การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 610

ระเบี
ยบวิ
ธี
วิ
จั
งานวิ
จั
ยนี้
จั
ดเป
นการวิ
จั
ยเชิ
งสํ
ารวจ (survey research) ผู
วิ
จั
ยอาศั
ยข
อมู
ลปฐมภู
มิ
ซึ่
งเก็
บรวบรวมโดยใช
แบบ
สั
มภาษณ
ที่
สร
างขึ้
น จํ
านวน 2 ชุ
ด ใช
กั
บประชากร 2 กลุ
ม คื
อเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นชั
น ในตํ
าบลลานข
อย อํ
าเภอป
พะยอม จั
งหวั
ดพั
ทลุ
ง โดยอาศั
ยข
อมู
ลจากผู
นํ
าชุ
มชน ทํ
าให
ทราบว
ามี
การปลู
กขมิ้
นชั
นมากในตํ
าบลลานข
อย ได
แก
พื้
นที่
หมู
ที่
4 , 5 , 8 และ หมู
ที่
9 ดั
งนั้
นจึ
งได
กํ
าหนดกรอบพื้
นที่
ในการสํ
ารวจข
อมู
ลให
ครอบคลุ
มพื้
นที่
ดั
งกล
าว
หลั
งจากนั้
นจึ
งได
ประสานกั
บผู
นํ
าชุ
มชนในการเก็
บรวบรวมข
อมู
ลจากเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นทั้
งสิ้
นจํ
านวน 113 ราย
ในส
วนของผู
ซื้
อหรื
อผู
รวบรวมขมิ้
นในท
องที่
มี
ทั้
งหมด 5 ราย
สถิ
ติ
ที่
ใช
ในการประมวลผลใช
ค
าสถิ
ติ
พรรณนาได
แก
ค
าเฉลี่
ย ค
าร
อยละและส
วนเบี่
ยงเบนมาตรฐาน โดยอาศั
ยโปรแกรมสํ
าเร็
จรู
SPSS for
Windows
ผลการวิ
จั
ยและอภิ
ปรายผล
1. การผลิ
ตขมิ้
นชั
1.1 ลั
กษณะทั่
วไปของการผลิ
ด
านสภาพทั่
วไปของผู
ปลู
กขมิ้
นชั
น พบว
า เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นมี
ทั้
งเพศชายและหญิ
งในสั
ดส
วนใกล
เคี
ยง
กั
น มี
อายุ
เฉลี่
ย 31-39 ป
ส
วนใหญ
สํ
าเร็
จการศึ
กษาในระดั
บประถมศึ
กษาหรื
อต่ํ
ากว
า มี
อาชี
พหลั
ก คื
อทํ
าสวนยางพารา
และปลู
กขมิ้
นชั
นเป
นอาชี
พเสริ
ม เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นชั
นมี
จํ
านวนสมาชิ
กในครั
วเรื
อนเฉลี่
ย 3-4 คน แต
มี
เพี
ยง 1-2
คน เท
านั้
นที่
ทํ
าการเกษตร และมี
พื้
นที่
ถื
อครองและพื
นที่
ถื
อครองเพื่
อทํ
าการเกษตร อยู
ระหว
าง 10 -19 ไร
รู
ปที่
1
แปลงปลู
กขมิ้
รู
ปที่
2
แปลงปลู
กขมิ้
ด
านการผลิ
ตขมิ้
นชั
น พบว
า สภาพการผลิ
ตขมิ้
นชั
นของเกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นในป
การเพาะปลู
ก 2547/48
สามารถสรุ
ปได
ดั
งนี้
เกษตรกรส
วนใหญ
ร
อยละ 74 ปลู
กขมิ้
นมานานกว
า 5 ป
ขนาดพื้
นที่
เพาะปลู
ก 1-2 ไร
ส
วน
ใหญ
เป
นที่
ซึ่
งไม
มี
เอกสารสิ
ทธิ์
เนื่
องจากเป
นพื้
นที่
ในเขตป
าสงวนแห
งชาติ
เกษตรกรร
อยละ 80 ปลู
กขมิ้
นชั
นร
วมกั
พื
ชชนิ
ดอื่
น เช
น ยางพารา (ดู
รู
ปที่
1 และ 2) เป
นต
น โดยดิ
นที่
ใช
ปลู
กขมิ้
นส
วนใหญ
เป
นดิ
นร
วน รองลงมาคื
อ ดิ
เหนี
ยว ก
อนทํ
าการปลู
ก เกษตรกรมี
การเตรี
ยมพื้
นที่
โดยการฉี
ดยาฆ
าวั
ชพื
ช จากนั้
นจึ
งขุ
ดหลุ
มปลู
กขมิ้
น โดยไม
มี
การ
ไถพรวนดิ
น ระยะห
างระหว
างหลุ
มปลู
กประมาณ 20 - 30 เซนติ
เมตร พั
นธุ
ขมิ้
นที่
นิ
ยมปลู
ก คื
อ ขมิ้
นด
วง โดยใช
แง
เป
นท
อนพั
นธุ
แหล
งที่
มาของท
อนพั
นธุ
ส
วนใหญ
เป
นของตนเอง ปริ
มาณท
อนพั
นธุ
ที่
ใช
ในการปลู
กเฉลี่
ย 310
กิ
โลกรั
มต
อไร
เกษตรกรส
วนใหญ
ร
อยละ 67 เริ่
มปลู
กขมิ้
นในเดื
อนพฤษภาคม และเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ตในเดื
อน
กุ
มภาพั
นธ
ถึ
งมี
นาคม ในการดู
แลรั
กษาขมิ้
นชั
นเกษตรกรมี
การถอนหญ
าและใส
ปุ
ยเคมี
สองครั้
ง รวมระยะเวลาตั้
งแต
เริ่
มปลู
กจนกระทั่
งเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ต 8 - 9 เดื
อน โดยวิ
ธี
การเก็
บเกี่
ยวผลผลิ
ตยั
งใช
วิ
ธี
ดั้
งเดิ
มนั่
นคื
อ การขุ
ดโดยใช
แรงงานคน ผลผลิ
ตเฉลี่
ย 1,776 กิ
โลกรั
มต
อไร
เมื่
อเปรี
ยบเที
ยบผลการวิ
จั
ยครั้
งนี้
กั
บผลการศึ
กษาของ องอาจ หาญ
ชาญเลิ
ศ ฉลอง แบบประเสริ
ฐ และยิ่
งยง ไพศานติ
(2539) พบว
า จํ
านวนผลผลิ
ตเฉลี่
ยต
อไร
ที่
เกษตรกรผู
ปลู
กขมิ้
นใน
1...,600,601,602,603,604,605,606,607,608,609 611,612,613,614,615,616,617,618,619,620,...702
Powered by FlippingBook