extract 3 กรั
มต่
อลิ
ตร Malt extract 5 กรั
มต่
อลิ
ตร Peptone 5 กรั
มต่
อลิ
ตร) ปริ
มาณ 10 มิ
ลลิ
ลิ
ตร เลี
้
ยงในสภาพเขย่
าความเร็
ว
150 รอบต่
อนาที
บ่
มที่
อุ
ณหภู
มิ
30 องศาเซลเซี
ยส เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง จากนั
้
นนํ
ามาเพิ่
มปริ
มาณโดยใส่
ลงในฟลาสก์
ที่
มี
อาหารเลี
้
ยงเชื
้
อเหลว YM ปริ
มาตร 100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร เลี
้
ยงในสภาพเขย่
าความเร็
ว 150 รอบต่
อนาที
ที่
อุ
ณหภู
มิ
30 องศา
เซลเซี
ยส เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง นํ
ามาวั
ดค่
าการดู
ดกลื
นแสงที่
ความคลื
นที่
620 นาโนเมตร (OD
620
) และ ปรั
บค่
า OD
620
ให้
เท่
ากั
บ 0.5 ก่
อนจะนํ
าไปใช้
เป็
นเชื
้
อเริ่
มต้
น การเตรี
ยมกล้
าเชื
้
อแบคที
เรี
ย
Zymomonas mobilis
TISTR 550 โดยการถ่
ายเชื
้
อ
จากหลอด stock ลงในจานอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อที่
มี
อาหารแข็
งสู
ตร Zymomonas medium agar บ่
มที่
อุ
ณหภู
มิ
30 องศาเซลเซี
ยส
เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง จากนั
้
นนํ
ามาเพิ่
มปริ
มาณโดยเลี
้
ยงในฟลาสก์
ที่
มี
อาหารเลี
้
ยงเชื
้
อเหลว Zymomonas medium (Glucose
20 กรั
มต่
อลิ
ตร Yeast extract 10 กรั
มต่
อลิ
ตร Peptone 10 กรั
มต่
อลิ
ตร) ปริ
มาตร100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร เลี
้
ยงในสภาพเขย่
าความเร็
ว
150 รอบต่
อนาที
ที่
อุ
ณหภู
มิ
30 องศาเซลเซี
ยส เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง นํ
ามาวั
ดค่
าการดู
ดกลื
นแสงที่
ความคลื
นที่
620 นาโน
เมตร (OD
620
) และ ปรั
บค่
า OD
620
ให้
เท่
ากั
บ 0.5 ก่
อนจะนํ
าไปใช้
เป็
นเชื
้
อเริ่
มต้
น การเตรี
ยมกล้
าเชื
้
อ
Enterobacter
aerogenes
TISTR 1468 โดยการถ่
ายเชื
้
อจากหลอด stock ลงในจานอาหารเลี
้
ยงเชื
้
อที่
มี
อาหารแข็
งสู
ตร NA บ่
มที่
อุ
ณหภู
มิ
30 องศาเซลเซี
ยส เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง จากนั
้
นนํ
ามาเพิ่
มปริ
มาณโดยเลี
้
ยงในฟลาสก์
ที่
มี
อาหารเลี
้
ยงเชื
้
อ NB (Beef extract 3
กรั
มต่
อลิ
ตร Peptone 5 กรั
มต่
อลิ
ตร) ปริ
มาตร100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร เลี
้
ยงในสภาพเขย่
าความเร็
ว 150 รอบต่
อนาที
ที่
อุ
ณหภู
มิ
30
องศาเซลเซี
ยส เป็
นเวลา 24 ชั่
วโมง นํ
ามาวั
ดค่
าการดู
ดกลื
นแสงที่
ความคลื
นที่
620 นาโนเมตร (OD
620
) และ ปรั
บค่
า OD
620
ให้
เท่
ากั
บ 0.5 ก่
อนจะนํ
าไปใช้
เป็
นเชื
้
อเริ่
มต้
น
เตรี
ยมขยะเศษอาหารจากการย่
อยเศษอาหารโดยการย่
อยด้
วยจุ
ลิ
นทรี
ย์
จากลู
กแป้
ง นํ
าขยะเศษอาหารที่
ผ่
านการ
ย่
อยปริ
มาตร 70 มิ
ลลิ
ลิ
ตรลงในฟลาสขนาด 100 มิ
ลลิ
ลิ
ตร ปรั
บค่
า pH ของของเสี
ยเศษอาหารให้
ได้
pH 5.5 เติ
มกล้
าเชื
้
อ
เริ
่
มต้
นร้
อยละ 10 ของปริ
มาตรที่
ใช้
ในการหมั
กทํ
าการเพาะเลี
้
ยงที่
37 องศาเซลเซี
ยส เขย่
า 100 รอบต่
อนาที
เป็
นเวลา 12
ชั่
วโมง และถั
งทิ
้
งไว้
ให้
เกิ
ดการหมั
กเป็
นเวลา 120 ชั่
วโมง และ ศึ
กษาเปรี
ยบเที
ยบระหว่
างการหมั
กเดี่
ยวด้
วยเชื
้
อ
Saccharomyces cerevisiae Zymomonas mobilis
Candida shehatae
และ
Enterobacter aerogenes
และการหมั
กร่
วมด้
วย
เชื
้
อ
C. shehatae
กั
บ
Z. mobilis
(CxZ)
C. shehatae
กั
บ
E. aerogenes
(CxE)
C. shehatae
กั
บ
S. cerevisiae
(CxS)
S.
