full2010.pdf - page 1544

1506
และ ความชื้
น 95 % เป
นเวลา 24 ชั่
วโมง หลั
งจากนั้
นจึ
งนํ
ามาศึ
กษาการมี
ชี
วิ
ตรอดของเซลล
โดยวิ
ธี
MTT (3-(4,5-
dimethylthiazole-2-yl)-2,5-diphenyltetrazolium bromide) assay.
…´Ê
œ˜°œ„µ¦«¹
„¬µ„µ¦¤¸
¸
ª·
˜¦°—…°ŠÁŽ¨¨r
×¥ª·
›¸
MTT assay
เมื่
อครบเวลา 24 ชั่
วโมงของการบ
มสารสกั
ดจากเมล็
ดลิ้
นจี่
กั
บเซลล
มะเร็
งช
องปากหรื
อเซลล
เม็
ดเลื
อดขาว
นํ
าอาหารเลี้
ยงเซลล
ออกแล
วเติ
ม 0.5 ml ของ 0.5 mg/ml MTT ที่
ผสมกั
บอาหารลงในแต
ละหลุ
ม แล
วนํ
าไปบ
มในตู
ควบคุ
อุ
ณหภู
มิ
37 องศาเซลเซี
ยส ปริ
มาณก
าซ CO
2
5% และความชื้
น 95 % เป
นเวลา 4 ชั่
วโมง เพื่
อที่
จะให
MTT ถู
กเมทาบอไลท
เมื่
อครบเวลานํ
าอาหารเลี้
ยงเซลล
ที่
มี
MTT ออก แล
วคว่ํ
า plate ลงบนกระดาษซั
บเพื่
อเอาอาหารที่
เหลื
อออกแล
วเติ
DMSO ลงไปเพื่
อไปละลาย formazan (MTT metabolic product) ออกมาหลั
งจากนั้
นผสม formazan ที่
ออกมากั
บ DMSO
ให
เข
ากั
นแล
วนํ
าไปวั
ดค
าการดู
ดกลื
นแสงที่
560 nm โดยทํ
าการทดสอบซ้
าอี
ก 3 ครั้
งแต
ละครั้
งทํ
าการทํ
าสอบซ้ํ
าอี
ก 3
การทดสอบย
อย
Ÿ¨„µ¦ª·
‹´
¥Â¨³°£·
ž¦µ¥Ÿ¨
จากการศึ
กษาฤทธิ์
ต
านเซลล
มะเร็
งช
องปากของสารสกั
ดจากเมล็
ดลิ้
นจี่
ในช
วงความเข
มข
น 17.5-175 μg/ml
พบว
าสารสกั
ดดั
งกล
าวสามารถยั
บยั้
งการเจริ
ญของเซลล
มะเร็
งช
องปากได
ร
อยละ 50 ที่
ความเข
มข
น 135.0
P
g/ml
(IC
50
=135.0 μg/ml) และในช
วงความเข
มข
น 35-175
P
g/ml พบว
าทํ
าให
เซลล
มะเร็
งลดลงอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
(p
<0.05) (ภาพที่
1) ส
วนตั
วทํ
าละลาย DMSO ที่
ใช
ทดสอบในช
วงความเข
มข
น 0.1-1.0 % พบว
าไม
มี
ผลต
อเซลล
มะเร็
ช
องปาก จากผลการศึ
กษาครั้
งนี้
เป
นการศึ
กษาแรกที่
พบว
าสารสกั
ดเมทานอลจากเมล็
ดลิ้
นจี่
สามารถยั
บยั้
งเซลล
มะเร็
งช
อง
ปากได
ซึ่
งผลการวิ
จั
ยครั้
งนี้
มี
ความสอดคล
องกั
บผลการศึ
กษาที่
ผ
านมาที่
พบว
าเปลื
อกของสารสกั
ดจากลิ้
นจี่
มี
ฤทธิ์
ยั
บยั้
เซลล
มะเร็
งเต
านม (Zhao, 2006; Wang
et al
., 2006) และเซลล
มะเร็
งตั
บ (Wang, 2006) โดยสารสกั
ดเอทานอลจากเปลื
อก
ลิ้
นจี่
สามารถยั
บยั้
งเซลล
มะเร็
งเต
านมได
ร
อยละ 50 ที่
ความเข
มข
น 80.0
P
g/ml (Wang, 2006) สารสกั
ดจากเปลื
อกลิ้
นจี่
ประกอบไปด
วยสารสํ
าคั
ญที่
มี
ฤทธิ์
ต
านเซลล
มะเร็
งเต
านมคื
อ epicatechin และ procyanidin B2 โดยสารทั้
งสองสามารถ
ยั
บยั้
งเซลล
มะเร็
งได
ร
อยละ 50 ที่
ความเข
มข
น 102
P
g/ml และ 99
P
g/ml ตามลํ
าดั
บ (Zhao, 2006) ส
วนกลไกการทํ
าลาย
เซลล
มะเร็
งเกิ
ดจากการทํ
าลาย DNA การยั
บยั้
งการแบ
งตั
วของเซลล
มะเร็
งและเหนี่
ยวนํ
าให
เซลล
ตายแบบอะพอพโทซี
(Wang, 2006) นอกจากนั้
นรายงานการวิ
จั
ยที่
ผ
านมายั
งพบอี
กว
าสารสกั
ดจากเปลื
อกลิ้
นจี่
สามารถยั
บยั้
งก
อนมะเร็
งใน
สั
ตว
ทดลองได
อี
กด
วย (Wang
et al
., 2006)
สารสกั
ดจากเมล็
ดลิ้
นจี่
ในช
วงความเข
มข
นที่
ทดสอบคื
อ 17.5-105.0 μg/ml ไม
ได
ทํ
าให
เซลล
เม็
ดเลื
อดขาวปกติ
ลดลงอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
ยกเว
นที่
ความเข
มข
นสู
งสุ
ดที่
ใช
ทดสอบคื
อ 175.0 μg/ml ทํ
าให
เซลล
เม็
ดเลื
อดขาวปกติ
ลดลงอย
างมี
นั
ยสํ
าคั
ญทางสถิ
ติ
(p
<0.05) (ภาพที่
2) ส
วนตั
วทํ
าละลาย DMSO ในช
วงความเข
มข
น 0.1-1.0 % พบว
าไม
มี
ผลต
อจํ
านวนซลล
เม็
ดเลื
อดขาวปกติ
ผลการศึ
กษาครั้
งนี้
แตกต
างจากงานวิ
จั
ยหนึ่
งที่
พบว
าสารสกั
ดที่
ได
จากเปลื
อกลิ้
นจี่
ช
วยปรั
บระบบภู
มิ
คุ
มกั
น โดยสามารถกระตุ
นการเจริ
ญเติ
บโตของเซลล
ม
ามได
ที่
ความเข
มข
น 12.5
P
g/ml (Zhao, 2006)
ทั้
งนี้
อาจเนื่
องมาจากความแตกต
างกั
นขององค
ประกอบจากเปลื
อกและเมล็
ด ระยะเวลา ความเข
มข
นของสารสกั
ชนิ
ดของเซลล
และสภาวะที่
ใช
ในการเลี้
ยงเซลล
การทดสอบความเป
นพิ
ษต
อเซลล
เม็
ดเลื
อดขาวปกติ
ในครั้
งนี้
เป
นข
อมู
ลที่
1...,1534,1535,1536,1537,1538,1539,1540,1541,1542,1543 1545,1546,1547,1548,1549,1550,1551,1552,1553,1554,...2023
Powered by FlippingBook