289
บทนา
ในปั
จจุ
บั
นโลกเกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงต่
างๆ มากขึ้
นมี
การใช้
เทคโนโลยี
รวมทั้
งนวั
ตกรรมต่
างๆ เ กิ
ดความเจริ
ญเติ
บโตทั้
ง
ด้
านอุ
ตสาหกรรม ด้
านวิ
ถี
การใช้
ชี
วิ
ต เมื่
อมี
กิ
จกรรมต่
างๆ สิ่
งที่
ควรคานึ
งคื
อผลกระทบจากกิ
จกรรมต่
างๆ โดยเฉพาะผลกระทบ
ทางด้
านสิ่
งแวดล้
อม ซึ่
งสั
งเกตได้
จากสภาวะโลกร้
อน สภาพภู
มิ
อากาศของโลกที่
เปลี่
ยนแปลงไป จึ
งปฏิ
เสธไม่
ได้
ว่
า ปั
จจุ
บั
น
มนุ
ษย์
กาลั
งเผชิ
ญกั
บเหตุ
ภั
ยพิ
บั
ติ
หลากหลายที่
ดู
จะรุ
นแรงกว่
าที่
เคยถู
กบั
นทึ
กไว้
ในประวั
ติ
ศาสตร์
รวมถึ
งประเทศไทยที่
เหตุ
ภั
ย
พิ
บั
ติ
ทางธรรมชาติ
หลายอย่
างเกิ
ดขึ้
นเหนื
อความคาดหมาย ไม่
ว่
าจะเป็
นน้
าท่
วมหนั
ก แผ่
นดิ
นไหวรุ
นแรง หรื
อแม้
กระทั่
งคลื่
น
ขนาดยั
กษ์
ที่
สร้
างความเดื
อดร้
อนให้
กั
บประชาชนอย่
างมาก ล่
าสุ
ด เมื่
อวั
นที่
5 พฤษภาคม 2558 เวลาประมาณ 18.00 น. เกิ
ด
แผ่
นดิ
นไหว รั
บรู้
แรงสะเทื
อนได้
ในหลายจั
งหวั
ดภาคเหนื
อของไทย เช่
น เชี
ยงราย เชี
ยงใหม่
แพร่
ประชาชนรั
บรู้
ถึ
งแรงสั่
นไหว
แรงสั่
นสะเทื
อน 6.1 ริ
กเตอร์
มี
ศู
นย์
กลางอยู่
ที่
อ.พาน จ.เชี
ยงราย [1] ผลกระทบที่
เกิ
ดขึ้
นจากแผ่
นดิ
นไหวจะก่
อให้
เกิ
ดความ
เสี
ยหายต่
อสิ่
งก่
อสร้
างโดยเฉพาะอาคารและบ้
านพั
กอาศั
ย การตกหล่
นของวั
ตถุ
ในที่
สู
ง อุ
ทกภั
ย ประเทศไทยประสบปั
ญหา
อุ
ทกภั
ยเป็
นประจาทุ
กปี
ลมมรสุ
มทาให้
มี
ฝนตกหนั
กและเกิ
ดน้
าท่
วมในหลายจั
งหวั
ดประชาชนได้
รั
บความเดื
อดร้
อน สิ่
ง
สาธารณประโยชน์
และทรั
พย์
สิ
นของประชาชนได้
รั
บความเสี
ยหาย และในระยะหลั
งปั
ญหาอุ
ทกภั
ยเริ่
มมี
ความรุ
นแรงมากขึ้
น
[2] สาเหตุ
หนึ่
งเกิ
ดจากสารระเหยง่
ายที่
ปล่
อยออกสู่
บรรยากาศโดยไม่
มี
การบาบั
ดก่
อนปล่
อยออกสู่
บรรยากาศ
กลุ่
มสารระเหยง่
าย (VOC
S
) ถู
กจั
ดในกลุ่
มสารมี
พิ
ษโดย องค์
การพิ
ทั
กษ์
สิ่
งแวดล้
อมของสหรั
ฐอเมริ
กา (US EPA,
1992) ซึ่
งพบว่
ามี
อั
นตรายกั
บผู้
สั
มผั
ส ทั้
งยั
งสามารถแพร่
กระจายออกไปสู่
บรรยากาศทั่
วไป ปนเปื้
อนน้
า หรื
อ น้
าใต้
ดิ
น จึ
ง
จาเป็
นอย่
างยิ่
งเพื่
อหาวิ
ธี
การบาบั
ดสารระเหยง่
ายเหล่
านี้
จากสถานการณ์
ปั
จจุ
