full2010.pdf - page 746

708
O85
การพั ฒนารู ปแบบการเรียนรู ้ โดยใช้ แนวคิดจิตตปัญญาศึกษา เพื่ อพั ฒนานิสิ ตปริญญาตรี
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทั กษิณ ให้มี ความเป็ นมนุษย์ ที่ สมบูรณ์
Development of Contemplative Education Learning Model for Humanized Educare among
Undergraduate Students of Faculty of Education, Thaksin University
อมลวรรณ วีระธรรมโม1 และ วิทวัฒน์ ขั ตติยะมาน2
Amonwan Werathummo and Withawat Khattiyamarn
บทคัดย่ อ
การพั ฒนารู ปแบบการเรียนรู ้โดยแนวคิ ดจิตตปั ญญาศึกษาเพื่อพั ฒนานิสิ ตปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิ ทยาลัยทักษิณ ให้มีความเป็นมนุษย์ที่ สมบูรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พั ฒนารูปแบบการเรี ยนรู ้โดยใช้ แนวคิด
จิตตปั ญญาศึกษา เพื่อพั ฒนานิสิ ตปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณให้ มีความเป็ นมนุษย์ที่สมบู รณ์
และ 2) ศึ กษาประสิ ทธิผลการใช้รู ปแบบการเรี ยนรู ้โดยใช้ แนวคิดจิตตปั ญญาศึกษาเพื่อพั ฒนานิสิตปริ ญญาตรี คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ให้มีความเป็ นมนุ ษย์ที่สมบูรณ์ โดยมีกระบวนการวิ จัย2 ขั ้นตอน ขั ้ นตอนที่1 การ
พั ฒนารูปแบบการเรี ยนรู ้ กลุ่ มตัวอย่างที่ใช้ เป็ นอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลั ยทักษิณจํานวน 6 คน และเป็ น
ผู้ เชี่ยวชาญ จํานวน 3 คน และขั ้ นตอนที่ 2 การศึ กษาประสิทธิ ผลของรู ปแบบการเรียนรู ้ โดยใช้วิ ธีการวิจั ยแบบกึ่ ง
ทดลอง กลุ่ มเดียว ทดสอบก่อน-หลัง เครื่ องมือที่ใช้ ในการวิจั ยประกอบด้วย 1) เอกสารประกอบการสอน 2) แบบ
ประเมิ นพฤติกรรมความเป็นมนุ ษย์ที่สมบู รณ์ 3) แบบประเมิ นการทําสุ นทรียสนทนา 4) แบบประเมินการเขียน
บทความ และ 5) แบบประเมิ นความพึงพอใจของนิ สิตต่อรูปแบบการเรี ยนรู ้ ดํ าเนินการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปี
การศึกษา 2552 ใน 2 รายวิ ชา คือ วิชาความเป็ นครู และวิชาการพั ฒนาความคิดสร้ างสรรค์ผลการวิจั ยพบว่า
1. รู ปแบบการจัดการเรี ยนรู ้ โดยใช้ แนวคิดจิ ตตปัญญาศึกษา เพื่อพั ฒนานิสิ ตปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิ ทยาลัยทักษิณมีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด (ݔ = 4.50 )
2. ประสิ ทธิ ผลการใช้รู ปแบบการจัดการเรี ยนรู้ โดยใช้แนวคิดจิ ตตปัญญาศึกษา เพื่อพั ฒนานิสิ ตปริญญาตรี
คณะศึกษาศาสตร์ ให้มีความเป็ นมนุษย์ที่ สมบูรณ์มีประสิทธิ ผล ดั งนี้
2.1 นิสิตปริ ญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ มีความเป็ นมนุ ษย์ที่สมบูรณ์ก่อน
และหลั งการเรี ยนรู ้โดยใช้ รู ปแบบในภาพรวมไม่แตกต่างกั น เมื่อพิจารณารายด้ านพบว่า พฤติกรรมความ
เป็ นมนุ ษย์ด้านสังคมและด้ านปัญญาก่อนและหลังการเรี ยนรู ้มีความแตกต่างกั นอย่ างมีนัยสําคั ญทางสถิติที่
ระดั บ .05 ส่วนพฤติกรรมความเป็ นมนุ ษย์ด้ านกายและจิตใจก่ อนและหลังการเรี ยนรู ้ ไม่ แตกต่างกั น
1 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทั กษิณ
2 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลั ยทั กษิ ณ