full2012.pdf - page 103

šœÎ
µ
Staphylococcus aureus
เป็
นแบคที
เรี
ยรู
ปร่
างกลม แกรมบวก ที่
มี
ความสํ
าคั
ญทางการแพทย์
ทํ
าให้
เกิ
ดโรค
ตั
งแต่
การติ
ดเชื
อที่
ผิ
วหนั
ง อาหารเป็
นพิ
ษ กลุ
มอาการช็
อคจากสารพิ
ษ (toxic shock syndrome)
ปอดอั
กเสบ ไปจนถึ
งการ
ติ
ดเชื
อในกระแสเลื
อด (septicemia)
S. aureus
เป็
นเชื
อที่
ทนต่
อสภาพแวดล้
อมได้
ดี
ทนความแห้
งแล้
งและความเข้
มข้
ของเกลื
อในปริ
มาณที่
สู
ง นอกจากนั
นยั
งพบเป็
นเชื
อประจํ
าถิ่
นอยู
ในช่
องจมู
ก ลํ
าคอและผิ
วหนั
งของคนปกติ
(ภั
ทรชั
ย,
2550) หลั
งจากมี
การใช้
ยาเพนนิ
ซิ
ลลิ
นรั
กษาโรคติ
ดเชื
อนี
ได้
ไม่
นานก็
เริ่
มพบสายพั
นธุ
ที่
ดื
อยาและมี
การแพร่
กระจายอย่
าง
รวดเร็
ว ปั
จจุ
บั
นพบว่
าร้
อยละ 90 ของ
S. aureus
ดื
อต่
อยากลุ
มนี
ต่
อมายาเมธิ
ซิ
ลลิ
นถู
กนํ
ามาใช้
แทนเพนนิ
ซิ
ลลิ
นซึ
งใช้
ได้
ไม่
นานก็
เริ่
มมี
สายพั
นธุ
ที่
ดื
อต่
อยาดั
งกล่
าว เรี
ยกว่
า methicillin-resistant
S. aureus
(MRSA) นอกจาก MRSA จะดื
อยาใน
กลุ
มเพนนิ
ซิ
ลลิ
นและเบต้
าแลคแตมแล้
วเชื
อยั
งดื
อยาปฏิ
ชี
วนะกลุ
มอื่
นอี
กหลายชนิ
ด ทํ
าให้
การรั
กษาทํ
าได้
ยาก มี
อั
ตรา
เสี่
ยงต่
อการเสี
ยชี
วิ
ตสู
โดยทั่
วไปการติ
ดเชื
อ MRSA มั
กเกิ
ดขึ
นในโรงพยาบาล เรี
ยกว่
า Hospital associated-MRSA
(HA-MRSA) โดยพบในผู
ป่
วยที่
มี
ปั
จจั
ยเสี่
ยง เช่
น มี
แผลผ่
าตั
ดหรื
อใส่
สายสวนต่
างๆ แต่
ในปั
จจุ
บั
นเริ่
มมี
การระบาดของ
MRSA ในชุ
มชน เรี
ยกว่
า Community-associated MRSA (CA-MRSA) โดยทั่
วไป CA-MRSA ส่
วนมากก่
อให้
เกิ
ดการ
ติ
ดเชื
อที่
ไม่
รุ
นแรงที่
ผิ
วหนั
งและเนื
อเยื่
ออ่
อน เช่
น ฝี
หนอง แต่
ในบางรายอาจพบการติ
ดเชื
อที่
รุ
นแรง เช่
น การติ
ดเชื
อใน
กระแสเลื
อด โรคหนั
งเน่
า (necrotizing fasciitis) กลุ
มอาการช็
อคจากสารพิ
ษ และปอดอั
กเสบ (necrotizing pneumonia)
ปั
จจุ
บั
นมี
รายงานการติ
ดเชื
อ CA-MRSA และระบาดในหลายประเทศทั่
วโลก เช่
น อเมริ
กา แคนาดา ออสเตรเลี
ย และ
หลายประเทศในยุ
โรป (Deleo
et al
., 2010) รวมถึ
งใกล้
บ้
านเราที่
สุ
ดคื
อมาเลเซี