cerevisiae
กั
บ
Z. mobilis
(SxZ)
S. cerevisiae
กั
บ
E. aerogenes
(SxE) และ
Z. mobilis
กั
บ
E. aerogenes
(ZxE) เก็
บตั
วอย่
าง
เมื่
อเวลาผ่
านไป 0 24 48 72 และ 120 ชั่
วโมง โดยวั
ดปริ
มาณนํ
้
าตาลรี
ดิ
วซ์
, ค่
า pH, ปริ
มาณเอทานอล และกรดอิ
นทรี
ย์
โดย
เครื่
อง High-performance liquid chromatography (HPLC) สภาวะที่
ใช้
ตามรายงานของ Hniman และคณะ (2011) กรั
มเอ
ทานอลต่
อกรั
มนํ
้
าตาลคํ
านวณจากปริ
มาณเอทานอลที่
เกิ
ดขึ
้
น (กรั
มต่
อลิ
ตร) ต่
อปริ
มาณนํ
้
าตาลเริ่
มต้
น (กรั
มต่
อลิ
ตร) ทํ
าให้
ทราบว่
าจากนํ
้
าตาล 1 กรั
มสามารถเปลี่
ยนเป็
นเอทานอลได้
กี่
กรั
ม กรั
มเอทานอลต่
อกรั
มขยะเศษอาหาร คํ
านวณจากปริ
มาณ
เอทานอลที่
เกิ
ดขึ
้
น (กรั
ม) ต่
อปริ
มาณขยะเศษอาหาร (กรั
ม) ที่
ถู
กย่
อยสลายโดยการย่
อยด้
วยจุ
ลิ
นทรี
ย์
จากลู
กแป้
ง แล้
วได้
เป็
นนํ
้
าตาลเริ่
มต้
น (กรั
มต่
อลิ
ตร) ทํ
าให้
ทราบว่
าจากเศษอาหาร 1 กรั
ม สามารถผลิ
ตเป็
นเอทานอลได้
กี่
กรั
ม ค่
า Yp/s
คํ
านวณได้
จากการวั
ดปริ
มาณผลิ
ตภั
ณฑ์
และการใช้
สารตั
้
งต้
นในช่
วงเวลาหนึ
่
ง ดั
งสมการ Yp/s =
ǻ
P/
ǻ
S ค่
าอั
ตราการผลิ
ต
เอทานอลคํ
านวณได้
จาก ปริ
มาณเอทานอลที่
เกิ
ดขึ
้
น (กรั
มต่
อลิ
ตร) ต่
อเวลาที่
ใช้
ในการผลิ
ตเอทานอล (ชั่
วโมง)
¨µ¦ª·
´
¥Â¨³°£·
¦µ¥¨
°r
¦³°µÁ¤¸
¨³µ¥£µ¡
°
¥³Á«¬°µ®µ¦
องค์
ประกอบทางกายภาพและเคมี
ของขยะเศษอาหารจากการเก็
บตั
วอย่
างขยะเศษอาหาร 15 ครั
้
ง ตลอดเวลา 4
เดื
อน (มกราคม ถึ
ง เมษายน 2554) จากโรงอาหาร ร้
านอาหาร และตลาดในเขตตํ
าบลบ้
านพร้
าว อํ
าเภอป่
าพะยอม จั
งหวั
ด
พั
ทลุ
ง จากชุ
มชุ
นจากโรงขยะเทศบาลตํ
าบลปากแพรก อํ
าเภอทุ
่
งสง จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช ผลการวิ
เคราะห์
แสดงใน
ตารางที่
1 ขยะเศษอาหารจากร้
านอาหารและโรงอาหารมี
องค์
ประกอบที่
เหมาะสมต่
อกระบวนการหมั
กได้
แก่
ค่
า pH ของ
130
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555