุ
กคนรายงานว่
า
หน่
วยงานไม่
มี
มี
นโยบาย หรื
อแนวปฏิ
บั
ติ
ในการจั
ดการความปวดขณะทาแผลอุ
บั
ติ
เหตุ
ด้
านอั
ตรากาลั
งของเจ้
าหน้
าที่