เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 761

1
บทนํ
โรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
ง(Chronic Obstructive Pulmonary Disease; COPD) เป
นโรคเรื้
อรั
งที่
ไม
สามารถรั
กษาให
หายขาดได
มี
แนวโน
มอั
ตราการป
วยเพิ่
มขึ้
นทุ
กป
และเป
นป
ญหาสาธารณสุ
ขที่
สํ
าคั
ญ ในป
ค.ศ. 2000 โรคปอดอุ
ดกั้
เรื้
อรั
งเป
นสาเหตุ
การเสี
ยชี
วิ
ตอั
นดั
บที่
4 และเป
นโรคเรื้
อรั
งที่
มี
ภาวะทุ
พลภาพอั
นดั
บที่
12 ของโลก และคาดการณ
ว
ในป
ค.ศ.2020 จะกลายมาเป
นสาเหตุ
การตายอั
นดั
บที่
3 และเป
นโรคเรื้
อรั
งที่
มี
ภาวะทุ
พพลภาพเป
นอั
นดั
บที่
4
(WHO, 2002) ซึ่
งโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งนี้
ยั
งส
งผลกระทบในการใช
ค
าใช
จ
ายสุ
ขภาพ ผลกระทบต
อเศรษฐกิ
จ ทั้
งใน
ประเทศที่
พั
ฒนาและกํ
าลั
งพั
ฒนาด
วย (Miravitlles, Guerrero, mayordomo, Agudo, nicolau & Segu, 2000; Rennard &
Farmer, 2002) สํ
าหรั
บประเทศไทยประชากรร
อยละ 5 หรื
อประมาณ 4 ล
านคนเป
นโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
ง ซึ่
งนั
บว
าสู
งมาก
และมี
อั
ตราการเสี
ยชี
วิ
ต 33.5 ต
อประชากร 100,000 คน เป
นสาเหตุ
การเสี
ยชี
วิ
ตอั
นดั
บที่
5 ของประเทศ ประมาณการว
าใน
ป
ค.ศ. 2010 จะมี
ผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
ง 41.2 ต
อประชากร100,000 คน (สํ
านั
กนโยบายและแผนสาธารณสุ
กระทรวงสาธารณสุ
ข, 2552)
คุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งมี
ความสํ
าคั
ญสู
งสุ
ดและเป
นเป
าหมายสํ
าคั
ญในการรั
กษา เนื่
องจาก
ผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งต
องอยู
กั
บโรคที่
เป
นตลอดชี
วิ
ต จึ
งส
งผลต
อร
างกาย จิ
ตใจตลอดจนถึ
งคุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
ป
วย
(Halvani, Pourfarokh & Nasiriani, 2006) ป
จจั
ยที่
มี
ความเกี่
ยวของกั
บคุ
ณภาพชี
วิ
ตผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งมี
ทั้
งด
าน
อาการแสดง เช
น อาการหายใจลํ
าบาก และทางด
านร
างกาย เช
น ความสามารถในการปฏิ
บั
ติ
กิ
จวั
ตรประจํ
าวั
น(Mahler,
2006) จากการศึ
กษาพบว
าผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งมี
คุ
ณภาพชี
วิ
ตต่ํ
ากว
าผู
ป
วยเรื้
อรั
งอื่
นๆในทุ
กด
าน เนื่
องจากต
องถู
จํ
ากั
ดความสามารถจากอาการหายใจลํ
าบากและอาการกํ
าเริ
บที่
เกิ
ดขึ้
นบ
อยทํ
าให
คุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
ป
วยแย
ลง ทํ
าให
เกิ
ความวิ
ตกกั
งวลต
อความเจ็
บป
วยและสู
ญเสี
ยหน
าที่
การงาน รวมถึ
งความสามารถในการทํ
ากิ
จวั
ตรประจํ
าวั
นด
วยตนเอง
ลดลง ส
งผลถึ
งสุ
ขภาพจิ
ต เช
น ภาวะซึ
มเศร
าและภาวะเครี
ยด ผลกระทบจากภาวะเ หล
า นี
ทํ
า ให
ผู
ป
ว ย โ รคปอดอุ
กั
น เ รื
อรั
งมี
คุ
ณภาพชี
วิ
ตแย
ลง (Cully, Graham, Stanley, & Kunik, 2006) ดั
งนั้
นการศึ
กษาครั้
งนี้
จึ
งมี
จุ
ดประสงค
ที่
จะ
ศึ
กษาคุ
ณภาพชี
วิ
ตที่
เกี่
ยวข
องกั
บสุ
ขภาพในผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งเพื่
อเป
นแนวทางในการนํ
าผลการศึ
กษาไป
ประยุ
กต
ในการวางแผนเพื่
อดู
แลและเพิ่
มคุ
ณภาพชี
วิ
ตผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งต
อไป
วิ
ธี
การวิ
จั
การวิ
จั
ยเชิ
งบรรยาย เพื่
อศึ
กษาคุ
ณภาพชี
วิ
ตของผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
ประชากรได
จากผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งที่
มารั
บบริ
การแผนกผู
ป
วยนอกโรงพยาบาลชุ
มชน จั
งหวั
ดสงขลา
16 แห
ง จํ
านวน 930 คน กลุ
มตั
วอย
าง ได
จากการสุ
มโรงพยาบาลชุ
มชน 8 แห
ง ในจั
งหวั
ดสงขลา และเจาะจงเลื
อก ผู
ป
วย
โรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
งที่
ได
รั
บการวิ
นิ
จฉั
ยจากแพทย
และมารั
บบริ
การที่
คลิ
นิ
กโรคปอด แผนกผู
ป
วยนอก คํ
านวณจํ
านวน
โดยใช
สู
ตรของ Taro Yamane (1973) ใช
ระดั
บความเชื่
อมั่
น 95% สั
ดส
วนความคลาดเคลื่
อน/ระดั
บนั
ยสํ
าคั
ญเท
ากั
บ 0.05
ได
กลุ
มตั
วอย
าง 250 คน
เครื่
องมื
อที่
ใช
ในงานวิ
จั
ย ประกอบด
วย 1) แบบสั
มภาษณ
ข
อมู
ลทั่
วไป ประกอบด
วย ป
จจั
ยส
วนบุ
คคล ได
แก
เพศ อายุ
สถานภาพสมรส ศาสนา ระดั
บการศึ
กษา อาชี
พ และรายได
และป
จจั
ยที่
เกี่
ยวข
องกั
บความเจ็
บป
วย ได
แก
ระยะเวลาที่
เจ็
บป
วย การสู
บบุ
หรี่
ในป
จจุ
บั
น และบุ
คคลในครอบครั
วที่
สู
บบุ
หรี่
2) แบบประเมิ
นความรุ
นแรงของอาการ
หายใจลํ
าบาก (Visual Analog Scale of Dyspnea: VAS-D; Mahler, 2006) หลั
งจากการให
ผู
ป
วยโรคปอดอุ
ดกั้
นเรื้
อรั
เดิ
นในเวลา 6 นาที
3) การทดสอบความทนต
อการออกกํ
าลั
งกาย โดยการเดิ
นในระยะเวลา 6 นาที
(6 Minutes walk test:
Generated by Foxit PDF Creator © Foxit Software
For evaluation only.
1...,751,752,753,754,755,756,757,758,759,760 762,763,764,765,766,767,768,769,770,771,...1102
Powered by FlippingBook