full2012.pdf - page 127

‡Î
µœÎ
µ
การเจริ
ญเติ
บโตทางสั
งคมและเศรษฐกิ
จ และ การเพิ่
มจํ
านวนประชากรอย่
างรวดเร็
วในประเทศไทย ก่
อให้
เกิ
ปั
ญหามลพิ
ษจากขยะของเสี
ยที่
มี
แนวโน้
มเพิ่
มปริ
มาณมากขึ
นทุ
กวั
น ซึ
งมาจากการอุ
ปโภคและบริ
โภคของมนุ
ษย์
เมื่
อขยะ
ของเสี
ยเหล่
านี
เพิ่
มมากขึ
น ปั
ญหาที่
ตามมาก็
คื
อการจั
ดการกั
บขยะของเสี
ย วิ
ธี
การกํ
าจั
ดขยะของเสี
ยที่
นิ
ยมใช้
กั
นในปั
จจุ
บั
คื
อ การเทกองกลางแจ้
ง การฝั
งกลบ การเผา และการหมั
กเป็
นปุ
ยหรื
อวั
สดุ
ปรั
บปรุ
งดิ
น (กรมพั
ฒนาและส่
งเสริ
มพลั
งงาน,
2541) จากข้
อมู
ลของกรมควบคุ
มมลพิ
ษในปี
พ.ศ.2542 พบว่
าปริ
มาณขยะที่
เกิ
ดขึ
นจากชุ
มชนทั
วประเทศมี
ทั
งสิ
น 13.8
ล้
านตั
นต่
อปี
มี
อั
ตราการเพิ่
มขึ
นเฉลี่
ยประมาณร้
อยละ 1.7 ต่
อปี
ในช่
วง พ.ศ.2539-2542 ในปี
พ.ศ.2545 ปริ
มาณขยะชุ
มชน
เกิ
ดขึ
น 14.3 ล้
านตั
นต่
อปี
และในปี
พ.ศ.2550 ปริ
มาณขยะชุ
มชนเกิ
ดขึ
น 14.63 ล้
านตั
นต่
อปี
ขยะชุ
มชนมี
องค์
ประกอบที่
มี
ศั
กยภาพในการนํ
ากลั
บมาใช้
ประโยชน์
ใหม่
ประมาณ 12.7 ล้
านตั
น คิ
ดเป็
นร้
อยละ 89 ของขยะชุ
มชนทั
งหมด แบ่
งเป็
ประเภทขยะย่
อยสลายที่
เหมาะแก่
การทํ
าปุ
ยอิ
นทรี
ย์
ประมาณ 6.4 ล้
านตั
น และประเภทขยะรี
ไซเคิ
ลประมาณ 6.3 ล้
านตั
ซึ
งมี
การนํ
ากลั
บมาใช้
ประโยชน์
ใหม่
เพี
ยง 2.6 ล้
านตั
น คิ
ดเป็
นร้
อยละ 18 ของปริ
มาณขยะชุ
มชนที่
เกิ
ดขึ
นทั
งหมด (กรม
ควบคุ
มมลพิ
ษ, 2552) ขยะชุ
มชนส่
วนใหญ่
เป็
นขยะสด ซึ
งได้
แก่
เศษอาหาร เศษผั
ก และผลไม้
เป็
นของเสี
ยอิ
นทรี
ย์
ที่
ถู
จุ
ลิ
นทรี
ย์
ย่
อยสลายได้
ง่
าย หากปล่
อยทิ
งไว้
โดยไม่
มี
การจั
ดการที่
ดี
จะก่
อปั
ญหาการเน่
าเสี
ย ส่
งกลิ่
นเหม็
นรุ
นแรง และเป็
แหล่
งเพาะเชื
อโรคเป็
นที่
รํ
าคาญแก่
ชุ
มชน ขยะเศษอาหารเหล่
านี
มี
ความชื
นสู
งจึ
งไม่
เหมาะสมในการนํ
าไปกํ
าจั
ดโดยการเผา
และไม่
สามารถนํ
ามาผ่
านขบวนการนํ
ากลั
บมาใช้
ใหม่
ได้
ดั
งนั
นจึ
งนิ
ยมกํ
าจั
ดขยะเศษอาหารด้
วยการฝั
งกลบ (landfill) และ
จากการที่
ขยะเศษอาหารมี
ปริ
มาณเพิ่
มมากขึ
นก่
อให้
เกิ
ดปั
ญหาการขาดแคลนพื
นที่
ในการกํ
าจั
ดขยะเศษอาหาร รวมทั
งมี
การต่
อต้
านจากประชาชนในพื
นที่
และการฝั
งกลบยั
งส่
งผลต่
อการปนเปื
อนของสารพิ
ษในแหล่
งนํ
าใต้
ดิ
น ดั
งนั
นการจั
ดการ
ขยะเศษอาหารจึ
งเป็
นประเด่
นสํ
าคั
ญในการป้
องกั
นการปนเปื
อนของสารพิ
ษสู
สิ่
งแวดล้
อมและอนุ
รั
กษ์
แหล่
งนํ
าใต้
ดิ
น การ
พั
ฒนาการใช้
ประโยชน์
จากขยะเศษอาหารเป็
นแหล่
งวั
