full2012.pdf - page 663

3
สะท้
อนผลการสอน(Reflect) โดยผู
วิ
จั
ยในฐานะครู
ผู
สอนได้
ดํ
าเนิ
นการแสวงหาข้
อมู
ลหรื
อดึ
งปั
ญหาในการเรี
ยนการสอน
ออกมา และหาวิ
ธี
การเพืÉ
อแก้
ไขปั
ญหาดั
งกล่
าว แล้
วนํ
าผลทีÉ
ได้
ไปแก้
ปั
ญหา ปรั
บปรุ
งหรื
อเปลีÉ
ยนแปลง เพืÉ
อพั
ฒนาการจั
ดการ
เรี
ยนการสอนในชั
Ê
นเรี
ยนและนํ
าไปสู่
การปฏิ
บั
ติ
การสอนทีÉ
ดี
ทีÉ
สุ
ด (Best Practice) และงานวิ
จั
ยนี
Ê
เป็
นระยะวิ
จั
ยทีÉ
ř ของ
วิ
ทยานิ
พนธ์
ของผู
วิ
จั
ยทีÉ
สํ
ารวจแนวคิ
ดเกีÉ
ยวกั
บความเข้
าใจเรืÉ
องธรณี
พิ
บั
ติ
ภั
ยของนั
กเรี
ยนเพืÉ
อนํ
าไปพั
ฒนานั
กเรี
ยนให้
มี
ความรู
ความเข้
าใจและสามารถนํ
าความรู
ไปใช้
ประโยชน์
ได้
ต่
อไปในอนาคต และเป็
นความรู
พื
Ê
นฐานให้
ครู
ผู
สอนนํ
าไปจั
ดกิ
จกรรม
การเรี
ยนการสอนต่
อไปได้
โดยผู
วิ
จั
ยได้
สํ
ารวจแนวคิ
ดของนั
กเรี
ยนระดั
บชั
Ê
นประถมศึ
กษาชั
Ê
นปี
ทีÉ
Ş ทีÉ
เป็
นกลุ่
มทีÉ
ศึ
กษา ในช่
วง
เดื
อน มกราคม พ.ศ. 2555
เครืÉ
องมื
อทีÉ
ใช้
ในการวิ
จั
เครืÉ
องมื
อทีÉ
ใช้
ได้
แก่
แบบวั
ดแนวคิ
ด เรืÉ
อง ธรณี
พิ
บั
ติ
ภั
ย ทีÉ
ครอบคลุ
มแนวคิ
ดเรืÉ
องดิ
นถล่
ม ซึ
É
งลั
กษณะของแบบ
วิ
นิ
จฉั
ยแนวคิ
ดจะเป็
นแบบวั
ดปลายเปิ
ดทีÉ
ให้
นั
กเรี
ยนเขี
ยนคํ
าตอบด้
วยภาษาของตนเองตามความเข้
าใจทีÉ
ครอบคลุ
มแนวคิ
ทั
Ê
งหมด คื
อ ความหมายและประเภทของธรณี
พิ
บั
ติ
ภั
ย กระบวนการเกิ
ดดิ
นถล่
ม พื
Ê
นทีÉ
เสีÉ
ยงภั
ยดิ
นถล่
ม ผลกระทบและแนว
ทางการปฏิ
บั
ติ
ตนให้
ปลอดภั
ยจากดิ
นถล่
ม มี
ขั
Ê
นตอนในการสร้
างดั
งต่
อไปนี
Ê
1.ศึ
กษาหลั
กสู
ตรแกนกลางการศึ
กษาขั
Ê
นพืÊ
นฐาน พุ
ทธศั
กราช 2551 กลุ
มสาระการเรี
ยนรู
วิ
ทยาศาสตร์
หน่
วยการเรี
ยนรู
เรืÉ
องธรณี
พิ
บั
ติ
ภั
ย และเอกสาร ตํ
าราต่
างๆ ทีÉ
เกีÉ
ยวข้
อง เพืÉ
อแนวทางในการกํ
าหนดกรอบแนวคิ
ดทีÉ
นั
กเรี
ยน
ต้