บั
นพบว่
า ปั
ญหามลภาวะเรื่
องกลิ่
นเป็
นปั
ญหา
ของโรงงาน เนื่
องจากพนั
กงานได้
รั
บสารเคมี
จากระบบทางเดิ
นหายใจ และสไตรี
นซึ่
งเป็
นสารอิ
นทรี
ย์
ระเหยง่
าย หากได้
รั
บเป็
น
ประจาสารเคมี
เหล่
านั้
นสามารถสะสมในร่
างกาย ดั
งนั้
นจะเป็
นสิ่
งที่
ดี
หากมี
ระบบบาบั
ดอากาศเสี
ยก่
อนปล่
อยออกสู่
ภายนอก
และลดความเข้
มข้
นของสารเคมี
ในกระบวนการผลิ
ต อี
กทั้
งลดความเสี่
ยงกั
บพนั
กงานในการเกิ
ดโรคต่
างๆ ตามมาตรวจวั
ดค่
า
VOCs เท่
ากั
บ 69 ppm (100ppm)[3,4] แม้
ว่
าค่
า VOC
S
จะผ่
านมาตรฐาน แต่
ยั
งส่
งผลกระทบให้
เกิ
ดความราคาญและผลต่
อ
สุ
ขภาพอนามั
ยของพนั
กงานรวมทั้
งชุ
มชนรอบข้
าง
ในงานวิ
จั
ยนี้
เป็
นการศึ
กษาความเป็
นไปได้
ของเทคโนโลยี
ในการบาบั
ดอากาศเสี
ย ในโรงงานผลิ
ต กรณี
ศึ
กษา
โรงงานผลิ
ตถั
งไฟเบอร์
กล๊
าส
เพื่
อบาบั
ดสารอิ
นทรี
ย์
ระเหยง่
าย (VOC
S
)จากกระบวนการผลิ
ตก่
อนปล่
อยออกสู่
ธรรมชาติ
โดย
เกิ
ดผลกระทบด้
านสั
งคมและสิ่
งแวดล้
อมน้
อยที่
สุ
ด โดยในการศึ
กษาจะวิ
เคราะห์
ปั
จจั
ยทาง ด้
านเทคนิ
ควิ
ศวกรรม ด้
านสั
งคม
และสิ่
งแวดล้
อม ด้
านเศรษฐศาสตร์
วิ
ธี
การวิ
จั
ย
งานวิ
จั
ยนี้
เป็
นการศึ
กษาเทคโนโลยี
บาบั
ดอากาศเสี
ย หลั
งจากเลื
อกเทคโนโลยี
ที่
เหมาสมแล้
ว ได้
ทาการทดลองติ
ดตั้
ง
ระบบบาบั
ดอากาศเสี
ย จานวน 1 ชุ
ด ชุ
ดทดลองมี
เส้
นผ่
าศู
นย์
กลางถั
งเล็
กกว่
าขนาดจริ
งประมาณ 3 เท่
า วั
ดผลด้
วยการ
ตรวจวั
ดการแพร่
กระจายVOC
S
ในกระบวนการสเปรย์
ถั
งไฟเบอร์
กล๊
าส ซึ่
งวั
ดค่
าเฉลี่
ยก่
อนเข้
าระบบและออกจากระบบ นามา
คิ
ดเปอร์
เซ็
นที่
ลดได้
สามารถกาหนดแนวทางลดค่
า VOC
S
โดยติ
ดตั้
งระบบบาบั
ดอากาศเสี
ยจริ
งจานวน 1 ชุ
ด ทั้
งนี้
การติ
ดตั้
ง 1
ชุ
ดยั
งไม่
สามารถบาบั
ดอากาศได้
ทุ
กพื้
นที่
หากให้
เพี
ยงพอต่
อการสเปรย์
ชิ้
นงานทุ
กจุ
ดต้
องเพิ่
มอี
ก 3 จุ
ด รวมทั้
งหมด 4 จุ
ด
จากนั้
นจั
ดทาแผนการลดค่
า VOC
S
ที่
เกิ
ดขึ้
นทุ
กจุ
ดเสปรย์
ชิ้
นงาน โดยวางแผนวิ
เคราะห์
หลั
กการด้
านเศรษฐศาสตร์
เพื่
อให้
ทราบถึ
งความเป็
นไปได้
ในการลงทุ
น โดยเก็
บข้
อมู
ลปริ
มาณสารอิ
นทรี
ย์
ก่
อนเข้
าระบบบาบั
ดอากาศเสี
ยและศึ
กษาหลั
กการ
ทางานระบบ เพื่
อออกแบบและติ
ดตั้
ง ดั
งนี้