ย (Nor Shamsudin
et al
., 2008) แต่
ใน
ประเทศไทยยั
งไม่
มี
รายงานถึ
งสายพั
นธุ
ดั
งกล่
าว
S. aureus
เป็
นเชื
อประจํ
าถิ่
นในโพรงจมู
ก พบได้
ประมาณร้
อยละ 20-35 ของคนปกติ
การพบเชื
อในโพรงจมู
มี
ความสั
มพั
นธ์
กั
บโอกาสในการก่
อโรคของเชื
อ นอกจากนั
นยั
งเป็
นแหล่
งของการแพร่
เชื
ออี
กด้
วย (สุ
ทธิ
รั
ตน์
, 2554) ใน
ประเทศสหรั
ฐอเมริ
กาสามารถพบ MRSA ในคนปกติ
ร้
อยละ 0.84 (Mainous
et al
., 2006) ในประเทศอิ
นเดี
ยพบ MRSA
ในเด็
กวั
ยเรี
ยนร้
อยละ 3.06 (Ramana
et al
., 2009) แต่
ในประเทศไทยยั
งไม่
มี
ตั
วเลขที่
ชั
ดเจน จากรายงานการศึ
กษาในปี
พ.ศ. 2539 และปี
2549 ในกลุ
มนั
กศึ
กษายั
งไม่
พบรายงานของเชื
อ MRSA (Dhiraputra
et al
., 1996; มณฑล และคณะ,
2549) จากความสํ
าคั
ญของ CA-MRSA ในทางการแพทย์
การเฝ้
าระวั
งเชื
อนี
ในชุ
มชนจึ
งมี
ความสํ
าคั
ญอย่
างมาก ดั
งนั
งานวิ
จั
ยนี
จึ
งมี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อศึ
กษาความชุ
กของการเป็
นพาหะของเชื
S. aureus
โดยเฉพาะ MRSA ในโพรงจมู
กของ
คนปกติ
จากกลุ
มตั
วอย่
างนิ
สิ
ตมหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ วิ
ทยาเขตพั
ทลุ
ง ตลอดจนศึ
กษาแบบแผนการดื
อยาต้
านจุ
ลชี
พชนิ
ต่
างๆ ของเชื
อที่
แยกได้
เพื่
อเป็
นข้
อมู
ลพื
นฐานในการเฝ้
าระวั
งการแพร่
กระจายของเชื
อในชุ
มชนต่
อไป
ª·
›¸
„µ¦ª·
‹´
¥
µ¥¡´
œ›»
r
S. aureus
¤µ˜¦“µœ
S. aureus
TISTR 118 เป็
นตั
วควบคุ
มทางบวกสํ
าหรั
บการทดสอบการสร้
างเอนไซม์
เลคซิ
ทิ
เนส คาทาเลสและ
โคแอกกู
เลส
S. epidermidis
TISTR 518 เป็
นตั
วควบคุ
มทางลบสํ
าหรั
บการทดสอบสร้
างเอนไซม์
เลคซิ
ทิ
เนสและโค-
แอกกู
เลส
S. aureus
TISTR 118 และ MRSA ที่
แยกได้
จากผู
ป่
วยในโรงพยาบาลอานั
นทมหิ
ดล จั
งหวั
ดลพบุ
รี
เป็
นตั
ควบคุ
มความเที่
ยงตรง (validity) ของการทดสอบความไวต่
อยาปฏิ
ชี
วนะด้
วยวิ
ธี
Kirby-Bauer disk diffusion
103
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,93,94,95,96,97,98,99,100,101,102 104,105,106,107,108,109,110,111,112,113,...1917
Powered by FlippingBook