ระเบี
ยบวิ
ธี
วิ
จั
ย
งานวิ
จั
ยนี้
จั
ดเป
นการวิ
จั
ยเชิ
งสํ
ารวจ (survey research) ผู
วิ
จั
ยอาศั
ยข
อมู
ลปฐมภู
มิ
ซึ่
งเก็
บรวบรวมโดยใช
แบบ
สั
มภาษณ
ที่
สร
างขึ้
น จํ
านวน 2 ชุ
ด ใช
กั
บประชากร 2 กลุ
ม คื
อเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นชั
น ในตํ
าบลลานข
อย อํ
าเภอป
า
พะยอม จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง โดยอาศั
ยข
อมู
ลจากผู
นํ
าชุ
มชน ทํ
าให
ทราบว
ามี
การปลู
กขมิ้
นชั
นมากในตํ
าบลลานข
อย ได
แก
พื้
นที่
หมู
ที่
4 , 5 , 8 และ หมู
ที่
9 ดั
งนั้
นจึ
งได
กํ
าหนดกรอบพื้
นที่
ในการสํ
ารวจข
อมู
ลให
ครอบคลุ
มพื้
นที่
ดั
งกล
าว
หลั
งจากนั้
นจึ
งได
ประสานกั
บผู
นํ
าชุ
มชนในการเก็
บรวบรวมข
อมู
ลจากเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นทั้
งสิ้
นจํ
านวน 113 ราย
ในส
วนของผู
ซื้
อหรื
อผู
รวบรวมขมิ้
นในท
องที่
มี
ทั้
งหมด 5 ราย
สถิ
ติ
ที่
ใช
ในการประมวลผลใช
ค
าสถิ
ติ
พรรณนาได
แก
ค
าเฉลี่
ย ค
าร
อยละและส
วนเบี่
ยงเบนมาตรฐาน โดยอาศั
ยโปรแกรมสํ
าเร็
จรู
ป
SPSS for
Windows
ผลการวิ
จั
ยและอภิ
ปรายผล
1. การผลิ
ตขมิ้
นชั
น
1.1 ลั
กษณะทั่
วไปของการผลิ
ต
ด
านสภาพทั่
วไปของผู
ปลู
กขมิ้
นชั
น พบว
า เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นมี
ทั้
งเพศชายและหญิ
งในสั
ดส
วนใกล
เคี
ยง
กั
น มี
อายุ
เฉลี่
ย 31-39 ป
ส
วนใหญ
สํ
าเร็
จการศึ
กษาในระดั
บประถมศึ
กษาหรื
อต่ํ
ากว
า มี
อาชี
พหลั
ก คื
อทํ
าสวนยางพารา
และปลู
กขมิ้
นชั
นเป
นอาชี
พเสริ
ม เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นชั
นมี
จํ
านวนสมาชิ
กในครั
วเรื
อนเฉลี่
ย 3-4 คน แต
มี
เพี
ยง 1-2
คน เท
านั้
นที่
ทํ
าการเกษตร และมี
พื้
นที่
ถื
อครองและพื
้
นที่
ถื
อครองเพื่
อทํ
าการเกษตร อยู
ระหว
าง 10 -19 ไร
รู
ปที่
1
แปลงปลู
กขมิ้
น
รู
ปที่
2
แปลงปลู
กขมิ้
น
ด
านการผลิ
ตขมิ้
นชั
น พบว
า สภาพการผลิ
ตขมิ้
นชั
นของเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นในป
การเพาะปลู
ก 2547/48
สามารถสรุ
ปได
ดั
งนี้
เกษตรกรส
วนใหญ
ร
อยละ 74 ปลู
กขมิ้
นมานานกว
า 5 ป
ขนาดพื้
นที่
เพาะปลู
ก 1-2 ไร
ส
วน
ใหญ
เป
นที่
ซึ่
งไม
มี
เอกสารสิ
ทธิ์
เนื่
องจากเป
นพื้
นที่
ในเขตป
าสงวนแห
งชาติ
เกษตรกรร
อยละ 80 ปลู
กขมิ้
นชั
นร
วมกั
บ
พื
ชชนิ
ดอื่
น เช
น ยางพารา (ดู
รู
ปที่
1 และ 2) เป
นต
น โดยดิ
นที่
ใช
ปลู
กขมิ้
นส
วนใหญ
เป
นดิ
นร
วน รองลงมาคื
อ ดิ
น
เหนี
ยว ก
อนทํ
าการปลู
ก เกษตรกรมี
การเตรี
ยมพื้
นที่
โดยการฉี
ดยาฆ
าวั
ชพื
ช จากนั้
นจึ
งขุ
ดหลุ
มปลู
กขมิ้
น โดยไม
มี
การ
ไถพรวนดิ
น ระยะห
างระหว
างหลุ
มปลู
กประมาณ 20 - 30 เซนติ
เมตร พั
นธุ
ขมิ้
นที่
นิ
ยมปลู
ก คื
อ ขมิ้
นด
วง โดยใช
แง
ง
เป
นท
อนพั
นธุ
แหล
งที่
มาของท
อนพั
นธุ
ส
วนใหญ
เป
นของตนเอง ปริ
มาณท
อนพั
นธุ
ที่
ใช
ในการปลู
กเฉลี่
ย 310
กิ
โลกรั
มต
อไร
เกษตรกรส
วนใหญ
ร
อยละ 67 เริ่
มปลู
กขมิ้
นในเดื
อนพฤษภาคม และเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ตในเดื
อน
กุ
มภาพั
นธ
ถึ
งมี
นาคม ในการดู
แลรั
กษาขมิ้
นชั
นเกษตรกรมี
การถอนหญ
าและใส
ปุ
ยเคมี
สองครั้
ง รวมระยะเวลาตั้
งแต
เริ่
มปลู
กจนกระทั่
งเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ต 8 - 9 เดื
อน โดยวิ
ธี
การเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ตยั
งใช
วิ
ธี
ดั้
งเดิ
มนั่
นคื
อ การขุ
ดโดยใช
แรงงานคน ผลผลิ
ตเฉลี่
ย 1,776 กิ
โลกรั
มต
อไร
เมื่
อเปรี
ยบเที
ยบผลการวิ
จั
ยครั้
งนี้
กั
บผลการศึ
กษาของ องอาจ หาญ
ชาญเลิ
ศ ฉลอง แบบประเสริ
ฐ และยิ่
งยง ไพศานติ
(2539) พบว
า จํ
านวนผลผลิ
ตเฉลี่
ยต
อไร
ที่
เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นใน