full2010.pdf - page 749

711
Base. In. th.2552) ผู ้วิจั ยมีความเชื่อว่ า การใช้แนวคิ ดจิตตปัญญาในการผลิตนิสิตครู ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิ ทยาลัย
ทั กษิณ จะเป็ นการทําให้ นิสิตเข้ าหาสัจธรรม ด้ วยวิธีการที่สามารถเชื่ อมโยง เอาคุณค่าของโลกวิชาการที่สอนให้คน
ชํ านาญเรื่ องการคิดวิเคราะห์ เรื่ องนอกตั วได้กลับเข้ามาหาจิ ตของตนเองได้อย่ างกลมกลืน เพื่อการก้าวสู่ หนทางแห่ง
ความจิ รงและชีวิต ซึ่ งต้ องอาศั ยการเรียนรู ้ด้ วยใจอย่างใคร่ ครวญ และการเปลี่ยนแปลงที่สร้าง อิ สรภาพ ความสุข
ความรั กอันไพศาลทั ้ งกั บตน ผู้คนรอบข้ าง ตลอดจนองค์ กรและสังคมของมนุษยชาติที่ สัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกั บ
ธรรมชาติ เพราะนิสิตครู ต้ องออกไปปฏิบัติหน้ าที่สอนศิษย์ต้ องมีความเป็ นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ เพื่ อจะไปสร้างศิษย์ให้
เป็ นมนุ ษย์ที่สมบูรณ์ต่อไป การพั ฒนารู ปแบบการเรียนรู ้โดยใช้ แนวคิ ดจิตตปั ญญาศึกษาเพื่อพั ฒนานิสิ ตระดับ
ปริ ญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลั ยทักษิณ ให้มีความเป็ นมนุ ษย์ที่สมบูรณ์ คณะผู้ วิจัยจึงได้ ศึกษาการพั ฒนา
รู ปแบบการเรี ยนรู ้โดยใช้ แนวคิดจิตตปั ญญาศึกษาเพื่อพั ฒนานิสิตระดั บปริญญาตรี ให้มีความเป็ นมนุษย์ที่ สมบูรณ์
ของคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณขึ ้ น
วัตถุ ประสงค์การวิจัย
1. เพื่ อพัฒนารู ปแบบการเรี ยนรู้ โดยใช้ แนวคิดจิตตปั ญญาศึกษา เพื่อพั ฒนานิสิตระดั บปริญญาตรี
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลั ยทักษิณ มีความเป็ นมนุ ษย์ที่สมบูรณ์
2. เพื่ อศึกษาประสิทธิ ผลการใช้รู ปแบบการเรี ยนรู้ โดยใช้แนวคิ ดจิตตปั ญญาศึกษาเพื่อพั ฒนา
นิ สิตระดั บปริญญาตรี ให้ มีความเป็ นมนุษย์ที่ สมบูรณ์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลั ยทักษิณ โดย
ประเมิ นจาก
2.1 พฤติ กรรมความเป็ นมนุษย์ที่ สมบูรณ์
2.2 การมีสุ นทรียสนทนา (Dialcgue)
2.3 การเขี ยนบทความ (Journal)
2.4 การประเมิ นความพึงพอใจของนิ สิตที่มีต่อรูปแบบการเรี ยนรู ้
นิ ยามศัพท์เฉพาะ
1. รู ปแบบการเรี ยนรู ้โดยใช้ แนวคิดจิ ตตปัญญาศึกษา หมายถึ ง การกําหนดขอบเขตการจัดการเรี ยนรู ้ โดย
ใช้ ฐานคิดจากแนวการจัดการเรี ยนการสอนแบบจิ ตตปัญญาศึกษา ที่เป็ นการจั ดการเรี ยนรู ้และให้ความสําคัญกั บการ
พั ฒนาความตระหนักรู้และการเรียนรู ้มิติ (โลกด้านในได้ แก่ อารมณ์ ความรู ้สึกความคิด ความเชื่ อ ทัศนะ มุ มมองต่อ
ชีวิตและโลก) ของตนเอง ให้คุณค่าในเรื่ องการเรียนรู ้ด้วยใจอย่ างใคร่ครวญ โดยผ่านกระบวนการ วิ ธีการและ
กิจกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ การนิ ่งสงบอยู่กั บตนเอง การเจริญสติ ภาวนา (Self and group, Reflection, Dialogue, Deep
Listening, Journaling กิจกรรมอาสาสมัครบํ าเพ็ ญประโยชน์และสารธารณะ ศิลปะ ดนตรี ไปจนถึงพิธีกรรมทางศาสนา)
มีเป้ าหมายก่อให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงขั ้นพื ้นฐานอย่างลึกซึ ้ งทางความคิ ดและจิตสํานึ กใหม่เกี่ยวกับตนเองและโลก
ส่ งผลต่อการประพฤติ ปฏิบัติและการดํ าเนินชีวิตอย่างมีสติและปัญญา มี ความรัก ความเมตตาต่อตนเองและสรรพสิ่ ง
ทั ้ งในฐานะที่เป็ นส่วนหนึ ่ งและเป็ นหนึ่ งเดียวกับธรรมชาติสํ าหรับการวิจั ยครั ้ งนี้ ประกอบด้ วย 7 ขั้ นตอน