full2010.pdf - page 750

712
1.1 ขั
นที่
1 การสร้
างบรรยากาศการเรี
ยนรู
หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนและผู
เรี
ยนเตรี
ยมความ
พร้
อมการเรี
ยนรู
โดยมี
กิ
จกรรมที่
เป็
นกิ
จกรรมทํ
าให้
ผู
เรี
ยนมี
สมาธิ
และความต้
องการที่
จะเรี
ยนรู
1.2 ขั
นที่
2 การสร้
างศรั
ทธา รู
จั
กตนเองและเข้
าใจคนอื่
น หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนทํ
าให้
ผู
เรี
ยนมี
ความรั
ก ศรั
ทธา เข้
าใจตนเอง เข้
าใจคนอื่
น เป็
นขั
นตอนที่
ใช้
กิ
จกรรมที่
พยายามทํ
าให้
ผู
เรี
ยนได้
อยู่
คิ
ดพิ
จารณา
ไตร่
ตรองคนเดี
ยว และมี
กิ
จกรรมที่
รั
บฟั
งบุ
คคลอื่
นอย่
างใคร่
ครวญการพั
ฒนารู
ปแบบการเรี
ยนรู
โดยใช้
แนวคิ
ดจิ
ตต
ปั
ญญาศึ
กษาเพื่
อพั
ฒนานิ
สิ
ตระดั
บปริ
ญญาตรี
คณะศึ
กษาศาสตร์
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ให้
มี
ความเป็
นมนุ
ษย์
ที่
สมบู
รณ์
1.3 ขั
นที่
3 การเรี
ยนรู
จากประสบการณ์
หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนจั
ดกิ
จกรรมให้
ผู
เรี
ยนได้
เรี
ยน
เนื
อหาสาระจากการเชื่
อมโยงประสบการณ์
จริ
ง และมี
การยกตั
วอย่
างสถานการณ์
ต่
าง ๆ ที่
หาได้
ในชี
วิ
ตประจํ
าวั
1.4 ขั
นที่
4 การแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู
หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนได้
จั
ดช่
วงเวลาที่
ให้
ผู
เรี
ยนทุ
กคนใน
ชั
นเรี
ยนได้
ร่
วมกั
นแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู
สิ
งที่
กํ
าลั
งเรี
ยนรู
อยู่
โดยให้
ผู
เรี
ยนได้
นํ
าเสนอความคิ
ดทั
งในรู
ปแบบรายบุ
คคล
และรายกลุ่
1.5 ขั
นที่
5 การสะท้
อนคิ
ด หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนได้
เปิ
ดใจการให้
ผู
เรี
ยนได้
สะท้
อนความคิ
ของตนเอง วิ
เคราะห์
สิ
งที่
ดี
สิ
งที่
เป็
นจุ
ดอ่
อน และสิ
งที่
ควรจะเป็
นอย่
างมี
วิ
จารณญาณและนํ
าเสนอผลการสะท้
อนคิ
ในรู
ปแบบการคิ
ดแบบดั
ง ๆ (
Think alound)
1.6 ขั
นที่
6 ขั
นการสรุ
ปความรู
หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
สอนให้
ผู
เรี
ยนได้
ดํ
าเนิ
นการสรุ
ปสาระ
ความรู
ที่
ได้
จากการเรี
ยนรู
ในภาพรวมและเชิ
งลึ
กเป็
นการสรุ
ปองค์
ความรู
ที่
ตกผลึ
ก จากกระบวนการเรี
ยนรู
1.7 ขั
นนํ
าเสนอและประเมิ
นความรู
หมายถึ
ง ขั
นตอนที่
ผู
เรี
ยนนํ
าเสนอองค์
ความรู
ที่
ผ่
าน
กระบวนการเรี
ยนรู
ในรู
ปแบบต่
าง ๆ ได้
อย่
างสร้
างสรรค์
และเป็
นขั
นตอนที่
ผู
สอนทํ
าการประเมิ
นความรู
ผู
เรี
ยนประเมิ
นความรู
ที่
ตนเองได้
รั
บโดยการเขี
ยนบทความ(
Journal)
2. พฤติ
กรรมความเป็
นมนุ
ษย์
ที่
สมบู
รณ์
หมายถึ
ง การแสดงออกที่
บ่
งบอกถึ
งความสมบู
รณ์
ทางกาย ทาง
จิ
ตใจและจิ
ตวิ
ญญาณ ทางสั
งคม ทางปั
ญญา โดยประเมิ
นจากแบบประเมิ
นพฤติ
กรรมที่
คณะผู
วิ
จั
ย สร้
างขึ
น โดยมี
4
ด้
าน
2.1 พฤติ
กรรมความเป็
นมนุ
ษย์
ทางกาย หมายถึ
ง การแสดงออกถึ
งบุ
คลิ
กภาพ ได้
แก่
การแต่
งกายสะอาด
เรี
ยบร้
อยถู
กกาลเทศะ ความพร้
อมในการเรี
ยนรู
ความตั
งใจมุ่
งมั
นในการเรี
ยนรู
ความกระตื
อรื
อร้
นในการเรี
ยนรู
มี
ความมานะพยายาม ใฝ่
รู
ใฝ่
เรี
ยน ฝึ
กฝนตนเองอย่
างต่
อเนื่
อง 2.2 พฤติ
กรรมความเป็
นมนุ
ษย์
ทางจิ
ตใจและจิ
ตวิ
ญญาณ
หมายถึ
ง การแสดงออกทางจิ
ตใจและจิ
ตวิ
ญญาณ ได้
แก่
การเข้
าใจและตระหนั
กรู
ในตนเอง การเป็
นบุ
คคลที่
มี
ความ
เสี
ยสละ มี
เมตตากรุ
ณาเอื
อเฟื
อเผื่
อแผ่
ให้
ความสํ
าคั
ญกั
บสิ
งแวดล้
อม (อ่
อนน้
อมต่
อธรรมชาติ
) มี
ความรั
กความเมตตา
ต่
อตนเองและสรรพสิ
ง การรั
บฟั
งบุ
คคลอื่
2.3 พฤติ
กรรมความเป็
นมนุ
ษย์
ทางสั
งคม หมายถึ
ง การแสดงออกทาง
สั
งคม ได้
แก่
การเคารพศั
กยภาพในการเรี
ยนรู
ของทุ
กคนอย่
างไร้
อคติ
การให้
คุ
ณค่
ากั
บภู
มิ
ปั
ญญาอั
นหลากหลายและ
วั
ฒนธรรมมี
ความเป็
นกั
ลยาณมิ
ตร เรี
ยนรู
ร่
วมกั
บบุ
คคลอื่
น การเฝ้
ามองเห็
นตามความเป็
นจริ
ง เข้
าใจบุ
คคลอื่
นยอมรั
บุ
คคลอื่
น ปรั
บตั
วต่
อสภาพแวดล้
อมได้
มี
จิ
ตสาธารณะเกื
อกู
ลบุ
คคลอื่
นตามศั
กยภาพของตนเอง2.4 พฤติ
กรรมความ
1...,740,741,742,743,744,745,746,747,748,749 751,752,753,754,755,756,757,758,759,760,...2023
Powered by FlippingBook