เอกสารการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัย ครั้งที่ 21 / 2554 (Oral) - page 330

5
N8000 คื
อ สารลดแรงตึ
งผิ
ว (surfactant) ซึ
É
งทํ
าหน้
าทีÉ
จั
บตั
วกั
บสิÉ
งสกปรก ลั
กษณะของโมเลกุ
ลของสารประเภทนี
Ê
ปลายหนึ
É
งจะจั
บกั
บโมเลกุ
ลของนํ
Ê
าได้
ดี
อี
กปลายหนึ
É
งจะจั
บกั
บโมเลกุ
ลของคราบไขมั
น ทํ
าให้
คราบไขมั
นหลุ
ดออก
3.
การทดสอบคุ
ณสมบั
ติ
ของกรดผลไม้
ทีÉ
มี
รสเปรี
Ê
ยว
จากโครงการ เรืÉ
อง กรดจากนํ
Ê
าผลไม้
ของนั
กเรี
ยนโรงเรี
ยนภู
เขี
ยว สํ
านั
กงานเขตพื
Ê
นทีÉ
การศึ
กษาชั
ยภู
มิ
เขต 2 มี
จุ
ดมุ
งหมายเพืÉ
อทดสอบหาระดั
บความเป็
นกรดและความสามารถในการกั
ดกร่
อน โดยแบ่
งการทดลองออกเป็
น2ตอนดั
งนี
Ê
คื
อ ตอนทีÉ
1 ศึ
กษาหาระดั
บค่
าความเป็
นกรด โดยการนํ
านํ
Ê
ามะนาวผสมกั
บนํ
Ê
าสั
บปะรด นํ
Ê
ามะนาวผสมกั
บนํ
Ê
าส้
ม และนํ
Ê
สั
บปะรดผสมกั
บนํ
Ê
าส้
ม เพืÉ
อทดสอบหาระดั
บค่
าความเป็
นกรด ว่
านํ
Ê
าผลไม้
ทีÉ
ผสมกั
นนั
Ê
น แบบใดมี
ค่
าความเป็
นกรด
เรี
ยงลํ
าดั
บจากค่
า และในตอนทีÉ
2 จะศึ
กษาเกีÉ
ยวกั
บความสามารถในการกั
ดกร่
อนของนํ
Ê
าผลไม้
ทีÉ
ผสมกั
นในตอนทีÉ
1 โดยการ
เติ
มเกลื
อละลายนํ
Ê
าลงไปในนํ
Ê
าผลไม้
ทีÉ
ผสมกั
นไว้
ทั
Ê
ง 3 แบบ แล้
วหลั
งจากนั
Ê
นนํ
าเหรี
ยญทีÉ
มี
คราบสกปรกมาใส่
ในนํ
Ê
าผลไม้
ทั
Ê
3 แบบ และสั
งเกตผลการทดลอง ดั
งนี
Ê
1. เมืÉ
อนํ
านํ
Ê
าส้
มผสมกั
บนํ
Ê
ามะนาวจะได้
ค่
า pH เท่
ากั
บ 4.0
2. เมืÉ
อนํ
านํ
Ê
ามะนาวผสมกั
บนํ
Ê
าสั
บปะรดจะได้
ค่
า pH เท่
ากั
บ 3.0
3. เมืÉ
อนํ
านํ
Ê
ามาผสมกั
บนํ
Ê
าสั
บปะรดจะได้
ค่
า pH เท่
ากั
บ 4.5
แสดงว่
ามืÉ
อนํ
านํ
Ê
ามะนาวมาผสมกั
บนํ
Ê
าสั
บปะรดจะพบว่
าค่
าความเป็
นกรดสู
งกว่
า นํ
Ê
ามะนาวผสมกั
บนํ
Ê
าส้
ม และ
นํ
Ê
าส้
มผสมกั
บนํ
Ê
าสั
บปะรด นอกจากนี
Ê
เรายั
งพบว่
าเมืÉ
อนํ
านํ
Ê
าผลไม้
ทีÉ
ได้
จากการผสมกั
นดั
งกล่
าวทั
Ê
ง 3 ชนิ
ด มาเติ
มเกลื
อละลาย
นํ
Ê
าลงไปแล้
วนํ
าเหรี
ยญทีÉ
มี
คราบสกปรกใส่
ลงไปตั
Ê
งเวลาไว้
ประมาณ 30 นาที
ภายหลั
ง 30 นาที
นํ
าเหรี
ยญออกมาล้
างนํ
Ê
สะอาดพบว่
าเหรี
ยญทีÉ
อยู
ในนํ
Ê
าผสมผลไม้
ทีÉ
มี
ค่
า pH สู
งทีÉ
สุ
ดมี
ความสะอาดมากทีÉ
สุ
ด เพราะกรดทีÉ
เข้
มข้
นจะมี
ฤทธิ
Í
การกั
กร่
อนมากทีÉ
สุ
ดตามลํ
าดั
บความเข้
มข้
นของกรด จึ
งสรุ
ปได้
ว่
า กรดทุ
กชนิ
ดจะมี
รสเปรี
Ê
ยว ถ้
ามี
รสเปรี
Ê
ยวมากแสดงว่
ามี
ความ
เป็
นกรดมาก
4.