ตถุ
ดิ
บในการผลิ
ตเอทานอลโดยกระบวนการหมั
กไปเป็
นพลั
งงาน
เป็
นการเพิ่
มคุ
ณค่
าให้
แก่
ขยะเศษอาหารได้
มาก และเป็
นวิ
ธี
หนึ
งที่
ช่
วยลดปริ
มาณขยะเศษอาหาร ลดปั
ญหาการต่
อต้
านจาก
ชุ
มชนในท้
องถิ่
นในการฝั
งกลบได้
(Kim
et al
., 2011)
ปั
จจุ
บั
นการผลิ
ตเอทานอลทางเทคโนโลยี
ชี
วภาพนั
บว่
ามี
บทบาทมาก กระบวนการผลิ
ตที่
เกี่
ยวข้
องมี
หลาย
ขั
นตอนด้
วยกั
น ซึ
งแต่
ละขั
นตอนมี
ความสํ
าคั
ญต่
อเนื่
องกั
น ขั
นตอนแรกที่
เกี่
ยวข้
องในการผลิ
ตเอทานอลจากวั
ตถุ
ดิ
ประเภทแป้
ง คื
อการปรั
บสภาพมี
จุ
ดมุ
งหมายเพื่
อให้
วั
ตถุ
ดิ
บอยู
ในสภาพที่
เหมาะสมต่
อการย่
อยสลาย ผลที่
เกิ
ดขึ
นคื
อลด
ขนาดอนุ
ภาคของวั
ตถุ
ดิ
บให้
เล็
กลง ช่
วยเพิ่
มพื
นที่
ผิ
วในการสั
มผั
สกั
บเอนไซม์
โดยใช้
วิ
ธี
ทางกายภาพได้
แก่
การตั
ด การบด
วั
ตถุ
ดิ
บที่
ผ่
านขั
นตอนนี
จะมี
ขนาดเล็
กลง ขั
นตอนต่
อมาคื
อขั
นตอนของการย่
อยสลายเพื่
อให้
เกิ
ดนํ
าตาลหรื
อเรี
ยกว่
Hydrolysis การย่
อยสลายทํ
าได้
ทั
งโดยการใช้
สารเคมี
อย่
างเช่
นกรด (acid hydrolysis) ด่
าง (base hydrolysis) จุ
ลิ
นทรี
ย์
นํ
ร้
อน และการย่
อยสลายโดยใช้
เอนไซม์
(enzymatic hydrolysis) จากนั
นก็
นํ
านํ
าตาล ที่
ได้
มาใช้
ในขั
นตอนของการหมั
ก ซึ
เป็
นกระบวนการทางชี
วเคมี
ที่
เกิ
ดขึ
นในเซลล์
ของสิ่
งมี
ชี
วิ
ตโดยเฉพาะ ยี
สต์
ผลที่
ได้
คื
อเอทานอลและก๊
าซ
คาร์
บอนไดออกไซด์
(นคร, 2553) ขยะเศษอาหารมี
องค์
ประกอบหลั
กเป็
นคาร์
โบไฮเดรตประเภทแป้
งและเซลลู
โลส ย่
อย
สลายได้
นํ
าตาลซึ
งสามารถใช้
เป็
นสารตั
งต้
นในการบวนการหมั
ก เอทานอล Shoubao และคณะ (2011) ได้
ใช้
ขยะเศษ
อาหารเป็
นแหล่
งวั
ตถุ
ดิ
บในการผลิ
ตเอทานอลโดยการย่
อยเศษอาหารด้
วยเอ็
นไซม์
Į
-amylase (5000
u/mL) และ
glucoamylase (150,000 u/mL) ในเวลา 3 ชั่
วโมงได้
นํ
าตาล 164 กรั
มต่
อลิ
ตร และหมั
กเอทานอลด้
วย
Saccharomyces
cerevisiae
ได้
ผลผลิ
ตเอทานอล 75.9 กรั
มต่
อลิ
ตร
Moon และคณะ (2009) ได้
ย่
อยขยะเศษอาหารด้
วยเอนไซม์
amyloglucosidase และ carbohydrase ให้
ผลได้
นํ
าตาล 0.46 กรั
มนํ
าตาลต่
อกรั
มขยะเศษอาหาร และหมั
กเอทานอลด้
วย
S.
cerevisiae
ให้
ผลได้
เอทานอล 0.23 กรั
มเอทานอลต่
อกรั
มขยะเศษอาหาร การผลิ
ตเอทานอลจากการย่
อยขยะเศษอาหารด้
วย
127
การประชุ
มวิ
ชาการระดั
บชาติ
มหาวิ
ทยาลั
ยทั
กษิ
ณ ครั้
งที่
22 ประจำปี
2555
1...,117,118,119,120,121,122,123,124,125,126 128,129,130,131,132,133,134,135,136,137,...1917
Powered by FlippingBook