องศึ
กษา
2.ศึ
กษาแนวคิ
ด ทฤษฏี
หลั
กการ และวิ
ธี
การ เกีÉ
ยวกั
บการสร้
างแบบวิ
นิ
จฉั
ยแนวคิ
ดจากเอกสารและงานวิ
จั
ยทีÉ
เกีÉ
ยวข้
อง
3.จั
ดทํ
าตารางวิ
เคราะห์
ข้
อสอบและเขี
ยนข้
อสอบ
4.นํ
าแบบวั
ดทีÉ
เป็
นคํ
าถามปลายเปิ
ดจํ
านวน 6 ข้
อ ทีÉ
สร้
างขึ
Ê
น เสนอกรรมการทีÉ
ปรึ
กษาวิ
ทยานิ
พนธ์
และผู
เชีÉ
ยวชาญ
ตามลํ
าดั
บ เพืÉ
อตรวจสอบและให้
ข้
อคิ
ดเห็
นในด้
านเนื
Ê
อหาและความเหมาะสมของภาษา ซึ
É
งประเด็
นทีÉ
ให้
ตรวจสอบ คื
อ ความ
ถู
กต้
องของแนวคิ
ดหลั
กและแนวคิ
ดย่
อยซึ
É
งจะใช้
เป็
นกรอบในการตรวจคํ
าตอบ ความตรงเชิ
งเนื
Ê
อหา การสืÉ
อความหมายของ
คํ
าถาม และภาพประกอบทีÉ
ใช้
5. ปรั
บปรุ
งแก้
ไขแบบวิ
นิ
จฉั
ยแนวคิ
ดให้
สมบู
รณ์
และนํ
าไปทดลองใช้
กั
บกลุ
มประชากรที
É
ไม่
ใช่
กลุ
มทีÉ
ศึ
กษา จํ
านวน 1 ห้
องเรี
ยน เพืÉ
อหาค่
าความเชื
É
อมั
É
นของข้
อสอบ (ค่
า R = 0.951) ตรวจสอบความเข้
าใจในภาษาทีÉ
เขี
ยนการ
สืÉ
อความหมาย และระยะเวลาในการทํ
าแบบวั
ด (นั
กเรี
ยนใช้
เวลา 60 นาที
) จากนั
Ê
นนํ
าแบบวั
ดทีÉ
ผ่
านการแก้
ไขและปรั
บปรุ
แล้
ว เสนอต่
อผู
เชีÉ
ยวชาญด้
านเนื
Ê
อหาอี
กครั
Ê
ง เพืÉ
อรั
บข้
อเสนอแนะในเรืÉ
องรู
ปแบบของแบบวั
ด ความถู
กต้
องของภาษาทีÉ
ใช้
การ
สืÉ
อความหมายของข้
อคํ
าถามและรู
ปภาพ
6.นํ
าแบบวิ
นิ
จฉั
ยแนวคิ
ดทีÉ
ได้
ไปเก็
บข้
อมู
ลจริ
งกั
บกลุ่
มทีÉ
ศึ
กษา
การเก็
บรวบรวมข้
อมู
ระยะเวลาในการเก็
บรวบรวมข้
อมู
ลใช้
เวลาตั
Ê
งแต่
วั
นทีÉ
16 – 27 เดื
อนมกราคม พ.ศ. 2555 โดยนํ
าแบบวิ
นิ
จฉั
แนวคิ
ดไปเก็
บข้
อมู
ลจริ
งกั
บกลุ่
มทีÉ
ศึ
กษา จากนั
Ê
นนํ
ามาตรวจเพืÉ
อจั
ดกลุ่
มแนวคิ
663
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,653,654,655,656,657,658,659,660,661,662 664,665,666,667,668,669,670,671,672,673,...1917
Powered by FlippingBook