เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 830

5
ติ
ดตามในผู
ป
วยเอชไอวี
ผลพบว
า ภายหลั
งเข
าร
วมโปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจ กลุ
มตั
วอย
างมี
ค
าคะแนนเฉลี่
ยการ
ปฏิ
บั
ติ
ตั
วด
านสุ
ขภาพตั้
งแต
วั
นแรกถึ
งสั
ปดาห
ที่
8 แตกต
างกั
นอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
(p < .001)
2. การเปรี
ยบเที
ยบพฤติ
กรรมการป
องกั
นการคลอดก
อนกํ
าหนดในหญิ
งตั้
งครรภ
วั
ยรุ
นมุ
สลิ
มระหว
างกลุ
มที่
ได
รั
โปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจกั
บกลุ
มที่
ได
รั
บการพยาบาลตามปกติ
พบว
า หญิ
งตั้
งครรภ
วั
ยรุ
นมุ
สลิ
มกลุ
มทดลองที่
ได
รั
บโปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจมี
พฤติ
กรรมการป
องกั
นการคลอดก
อนกํ
าหนดสู
งกว
ากลุ
มที่
ได
รั
บการพยาบาล
ตามปกติ
อย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
(p < .001) ซึ่
งสามารถอธิ
บายเหตุ
ผลของคะแนนความแตกต
างระหว
างพฤติ
กรรมในกลุ
ที่
ได
รั
บโปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจกั
บกลุ
มที่
ได
รั
บการพยาบาลตามปกติ
4 ประการ ดั
งนี้
ประการที่
1 เมื่
อพิ
จารณาหญิ
งตั้
งครรภ
วั
ยรุ
นมุ
สลิ
มในกลุ
มที่
ได
รั
บโปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจที่
ประยุ
กต
กรอบแนวคิ
ดของกิ
บสั
น (1993) มาใช
ตลอดระยะเวลา 9 สั
ปดาห
อาจจะมี
ผลต
อการเพิ่
มความรู
และความเข
าใจ จนทํ
าให
มี
การเปลี่
ยนแปลงพฤติ
กรรมในทุ
ก ๆ ด
านได
แก
ด
านโภชนาการและยา ด
านการรั
บผิ
ดชอบต
อสุ
ขภาพ ด
านกิ
จกรรม
ประจํ
าวั
นและการพั
กผ
อน และด
านจั
ดการความเครี
ยด ประการที่
2 โปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจที่
ใช
ในการศึ
กษา
ครั้
งนี้
มี
กิ
จกรรมหลากหลายที่
ประกอบด
วยวิ
ธี
การเป
นรายกลุ
มและรายบุ
คคล โดยจั
ดกลุ
มละประมาณ 3-4 คน ใช
เวลา 50-60
นาที
จํ
านวน 4 ครั้
ง ดั
งมี
หลั
กฐานเชิ
งประจั
กษ
ในการทํ
ากิ
จกรรมรายกลุ
มของผู
ติ
ดเชื้
อเอชไอวี
ที่
ใช
ยาต
านไวรั
ส และการ
ป
องกั
นโรคเอดส
ในนั
กเรี
ยนมั
ธยมศึ
กษา พบว
า การให
คํ
าปรึ
กษากลุ
มทํ
าให
พฤติ
กรรมการดู
แลตนเองของผู
ติ
ดเชื้
อเอชไอวี
ที่
ใช
ยาต
านไวรั
สเอดส
และนั
กเรี
ยนมั
ธยมศึ
กษามี
การรั
บรู
ความรุ
นแรงของโรค และความตั้
งใจในการปฏิ
บั
ติ
ตนป
องกั
นโรค
เอดส
เพิ่
มขึ้
นกว
ากลุ
มที่
ไม
ได
รั
บคํ
าปรึ
กษากลุ
มอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
0.05 (เฉลิ
มศรี
, 2547; ชั
ยนั
นต
, ณั
ฐจาพร, และอมร
, 2553) ประการที่
3 โปรแกรมการเสริ
มสร
างพลั
งอํ
านาจที่
จั
ดให
แก
หญิ
งตั้
งครรภ
วั
ยรุ
นมุ
สลิ
มครั้
งนี้
มี
การนํ
าสามี
มาเข
าร
วม
กิ
จกรรมกั
บหญิ
งตั้
งครรภ
ตลอดระยะเวลา 9 สั
ปดาห
ซึ่
งการนํ
าสามี
เข
ามาร
วมดั
งกล
าวย
อมเท
ากั
บเป
นการให
กํ
าลั
งใจ ช
วย
เสนอความคิ
ดเห็
น และช
วยกระตุ
นหญิ
งตั้
งครรภ
ให
มี
พฤติ
กรรมการป
องกั
นการคลอดก
อนกํ
าหนดอย
างเหมะสม ดั
งมี
หลั
กฐานเชิ
งประจั
กษ
ที่
ศึ
กษาในหญิ
งตั้
งครรภ
ของภาคกลาง กล
าวว
า คู
สมรสเป
นแหล
งสนั
บสนุ
นทางสั
งคมที่
สํ
าคั
ญที่
สุ
เพราะเป
นบุ
คคลที่
มี
ความใกล
ชิ
ดสนิ
ทสนมและเป
นที่
ไว
วางใจของหญิ
งตั้
งครรภ
(รั
ศมี
, นิ
ศากร, และรุ
งทิ
พย
, 2549) และ
ประการที่
4 คู
มื
อเรื่
องพฤติ
กรรมการป
องกั
นการคลอดก
อนกํ
าหนดที่
เนื้
อหาเฉพาะเจาะจงให
หญิ
งตั้
งครรภ
วั
ยรุ
นมุ
สลิ
มกลุ
ทดลองได
อ
านและทํ
าความเข
าใจขณะมาฝากครรภ
พร
อมนํ
ากลั
บไปศึ
กษารายละเอี
ยดเพิ่
มเติ
มที่
บ
าน สอดคล
องการศึ
กษา
การนํ
าคู
มื
อมาใช
ในโปรแกรม เช
น คู
มื
อการปฏิ
บั
ติ
ตั
วด
านสุ
ขภาพของผู
ป
วยที่
ได
รั
บยาต
านไวรั
สเอดส
คู
มื
อการรั
บประทาน
ยาต
านไวรั
สเอดส
คู
มื
อการดู
แลทารกคลอดก
อนกํ
าหนด คู
มื
อโปรแกรมส
งเสริ
มความผู
กพั
นในระยะตั้
งครรภ
และคู
มื
อการ
ดู
แลแบบแกงการู
(จุ
ฬา, 2550; ฐาณิ
ชญาณ
, 2552; เนตรนภา, 2551; มณิ
สรา, 2551; รั
ชนี
, 2550) พบว
า กลุ
มทดลองมี
ผลรวม
ของคะแนนการดู
แลตนเองสู
งกว
าในกลุ
มควบคุ
มอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
ที่
ระดั
บ 0.05 ซึ่
งจากผลที่
ได
แสดงให
เห็
นว
า การ
นํ
าคู
มื
อมาเป
นส
วนประกอบในการปฏิ
บั
ติ
ตั
วจะทํ
าให
กลุ
มตั
วอย
างมี
การปฏิ
บั
ติ
ตั
วได
ดี
ยิ่
งขึ้
1...,820,821,822,823,824,825,826,827,828,829 831,832,833,834,835,836,837,838,839,840,...1102
Powered by FlippingBook