สํ
ารวจข้
อมู
ลพื
ชท้
องถิÉ
นตามภู
มิ
ปั
ญญาเดิ
ม ทีÉ
มี
คุ
ณสมบั
ติ
ขจั
ดคราบสกปรกของภาชนะ
เริÉ
มเก็
บข้
อมู
ลพื
ชท้
องถิÉ
นทีÉ
สามารถนํ
ามาทํ
าเป็
นนํ
Ê
ายาล้
างจานได้
ด้
วยวิ
ธี
การสอบถามข้
อมู
ลจากผู
รู
พบว่
าสมั
ยก่
อน
มี
การนํ
าพื
ชท้
องถิÉ
นมาซั
กล้
าง จํ
านวน 3 ชนิ
ดได้
แก่
เต่
อแนะแตะ มะคํ
าดี
ควาย และส้
มป่
อย และใช้
นํ
Ê
าขี
Ê
เถ้
า ในการล้
างภาชนะ
ต่
าง ๆ ด้
วย พื
ชท้
องถิÉ
นทีÉ
พบนํ
ามาใช้
กั
บกิ
จกรรม ดั
งนี
Ê
1)
เต่
อแนะแตะ นํ
ามาใช้
สระผม ทํ
าให้
ผมนุ
ม ลืÉ
น แต่
เต่
อแนะแตะจะมี
มากในช่
วงฤดู
ทํ
าไร่
ระหว่
างเดื
อน
พฤษภาคม – กรกฏาคมของทุ
กปี
การนํ
ามาใช้
คื
อ ถอนต้
นเต่
อแนะแตะมาล้
างให้
สะอาดแล้
วขยี
Ê
ให้
แหลก
สั
งเกตว่
านํ
Ê
าทีÉ
ได้
จะลืÉ
น ๆ สามารถนํ
ามาสระผมได้
เลย หลั
งสระผมล้
างนํ
Ê
าเปล่
าให้
สะอาดอี
กครั
Ê
ง ผมจะนุ
มลืÉ
(ใบเต่
อแนะแตะสามารถเก็
บไว้
ได้
นานโดยการตากแห้
ง)
2)
ส้
มป่
อย นํ
ามาใช้
สระผม ทํ
าให้
หนั
งศี
รษะสะอาด ผมนุ
ม และเป็
นสิ
ริ
มงคลต่
อชี
วิ
ต จะสามารถเก็
บฝั
กได้
ในช่
วง เดื
อนพฤศจิ
กายน – เดื
อนมี
นาคม ชาวบ้
านเชืÉ
อว่
า ส้
มป่
อยเป็
นพื
ชศั
กดิ
Í
สิ
ทธิ
Í
ขจั
ดสิÉ
งเลวร้
าย อั
ปมงคล
เป็
นการปลดปล่
อยสิÉ
งไม่
ดี
ให้
หลุ
ดพ้
นจากชี
วิ
ต ชาวบ้
านจึ
งไม่
นิ
ยมนํ
ามาล้
างภาชนะ
3)
มะคํ
าดี
ความ นํ
ามาใช้
ซั
กเสื
Ê
อผ้
า โดยการเก็
บเอาผลแก่
มาทุ
บแล้
วผสมนํ
Ê
านํ
าไปซั
กเสื
Ê
อผ้
าได้
ทั
นที
1...,320,321,322,323,324,325,326,327,328,329 331,332,333,334,335,336,337,338,339,340,...1102
Powered by FlippingBook