การประชุมวิชาการและผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ ครั้งที่ 17 2550 - page 20

12
พหุ
คู
ณ (Multiple Regression Analysis) โดยใส
ตั
วแปรทํ
านายเข
าไป 5-10 ตั
ว และกระทํ
าการ
วิ
เคราะห
ทั้
งในกลุ
มรวมและกลุ
มย
อยดั
งกล
าว
ผลการวิ
เคราะห
ข
อมู
ลในงานวิ
จั
ยเรื่
องหนึ่
งๆ ในสายจิ
ตพฤติ
กรรมศาสตร
นี้
จะมี
มากมาย
นั
กวิ
จั
ยต
องมี
การสรุ
ปผลเป
นขั้
นๆ ที่
เรี
ยกว
การทดผลขั้
นที่
1, 2 และ 3
ดั
งได
เขี
ยนบรรยายอย
าง
ละเอี
ยด เกี
ยวกั
บวิ
ธี
การทดผลการวิ
เคราะห
ความแปรปรวนแบบสามทางไว
แล
ว (ดวงเดื
อน
พั
นธุ
มนาวิ
น 2544) ซึ่
งเป
นการปฏิ
บั
ติ
ตาม
หลั
วิ
ทยาศาสตร
การให
ข
อสรุ
ปผลการวิ
จั
ยที่
มี
ความ
ครอบคลุ
กรณี
ต
างๆ ในสั
งคมได
อย
างกว
างขวาง
งานวิ
จั
ยสายนี้
ยั
งได
ใช
สถิ
ติ
ขั้
นสู
งแบบอื่
นๆ ที่
จะสามารถให
ข
อสรุ
ปใหม
ๆ เช
น Path
Analysis และอื่
นๆ อี
กด
วย ซึ่
งทํ
าให
ผลงานวิ
จั
ยเหล
านี้
มี
คุ
ณค
ามากยิ่
งขึ้
นต
อๆ ไป
การใช
สถิ
ติ
วิ
เคราะห
ขั้
นสู
งที่
ครอบคลุ
มหลายตั
วแปรอิ
สระ เช
น Multiple
Regression
Analysis และหลายตั
วแปรตามไปพร
อมกั
น เช
น การหาค
า Canonical Correlation ทํ
าให
ผลการวิ
จั
สามารถบ
งชี้
ตั
วแปรอิ
สระเชิ
งเหตุ
ที่
สํ
าคั
ญต
อพฤติ
กรรมหนึ่
ง ว
าร
วมกั
นทํ
านายความแปรปรวนของ
ค
าของพฤติ
กรรมในกลุ
มตั
วอย
างที่
ศึ
กษานี้
ได
กี่
เปอร
เซนต
และมี
ตั
วทํ
านายอะไรบ
างที่
มี
ความสํ
าคั
อั
นดั
บแรก และรองๆ ลงไป ซึ่
งจะเป
นผลที่
อาจแตกต
างกั
นได
ในกลุ
มผู
ถู
กศึ
กษาประเภทต
างๆ
ในที่
นี้
ขอกล
าวถึ
งข
อควรระวั
ง ดั
งนี้
จากผลการวิ
จั
ยที่
ใช
รู
ปแบบการวิ
จั
ยความสั
มพั
นธ
เปรี
ยบเที
ยบ (Correlational comparative Study) ที่
ได
ข
อสรุ
ปจากการวิ
เคราะห
ข
อมู
ลทางสถิ
ติ
แบบหาค
สั
มประสิ
ทธิ์
สหสั
มพั
นธ
หรื
อ การวิ
เคราะห
ความแปรปรวน หรื
อ การวิ
เคราะห
แบบถดถอยพหุ
คู
ผลเหล
านี้
ยั
งไม
สามารถระบุ
ความเป
นสาเหตุ
ต
างๆ ของตั
วแปรตามที่
ศึ
กษาได
ถ
าทํ
าการวิ
เคราะห
แบบ
Path Analysis จะสามารถให
ผลใกล
เคี
ยงกั
บการระบุ
สาเหตุ
กั
บผล แต
อย
างไรก็
ตาม การทํ
าการวิ
จั
เชิ
งทดลอง (Experimental Study) โดยนั
กวิ
จั
ยสร
างสาเหตุ
หนึ่
งๆ ในปริ
มาณต
างๆ กั
น แล
ววั
ดดู
ว
าผลที่
คาดจะเกิ
ดตามมาในปริ
มาณต
างๆ ด
วยหรื
อไม
การจั
ดการที่
สาเหตุ
ในการวิ
จั
ยเชิ
งทดลองเท
านั้
นที่
นั
กวิ
ชาการจะยอมรั
บ การพิ
สู
จน
ความเป
นสาเหตุ
กั
บผลได
อย
างแท
จริ
ง (Meltzoff, 1998, pp. 26-27) ซึ่
เหมาะสมต
อการที่
นั
กพั
ฒนาจะนํ
าไปกํ
าหนดแนวทางการพั
ฒนาเพื่
อเพิ่
มพฤติ
กรรมหนึ่
งๆ ในคน
ประเภทต
างๆ ได
อย
างดี
ประการสุ
ดท
าย
คื
การให
ผลวิ
จั
ยแบบครบวงจร
เพื่
อนั
กพั
ฒนาจะได
นํ
าผลการวิ
จั
ยเรื่
อง
หนึ่
งๆ หรื
อหลายเรื่
องไปใช
ตอบคํ
าถามให
ครบทุ
กข
อที่
จํ
าเป
นก
อนดํ
าเนิ
นการพั
ฒนา
ในป
จจุ
บั
นนั
กวิ
จั
ยระบบพฤติ
กรรมไทยที่
ได
รั
บทุ
นจากสํ
านั
กงานคณะกรรมการวิ
จั
แห
งชาติ
(วช.) จะทํ
าวิ
จั
ยที่
ให
ผลวิ
จั
ยหลายด
านที่
สํ
าคั
ญภายในเรื่
องวิ
จั
ยเดี
ยว คํ
าถามที่
นั
กพั
ฒนาต
อง
ตอบก
อนทํ
าวิ
จั
ยมี
3 ข
อ คื
อ (1)
ใครคื
อกลุ
มเป
าหมายเร
งด
วนควรพั
ฒนาก
อน
คนประเภทอื่
นๆ ใน
การนี้
ผลวิ
จั
ยจะต
องให
ข
อมู
ลประเภทตรวจอาการ สามารถหากลุ
มคนที่
มี
จิ
ตหรื
อพฤติ
กรรมที่
น
ปรารถนาน
อยกว
าคนประเภทตรงข
าม หรื
อมี
จิ
ตหรื
อพฤติ
กรรมที่
ไม
น
าปรารถนามากกว
าคน
ประเภทอื่
นๆ ที่
พบบ
อยในการวิ
จั
ยสายนี้
หลายเรื่
อง ตั้
งแต
อดี
ตถึ
งป
จจุ
บั
น คื
อ คนไทยเพศชายตั้
งแต
1...,10,11,12,13,14,15,16,17,18,19 21,22,23,24,26-27,28-29,30-31,32,33,34,...702
Powered by FlippingBook