full2010.pdf - page 1552

1514
ž{
‹‹´
¥œ´
œ»
œ
เพศของผู
ดู
แล ผู
ดู
แลส
วนใหญ
เป
นเพศหญิ
งร
อยละ 84.80 ซึ่
งจากลั
กษณะทางสั
งคมและวั
ฒนธรรมของไทยเพศ
หญิ
งจะถู
กอบรมให
คอยดู
แลครอบครั
ว และสั
งคมคาดหวั
งให
ผู
หญิ
งดู
แลครอบครั
ว (พิ
กุ
ล, 2540) ซึ่
งสอดคล
องกั
บการศึ
กษาของ
จารุ
วรรณ (2544) ที่
กล
าวว
า เพศหญิ
งจะถู
กอบรมเลี้
ยงดู
และปลู
กฝ
งให
เป
นผู
ดู
แลบ
านและสมาชิ
กในครอบครั
วเช
น เด็
กเล็
และผู
สู
งอายุ
ดั
งนั้
นเพศหญิ
งจึ
งยอมรั
บบทบาทผู
ดู
แลได
ง
ายกว
าเพศชาย (วิ
มลรั
ตน
, 2537)
อายุ
ของผู
ดู
แล ผู
ดู
แลมี
อายุ
อยู
ในช
วง 31 - 40 ป
มากที่
สุ
ด ร
อยละ 39.00 (อายุ
เฉลี่
ย 39.91 ป
) จั
ดเป
นวั
ยผู
ใหญ
ทํ
ให
มี
ประสบการณ
และสามารถพิ
จารณาเหตุ
การณ
ได
อย
างรอบคอบ (ชู
ชื่
น, 2541) และเมื่
อพิ
จารณาป
จจั
ยด
านแนวคิ
ดของ
โอเร็
ม (Orem, 2001) เชื่
อว
าอายุ
เป
นป
จจั
ย พื้
นฐานส
วนบุ
คคลที่
บ
งชี้
ถึ
งระดั
บของพั
ฒนาการ ภาวะสุ
ขภาพ และความสมบู
รณ
ทาง
วุ
ฒิ
ภาวะ และจะพั
ฒนาการเต็
มที่
ในวั
ยผู
ใหญ
ดั
งนั้
นในวั
ยผู
ใหญ
จึ
งถื
อว
าเป
นวั
ยที่
ยั
งมี
ภาวะสุ
ขภาพดี
มี
วุ
ฒิ
ภาวะทางอารมณ
และ
มี
งานทํ
าที่
มั่
นคง ทํ
าให
มี
ความพร
อมในการดู
แลสุ
ขภาพของผู
อื่
น ทํ
าให
มี
ศั
กยภาพที่
เพี
ยงพอที่
จะจั
ดการดู
แลบุ
คคลที่
ต
องการการ
ดู
แล (Orem, 2001)
อาชี
พ จากการศึ
กษาพบว
าผู
ดู
แลเป
นแม
บ
าน และ เกษตรกรรมเท
ากั
นคื
อ ร
อยละ 18.10 และไม
มี
อาชี
พ ร
อยละ
12.40 ซึ่
งสามารถอธิ
บายได
ว
าผู
ดู
แลส
วนใหญ
สามารถบริ
หารจั
ดการเวลาได
อย
างอิ
สระ สอดคล
องกั
บการศึ
กษาของไพริ
นทร
(2543) ที่
พบว
าอาชี
พเป
นป
จจั
ยสนั
บสนุ
นให
บุ
คคลมี
ความสามารถในการดู
แลแตกต
างกั
นโดยเฉพาะอาชี
พ ที่
ปฏิ
บั
ติ
งานอย
างอิ
สระไม
มี
การกํ
าหนด เวลาที่
แน
นอน ผู
ดู
แลสามารถจั
ดการกั
บเวลาในการดู
แลผู
ป
วยได
ดี
กว
าผู
ดู
แลที่
มี
อาชี
พ ซึ่
ถู
กกํ
าหนด เวลาไว
ความสั
มพั
นธ
กั
บผู
ป
วย ซึ่
งจากการศึ
กษาครั้
งนี้
พบว
าผู
ดู
แลส
วนใหญ
เป
นบุ
ตร ร
อยละ 66.70 โดยบทบาทดั
งกล
าว
สอดคล
องกั
บบทบั
ญญั
ติ
ในศาสนาอิ
สลามที่
กล
าวถึ
