สรุ
ปผลการวิ
จั
ย
วั
สดุ
อั
ดซ
อนระหว
างอะลู
มิ
เนี
ยมและพอลิ
เอทิ
ลี
นเชิ
งเส
นชนิ
ดความหนาแน
นต่ํ
าได
ถู
กขึ้
นรู
ปเป
นแผ
นสํ
าเร็
จ
จากการศึ
กษาความทนทานต
อการแตกแยกของพอลิ
เอทิ
ลี
นและวั
สดุ
อั
ดซ
อน พบว
าฟ
ล
มเชื่
อมประสานทํ
าให
เกิ
ดการยึ
ด
ติ
ดที่
ดี
ระหว
างโลหะอะลู
มิ
เนี
ยมและพอลิ
เอทิ
ลี
น โดยเกิ
ดการยื
ดดึ
งของฟ
ล
มเชื่
อมประสานระหว
างที่
รอยแยกดํ
าเนิ
นไป
จากการศึ
กษาพฤติ
กรรมเชิ
งกลของวั
สดุ
อั
ดซ
อนในการตอบสนองต
อแรงดึ
ง แรงเฉื
อน แรงดั
ดโค
ง แสดงให
เห็
นถึ
งการ
ยึ
ดติ
ดที่
ดี
ภายในวั
สดุ
อั
ดซ
อน ซึ่
งไม
เกิ
ดความเสี
ยหายในลั
กษณะแยกชั้
นในขณะที่
ได
รั
บแรงกระทํ
า นอกจากนี้
จะเห็
น
ได
ว
า สมบั
ติ
ของวั
สดุ
อั
ดซ
อนเป
นผลมาจากการเสริ
มสมบั
ติ
ซึ่
งกั
นและกั
นของวั
สดุ
องค
ประกอบ โลหะอะลู
มิ
เนี
ยมซึ่
งมี
ความแข็
งแรงสู
งเสริ
มสมบั
ติ
เชิ
งกลให
กั
บพอลิ
เอทิ
ลี
นซึ่
งเป
นพอลิ
เมอร
อ
อนเหนี
ยว
ในขณะที่
พอลิ
เอทิ
ลี
นทํ
าให
เกิ
ด
กลไกการเชื่
อมรอยแยกที่
เกิ
ดขึ้
นกั
บอะลู
มิ
เนี
ยมระหว
างได
รั
บแรงกระทํ
า และลดความหนาแน
นรวมให
กั
บวั
สดุ
อั
ดซ
อน
คํ
าขอบคุ
ณ
งานวิ
จั
ยนี้
ได
รั
บการสนั
บสนุ
นจากทุ
นอุ
ดหนุ
นงานวิ
จั
ย มหาวิ
ทยาลั
ยราชภั
ฏกาญจนบุ
รี
เอกสารอ
างอิ
ง
หฤทภั
ค กิ
รติ
เสวี
และ อภิ
รั
ตน
เลาห
บุ
ตรี
. (2549). วั
สดุ
อั
ดซ
อนระหว
างโลหะกั
บเส
นใยเสริ
มแรง,
วิ
ศวกรรมสาร มก.
19 (58), 114-123.
Afaghi-Khatibi, A., Ye, L. and Mai, Y. W. (2000). Hybrids and sandwiches, in
Comprehensive Composite
Materials
, (249-290). Amsterdam : Elsevier.
Reyes, G. V., and Cantwell, W. J. (1998). The effect of strain rate on the interfacial fracture properties of carbon
fibre-metal laminates.
Journal of Materials Science Letters,
17. 1953-1955.
Reyes, G. V., and Cantwell, W. J. (2000). The mechanical properties of fibre-metal laminates based on glass fibre
reinforced polypropylene.
Composites Science and Technology.
60. 1085-1094.
Vermeeren, C. A. J. R. (2003). An historic overview of the development of fibre metal laminates.
Applied
Composite Materials.
10, 189-205.
Zulkifli, R., Pei, K. S. and Azhari, C. H. (2008). Interlaminar fracture properties of multi-layer woven silk
fibre/polyester composites.
Asian Journal of Applied Sciences 1,
2. 177-184.