4
«¹
¬µµ¦°¥¼
n
°¡¨µ¤·
¸
Á°È
Á°¨¼
¤Ä
B. subtilis
ISW1214
Á¨¸
Ê
¥Áº
Ê
°Ä°µ®µ¦Á¨¸
Ê
¥Áº
Ê
°¸É
Ťn
¤¸
¥µ·
¸
ª³ (non selective pressure)
สุ
่
มเลื
อกทรานส์
ฟอร์
แมนท์
B. subtilis
ISW1214 [
B. subtilis
ISW1214 (pH
ent
AI)] จํ
านวน 3 โคโลนี
มาแยก
เพาะเลี
้
ยงในอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อเหลว LB ปริ
มาตร 5 มิ
ลลิ
ลิ
ตร ที่
มี
ยาปฏิ
ชี
วนะเตตราซั
ยคลิ
น ความเข้
มข้
น 15 ไมโครกรั
ม/
มิ
ลลิ
ลิ
ตร บ่
มเพาะเชื
้
อที่
อุ
ณหภู
มิ
37
๐
C ในตู
้
เลี
้
ยงเชื
้
อแบบเขย่
า (Cocono, Thailand) ที่
ความเร็
วรอบ 150 รอบต่
อนาที
เป็
น
เวลา 18-24 ชั่
วโมง แล้
วถ่
ายเชื
้
อจากทุ
กๆหลอดๆละประมาณ 1 loop ลงในอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อเหลว LB หลอดใหม่
ที่
ไม่
มี
ยา
ปฏิ
ชี
วนะเตตราซั
ยคลิ
น ปริ
มาตร 5 มิ
ลลิ
ลิ
ตร แล้
วบ่
มเพาะเชื
้
อที่
สภาวะเดิ
มเป็
นเชื
้
อรุ
่
นที่
1 และถ่
ายเชื
้
อต่
อไปจากรุ
่
นที่
1
จนถึ
งรุ
่
นที่
30 (ระยะเวลา 30 วั
น)
µ¦«¹
µ segregrational stability
แบ่
งเชื
้
อจากทุ
กหลอดที่
เลี
้
ยงในสภาวะ non selective pressure ในแต่
ละวั
น (วั
นที่
0 ถึ
งวั
นที่
30) ปริ
มาตร 100
ไมโครลิ
ตรและทํ
าเจื
อจางแบบ 10 เท่
า กระจายสารแขวนลอยเจื
อจางเชื
้
อลงบนพื
้
นผิ
วหน้
าอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อแข็
ง LB ที่
มี
หรื
อไม่
มี
ยาปฏิ
ชี
วนะเตตราซั
ยคลิ
น บ่
มเพาะเชื
้
อที่
อุ
ณหภู
มิ
37
๐
C เป็
นเวลา 18-24 ชั่
วโมง แล้
วคํ
านวณหาเปอร์
เซ็
นต์
ของ
โคโลนี
ที่
ดื
้
อยาปฏิ
ชี
วนะเตตราซั
ยคลิ
นจากสู
ตร
µ¦«¹
µ structural stability
สุ
่
มโคโลนี
จากการทํ
า segregational stability โดยสุ
่
ม ISW(1), ISW(2), ISW(3) transformed
B. subtilis
ISW1214 ของวั
นที่
6 จากอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อแข็
ง LB ที่
มี
และไม่
มี
ยาปฏิ
ชี
วนะเตตราซั
ยคลิ
นมาทํ
าการสกั
ดและยื
นยั
นดี
เอ็
นเอ
โดยวิ
ธี
freeze-thaw หรื
อคื
นรู
ปในการแช่
แข็
งหรื
อการละลายในการแช่
แข็
งที่
อุ
ณหภู
มิ
-20
๐
ซโดยมี
positive control คื
อ
entAI
ที่
มี
ขนาดดี
เอ็
นเอ 700 bp แล้
วทํ
าการยื
นยั
นพลาสมิ
ดดี
เอ็
นเอด้
วยปฏิ
กิ
ริ
ยาลู
กโซ่
พอลิ
เมอเรสโดยใช้
คู่
ของไพรเมอร์
และสภาวะในการทํ
าปฏิ
กิ
ริ
ยาเช่
นเดี
ยวกั
บ (Losteinkit และคณะ, 2001)
¨µ¦ª·
´
¥
µ¦¦o
µ¡¨µ¤·
¨¼
¤ pH
entAI
เมื่
อตั
ดพลาสมิ
ดดี
เอ็
นเอ pHY300PLK และ pOrient23 ด้
วยเอนไซม์
EcoR
I และ
Xba
I พบว่
าได้
แถบดี
เอ็
นเอขนาด
4.87 kb ของ pHY300PLK (Lane 2 ภาพที่
2) และแถบดี
เอ็
นเอ 3 ขนาดคื
อ 5.9, 0.89 และ 0.7 kb ของ pOrient23 (Lane 3
ภาพที่
2) เชื่
อมพลาสมิ
ด pHY300PLK และชิ
้
นยี
น
entAI
ด้
วยเอนไซม์
T4 DNA ligase แล้
วย้
ายสู
่
E. coli
DH5
Į
โดยวิ
ธี
heat shock transformation ปรากฏว่
าได้
ทรานสฟอร์
แมนท์
ทั
้
งหมด 2 ไอโซเลท ตั
้
งชื่
อว่
า pH
entAI
(4) และ pH
entAI
(6)
ตามลํ
าดั
บและสกั
ดพลาสมิ
ดลู
กผสมจาก
E. coli
DH5
Į
(ภาพที่
3A) ตั
ดด้
วยเอนไซม์
EcoR
I และ
Xba
I เพื่
อตรวจสอบ
ความเสถี
ยรของโครงสร้
างพลาสมิ
ดลู
กผสม (Structural stability) ดั
งกล่
าวพบว่
าทั
้
ง pH
entAI
(4) และ pH
entAI
(6) ให้
แถบดี
เอ็
นเอขนาด 4.87 kb ของ pHY300PLK และ 0.70 kb ของ
entAI
(Lane 4-5 ภาพที่
3B)
%Tetracycline resistant colony =
จํ
านวนโคโลนี
ที่
เจริ
ญบนอาหารแข็
ง LB ที่
มี
ยาปฏิ
ชี
วนะ X 100
จํ
านวนโคโลนี
ที่
เจริ
ญบนจานอาหารแข็
ง LBที่
ไม่
มี
ยาปฏิ
ชี
วนะ
113
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555