งบทบาทของบุ
ตรต
อบิ
ดา มารดาอย
างชั
ดเจน คื
อให
ความเคารพยกย
องดู
แล
เอาใจใส
กตั
ญู
และดู
แลปรนนิ
บั
ติ
เมื่
อบิ
ดามารดา เเก
ชรา (บรรจง, 2543) ซึ่
งอิ
สลามให
ความสํ
าคั
ญในการทํ
าดี
ต
อพ
อแม
เป
นอั
นดั
บสองรองจากการเคารพภั
กดี
ต
ออั
ลลอฮฺ
(มานี
, 2544)
ป
จจั
ยขั
ดขวาง
ระดั
บการศึ
กษาพบว
า ผู
ดู
แลจบการศึ
กษาระดั
บประถมศึ
กษาร
อยละ 45.70 รองลงมา คื
อไม
ได
รั
บการศึ
กษาร
อยละ
18.10 ซึ่
งจากการศึ
กษาที่
พบว
าผู
ดู
แล มี
ระดั
บการศึ
กษาที่
ค
อนข
างต่ํ
า ทํ
าให
การรั
บข
าวสารต
างๆ และเข
าใจในสิ่
งที่
รั
บรู
ได
ยาก
สอดคล
องกั
บการศึ
กษาของชุ
ลี
พร (2545) ที่
พบว
าการศึ
กษามี
ผลต
อการพั
ฒนาสติ
ป
ญญา คิ
ดพิ
จารณาสิ่
งต
างๆอย
างมี
เหตุ
ผลมี
ความเข
าใจในสิ่
งแวดล
อมหรื
อการแสดงออกของบุ
คคลอื่
นได
อย
างถู
กต
องมากกว
าผู
ที่
ไม
ได
รั
บการการศึ
กษา หรื
อมี
การศึ
กษาที่
ด
อยกว
¦³—´
„µ¦¤¸
n
ªœ¦n
ª¤¦µ¥…´Ê
œ˜°œ
สํ
าหรั
บค
าคะเเนนการมี
ส
วนร
วมของผู
ดู
แลผู
สู
งอายุ
มุ
สลิ
มที่
เป
นเบาหวาน พบว
าขั้
นตอนการมี
ส
วนร
วมในปฎิ
บั
ติ
กิ
จกรรมการดู
แลมี
ค
าคะเเนนสู
งที่
สุ
ด (
&
= 2.11, SD = 0.62) และเป
นเพี
ยงขั้
นตอนเดี
ยวที่
มี
ระดั
บการมี
ส
วนร
วมอยู
ในระดั
บสู
ซึ่
งสามารถอธิ
บายได
ว
าการเข
าไปมี
ส
วนร
วมในการปฎิ
บั
ติ
กิ
จกรรมในการจั
ดการด
านอาหารของผู
สู
งอายุ
เช
น การจั
ดหาอาหาร
การปรุ
งอาหารให
รั
บประทาน เป
นสิ่
งที่
ทํ
าได
ง
าย ไม
ต
องใช
ทั
กษะ หรื
อกระบวนการคิ
ดวิ
เคราะห
เป
นการปฎิ
บั
ติ
ตามคํ
าแนะนํ
ของเจ
าหน
าที่
สาธารณสุ
ขเป
นส
วนใหญ
ประกอบกั
บผู
ดู
แลที่
เป
นมุ
สลิ
มเน
นในเรื่
องการปฏิ
บั
ติ
ของบุ
ตรต
อพ
อแม
ที่
ชราภาพถื
เป
นการกระทํ
าที่
สู
งส
งและ ได
รั
บการสรรเสริ
ญ (ไอ.เอ.อิ
บรอฮิ
ม, 2545) และนอกจากนี้
โดยลั
กษณะโครงสร
างทางวั
ฒนธรรม
และสั
งคมไทย มี
ทั
ศนคติ
ต
อการยอมรั
บในเรื่
องศี
ลธรรมอั
นดี
งาม ที่
บุ
คคลในครอบครั
วจะต
องดู
แลรั
บผิ
ดชอบดู
แลสมาชิ
กที่
1...,1542,1543,1544,1545,1546,1547,1548,1549,1550,1551 1553,1554,1555,1556,1557,1558,1559,1560,1561,1562,...2023
Powered by FlippingBook